logo-heading

มิโลวาน ราเยวัช ส่อแววเงาหัวหาย หลังทำงานหน้าพาทีมชาติไทย ประเดิมสนามเอเชียน คัพ 2019 โดยอินเดียใช้แท็คติกสวนกลับยิงทีมแดนสยาม 4-1 หักปากกาเซียนไปแบบเหนือความคาดหมาย

เอเชียน คัพ 2019 ในกลุ่มเอ ที่สนามอัลนะฮ์ยาน สเตเดี้ยม ในกรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทย ลงสนามเกมแรกเจอกับอินเดีย เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช ส่ง3 ตัวหลักจากเจลีก ทั้ง "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน เป็นแบ็คซ้าย, "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นเพลย์เมกเกอร์, "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา เป็นหน้าเป้า โดยสถิติการพบกันล่าสุด ไทยบุกไปชนะอินเดีย ได้ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2010 ด้วยสกอร์ 2-1 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้วนั้นเอง ครึ่งแรกนาที .27 ไทยมาเสียจุดโทษจากจังหวะที่ ธีราทร ถูกจับแฮนด์บอลในเขตโทษ ก่อนจะเป็น สุนิล เชตรี รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ อินเดีย พลิก นำ ไทย 1-0 อย่างไรก็ดีนาที 33 ไทยตามตีเสมออย่างรวดเร็ว 1-1 ธีราทร เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ก่อนจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา เทกตัวขึ้นโหม่งแสกหน้า กูร์ปีต ซิงห์ สันธุ ตุงตาข่าย หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก ไทย เสมอ อินเดีย 1-1 กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังแค่ 2 นาทีอินเดีย โต้กลับและมาได้ประตูนำอีกครั้ง 2-1 คุมาม อูดันตา เติมขึ้นมาทางกราบขวาก่อนตบเข้ากลางบอลทะลุมาถึง  เชตรี คนเดิมได้ซัดโล่งๆ ฉัตรชัย หมดสิทธิ์เซฟ จากนั้นยังคงเป็นอินเดียที่เปิดเกมบุกใส่มากกว่า นาที 66 อินเดีย นำห่าง 3-1 จากจังหวะสวนกลับ  เชตรี จ่ายทะลุช่องให้ คุมาม อูดันตา หลุดเดี่ยว ก่อนจะจ่ายต่อให้ อนิรุธ ฐาปา หลุดขึ้นมาชิพผ่านแนวรับทีมชาติไทยเข้าไปแบบเหนือชั้น ท้ายเกมนาที 81 เจเจ ลัลเพคลัว ตัวสำรองของอินเดีย ที่พึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมา ซัดประตูให้อินเดีย หนีห่างไทย เป็น 4-1 เวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกม อินเดีย หักปากกาเซียนเอาชนะทีมชาติไทย ไป 4-1 เก็บ 3 แต้มแรก พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอ นอกจากนี้ยังเป็นการกำชัยเหนือแข้งแดนสยามเป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปี หลังเคยเฮหนสุดท้ายในรายการเมอร์เดก้า ปี 1986 ที่มาเลเซีย ด้วยสกอร์ 3-1 สำหรับโปรแกรมนัดที่2 ในเอเชียน คัพ ทีมชาติไทย จะเจอกับบาห์เรน ในวันที่ 10 มกราคมนี้ ที่เมืองดูไบ รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK), ทริสตอง โด, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, ธีราทร บุญมาทัน, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ศุภชัย ใจเด็ด, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา  
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline