หลังจากผ่านครึ่งของครึ่งซีซั่น 2018-19 มาแล้วนั้น ต้องบอกว่าเข้มข้นสุดๆ ทั้งตำแหน่งลุ้นแชมป์, โควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ การลุ้นหนีตกชั้น แน่นอนว่าเรื่องฟอร์มการเล่น ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเตะในทีมด้วยว่าผลงานยอดเยี่ยมขนาดไหน
ฉะนั้นก่อนจะเปลี่ยนศักราช จากปี 2018 ไปเป็นปี 2019 และ จะต้องฟาดแข้งกันต่อเพื่อชัยชนะ มาลองจัดทีมยอดเยี่ยมครึ่งซีซั่นแรกกันว่า มีใครคู่ควรติดทีมบ้าง
ผู้รักษาประตู : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล)
ตั้งแต่หมดยุค เปเป้ เรน่า ลิเวอร์พูล ก็แทบไม่ได้เจอผู้รักษาประตูดีๆอีกเลย จนกระทั่งความผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มซื้อ อลิสซอน เบ็คเกอร์ มาจาก โรม่า ถึง 66 ล้านปอนด์ และ มันก็สร้างผลกระทบอย่างยิ่ง เมื่อ อลิสซอน เข้ามาเป็นปราการด่านสุดท้าย ที่โคตรเหนียว เขามีเปอร์เซ็นต์การเซฟที่แทบมากที่สุดของลีก และ ที่สำคัญพา "หงส์แดง" เสียแค่ 8 ประตู เท่านั้น
แบ็กขวา : อารอน วาน-บิสซาก้า (คริสตัล พาเลซ)
จริงๆแล้วตำแหน่งแบ็กขวาก็เลือกยากเหมือนกัน แต่หากจะลองเหลือบมองไปยังทีมเล็กๆ ก็ต้องบอกว่าพอจะมีพื้นที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ดาวรุ่งวัย 21 ปี ของ คริสตัล พาเลซ ซึ่งถูกดันขึ้นมาเล่นชุดใหญ่แบบเต็มตัว และ ไอหนูรายนี้ มีสถิติการเข้าแท็คเกิ้ลชนะคู่แข่งแตะหลักถึง 90 % มีเพียง เวส มอร์แกน กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ทำได้ดีกว่า ฉะนั้นเลยขอมอบตำแหน่งแบ็กขวายอดเยี่ยม ครึ่งซีซั่นแรกให้เลย
เซ็นเตอร์แบ็ก : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ ถ้า ลิเวอร์พูล เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ยังจินตนาการไม่ออกเลยว่า "หงส์แดง" จะมีรูปแบบการเล่นเพียงใด เพราะ "บิ๊กเฟอร์จิล" เข้ามาขจัดปัญหากองหลังอันเปื่อยยุ่ย ให้หายสาบสูญไปแล้ว ลูกกลางอากาศเก็บกินเรียบ, ดักกองหน้าคู่แข่งสบายๆ, มีสกิลการจ่ายบอล และ แน่นอนเขาทำประตูได้แล้ว เรียกว่าการที่ ลิเวอร์พูล นำสู่จ่าฝูง ฟาน ไดค์ มีส่วนสำคัญอย่างมาก
เซ็นเตอร์แบ็ก : อายเมริค ลาปอร์ต (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
เราจะเห็นได้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามจะสลับนักเตะตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก แต่หนึ่งคนตัวหลักที่ยืนยาวๆ และ แทบได้ลงสนามเป็นตัวจริงอยู่ตลอด นั่นก็คือ อายเมริค ลาปอร์ต ต้องบอกว่าเป็นแนวรับ "เรือใบสีฟ้า" ที่เล่นได้นิ่งเหลือเกิน นอกจากทักษะการเล่นกองหลังที่ครบเครื่องแล้วนั้น การจ่ายบอลของเขาก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม
แบ็กซ้าย : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
ไม่แปลกใจหรอก ที่ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ แบ็กซ้ายตัวสำรองของ ลิเวอร์พูล จะออกมาบ่น เจอร์เก้น คล็อปป์ ว่าไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม นั่นก็เพราะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน โชว์ฟอร์มได้สุดติ่งกระดิ่งแมว เรียกว่าใครมีนักเตะคนนี้อยู่ในทีมแฟนตาซี คะแนนมีพุ่งปรี๊ด เพราะนอกจากจะเก็บคลีนชีตได้มากมายแล้วนั้น ยังมีแอสซิสต์เปิดงามๆให้กับเพื่อนได้ด้วย ซึ่งครึ่งซีซั่นแรก กดไปแล้ว 3 แอสซิสต์
กองกลาง : ลูคัส ตอร์เรร่า (อาร์เซน่อล)
หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงตลาดซัมเมอร์ นั่นก็คือ ลูคัส ตอร์เรร่า เมื่อเขามีอิมแพ็คกับฟอร์มการเล่น "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล มากเหลือเกิน เป็นกองกลางในสไตล์ที่สโมสรตามหามานานหลายปี ถึงแม้ตัวจะเล็ก แต่ก็ "พริกขี้หนู" เขา ตอร์เรร่า มีความขยัน, จ่ายบอลแม่น, ตัดบอลดี และ ขึ้นมาช่วยทำประตูได้อีกด้วย
กองกลาง : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ต้องยอมถ่ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มาอยู่ในตำแหน่งกองกลางแล้วกัน แต่ให้เป็นแบบกองกลางริมเส้นอะไรทำนองนี้ เพราะจะตัดชื่อของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ออกไปไม่ได้เลย เนื่องจากซีซั่นนี้ หนูราฮีม พัฒนาแบบก้าวกระโดดเหลือเกิน โดยเฉพาะการจบสกอร์ ขึ้นมาเทียบเท่ากับ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงเบอร์ 1 ของทีมด้วยซ้ำ แถมยังมีแอสซิสต์เข้ามาช่วยทัพ "เรือใบสีฟ้า" ได้อีก 6 ครั้ง
กองกลาง : เอแดน อาซาร์ (เชลซี)
ขาดเธอ ก็คงขาดใจ .. เพราะ เอแดน อาซาร์ คือดาวเตะเบอร์ 1 ของ เชลซี ในเวลานี้เลยก็ว่าได้ หลายๆเกมที่ อาซาร์ ต้องงัดสกิลส่วนตัวออกมา เพื่อช่วยพาทีมเก็บ 3 คะแนน และ มันก็สัมฤทธิ์ผลอย่างมาก ไม่เชื่อให้ลองไปดูสถิติได้เลย โดย ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม กลายเป็นผู้เล่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ ที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูมากสุด ยิงไป 10 ประตู กับอีก 9 แอสซิสต์
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
ไม่ทำให้เสียชื่อ กับกองหน้าที่ดีที่สุดของชาวอังกฤษ ในเวลานี้ เพราะ แฮร์รี่ เคน ยังคงรักษาฟอร์มเครื่องจักรถล่มประตูให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้เหมือนเดิม แมตช์เล็กแมตช์ใหญ่มักจะชื่อของเขาอยู่บนสกอร์บอร์ดอยู่เสมอ ด้วยจำนวน 13 ประตู ที่กดใส่คู่แข่งไปนั้น อย่างน้อยก็ทำให้ "ไก่เดือยทอง" ได้มีชื่อลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เช่นกัน
กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
ก็เก่งแค่ซีซั่นเดียวแหละ ? นี่คือคำพูดที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องประสบพบเจอกับช่วงต้นซีซั่น ที่ฟอร์มการเล่นไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนกับซีซั่นก่อน แต่ในความเงียบ มักจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่เสมอ โดย ซาลาห์ ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเอง ใครจะพูดอะไรก็พูดไป จนกระทั่งเผลอแป๊บเดียว "คิง ออฟ อียิปต์" กดไปแล้ว 13 ประตู นำเป็นดาวซัลโวร่วม และ ที่แน่ๆคือลุ้นพา "หงส์แดง" คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แบบเต็มตัว
กองหน้า : ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง (อาร์เซน่อล)
กำลังคิดอยู่ว่าควรจะใส่ชื่อ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ลงไปหรือไม่ หลังจากนั่งทบทวนอยู่นาน ก็ต้องตัดสินใจใส่ชื่อลงไป เพราะต่อให้จะมีนักเตะฝีเท้าดีอีกหลายคน แต่ทว่าหัวหอกทีมชาติกาบอง ก็ถือว่าเข้าฝักจริงๆ ถึงแม้เวลาเล่นเกมใหญ่ๆ อาจไม่ค่อยมีประตูมากนัก แต่ทว่าการแข่งเรื่องดาวซัลโว ยังคงเป็นของชอบของเขา และ ปัจจุบันก็กดไปแล้ว 13 ลูก นับว่าได้ลุ้นกับ แฮร์รี่ เคน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยาวๆ
สำรอง : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด), เบน ชิลเวลล์ (เลสเตอร์ ซิตี้), แบร์นาโด้ ซิลวา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), ซน-ฮึง มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)
