logo-heading

ตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมได้เปิดทำการแล้วและในช่วง 3-4 วันมานี้ก็มีนักเตะหลายคนที่ได้โอกาสย้ายถิ่นฐานไปค้าแข้งให้ต้นสังกัดใหม่

ตัวที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งก็คือ ลูคัส ปาเกต้า ดาวรุ่งพุ่งแรงจากสโมสร ฟลาเมงโก้ ที่ได้ตกลงย้ายไปค้าแข้งให้ เอซี มิลาน ตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร เพราะนี่คือพ่อค้าแข้งที่ได้รับฉายาว่า 'นิว ริคาร์โด้ กาก้า' วันนี้ทาง 'ขอบสนาม' จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไอ้หมอนี่กัน

ประวัติพอสังเขป

ลูคัส ปาเกต้า หรือชื่อเต็มคือ ลูคัส โตเลนติโน่ โคเอลโญ่ เด ลิม่า เป็นชาวบราซิเลี่ยนตั้งแต่กำเนิด เกิดวันที่ 27 สิงหาคม ปี 1997 ที่ ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศ บราซิล ปัจจุบันอายุ 21 ปีเป็นเด็กปั้นจากศูนย์ฝึกเยาวชน ฟลาเมงโก้ เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกหรืออีกชื่อหนึ่งคือเพลย์เมคเกอร์นั่่นเอง

เส้นทางค้าแข้งก่อนหน้านี้

ลูคัส ปาเกต้า ได้โอกาสย้ายมาปลุกปั้นตัวเองในอคาเดมี่ของ ฟลาเมงโก้ ตอนอายุ 10 ขวบในปี 2007 เขาเป็นเด็กที่มีทักษะสกิลที่เหลือร้าย แต่กลับมีจุดด้อยตรงที่ส่วนสูงที่เตี้ยกว่าเด็กรุ่นเดียวตอนอายุ 15 ปี อย่างไรก็ตาม ปาเกต้า ได้รับการสนับสนุนบวกกับความพยายามของตัวเอง ก่อนที่อีก 3 ปีต่อมาในวัย 18 ปีเขาสูงขึ้นจากเดิมถึง 27 เซนติเมตรเลยทีเดียว (ปัจจุบันสูง 180 เซนติเมตร) พร้อมกับเป็นกำลังหลักที่พา ฟลาเมงโก้ ชุดเยาวชนคว้าแชมป์ โคปา เซา เปาโล เดอ จูเนียเรส

เมื่อได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ฟลาเมงโก้

หลังได้รับการปลุกปั้นและบ่ทเพาะฝีเท้าอยู่นานตั้งแต่ปี 2007 ลูคัส ปาเกต้า ก็ได้โอกาสขึ้นไปสัมผัสประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่ในปี 2006 พร้อมได้สัญญาอาชีพโดยเซ็นยาวถึงปี 2020 ปาเกต้า ได้เปิดตัวเกมแรกในวันที่ชนะ บานกู 3-1 ในรายการ ริโอ เดอ จาเนโร สเตท ลีก ก่อนจะมาซัดประตูแรกในสีเสื้อ ฟลาเมงโก้ ชุดใหญ่ ในนัดที่ถล่ม มาดูเรร่า 4-0 ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2017 ในรายการสำคัญอย่าง โคปา โด บราซิล ปี 2017 รอบชิงชนะเลิศ ลูคัส ปาเกต้า ก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ดก่อนผลจะจบลงที่การเสมอ 1-1 ในการดวลแข้งกับ ครูไซโร่ ที่ มาราคาน่า เท่านั้นยังไม่พอในศึก โคปา ซูดาเมริกาน่า รอบชิงชนะเลิศ ที่เจอกับ อินเดเพนดิเอนเต้ ปาเกต้า ก็ยังยิงประตูได้อีก ถึงแม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของพี่แกทำให้เขาได้รับการยกย่องจากคู่แข่งและแฟนบอล ก่อนจะได้รับเสียงโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมและเป็นขวัญใจของชาว ฟลาเมงโก้ ในปีนั้น ส่วนปีถัดมาใน คัมเปโอนาโต้ คาริโอก้า ลูคัส ปาเกต้า เป็นผู้เล่นคนเดียวของ ฟลาเมงโก้ ที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม โดยได้ประจำการในตำแหน่งปีกซ้าย

รั้วทีมชาติ

ลูคัส ปาเกต้า ได้โอกาสรับใช้ทีมชาติ บราซิล ครั้งแรกก็คือตอนปี 2016 กับชุดยู-20 ปี และก็เปิดซิงประตูแรกได้ทันทีในเกมเปิดตัวที่อุ่นเครื่องชนะ อังกฤษ 2-1 ก่อนจะถูกเรียกตัวไปเป็นกำลังหลักในศึก ควาดรังกูลาร์ เดอ เซเลกอส พออายุได้ 18 ปีบวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมา ปาเกต้า ได้ขยับขึ้นไปรับใช้ บราซิล รุ่นอายุุไม่เกิน 23 ปีเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ โอลิมปิก เกมส์ 2016 แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีส่วนร่วมวันลงสนามจริง แต่ใน โอลิมปิก เกมส์ ปี 2020 ที่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พี่แกถูกวางตัวไว้ว่าจะมีบทบาทสำคัญแน่นอน เมื่อฝีเท้าพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยทำให้ ติเต้ หยิบยื่นโอกาสพา ลูคัส ปาเกต้า ก้าวขึ้นมาเล่นให้ บราซิล ชุดใหญ่ โดยได้ติดธงไปแล้ว 2 นัดซึ่งเป็นเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ สหรัฐอเมริกา และ เอล ซัลวาดอร์ ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

สไตล์การเล่น

ผลงานตลอด 3 ปีที่ ฟลาเมงโก้ ลูคัส ปาเกต้า ได้ลงเล่นไป 95 นัด ยิงได้ 18 ประตู ถึงแม้จะไม่ได้สถิติการยิงประตูที่ถล่มทลาย แต่เรื่องของเทคนิค, ลีลาและความแพรวพราวในการเล่นบอลนั้นจะทำให้คุณนึกถึง เนย์มาร์ ซึ่งมีพิษสงร้ายกาจในการดวล 1-1 กับคู่ต่อสู้ แต่คนใน บราซิล ส่วนใหญ่ต่างยกย่องพี่แกว่าเป็น นิว ริคาร์โด้ กาก้า มากกว่า เพราะจุดเด่นจริงๆ ของ ปาเกต้า คือการสร้างสรรค์เกม, การไปกับบอลซึ่งทะลุทะลวงได้ดี แถมยังเด็ดดวงมากๆ เรื่องการเล่นลูกตั้งเตะ นอกจากนี้ด้วยรูปร่างสรีระที่สูงใหญ่ยังทำให้พี่สามารถเล่นลูกกลางอากาศได้ดีอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่มีอาวุธครบมือจริงๆ

ทีมที่สนใจ

ถึงแม้ตัวจะอยูไกลถึง บราซิล แต่ด้วยฟอร์มการเล่นและพรสวรรค์ที่เฉิดฉายทำให้หลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปให้ความสนใจในตัว ลูคัส ปาเกต้า เป็นอย่างมากซึ่งนอก เอซี มิลาน แล้วก็ยังมี เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่สาเหตุที่เลือก เอซี มิลาน ตามรายงานของ จานลูก้า ดิ มาร์ซิโอ สื่อในอิตาลีได้ระบุว่าเป็นเพราะ ปาเกต้า หลงใหลและคลั่งไคล้ในประวัติศาสตร์ของสโมสร เอซี มิลาน

คำชมจาก กาก้า

เมื่อได้รับการยกย่องว่าเป็น 'นิว กาก้า' ทางตัวต้นแบบอย่าง ริคาร์โด้ กาก้า ก็เคยเปิดปากพูดถึง ลูคัส ปาเกต้า เอาไว้เหมือนกันผ่านทางช่อง 'มิลาน ทีวี' โดยระบุว่า... 'เขาเป็นผู้เล่นที่มีอนาคตสดใสแน่นอน เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติ บราซิล ชุดใหญ่ไปแล้ว แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเราไม่เอาเขาไปเปรียบเทียบกับใคร ผมเห็นหลายคนเอาเขาไปเทียบกับ อเล็กซานโดร ปาโต้, ริวัลโด้, โรนัลดินโญ่ หรือแม้กระทั่งตัวผม ผมคิดว่าเราควรหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบตัวนักเตะ เพราะมันจะเป็นการกดดันเขา แต่ผมมั่นใจว่าเขาจะเฉิดฉายแน่นอน' https://www.youtube.com/watch?v=V_6-WjMH5N0
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline