ผู้เล่นตำแหน่งฟูลแบ็กเป็นตำแหน่งที่ตามหาตัวฝีเท้าดีๆ ยากมาก เพราะยุคนี้ฟูลแบ็กต้องทำงานหนักมากไม่ว่าจะเป็นการเติมเกมบุกตลอดจนการลงมาช่วยเกมรับ
วันนี้ทาง
'ขอบสนาม' ขอนำเสนอ Topic
10 ฟูลแบ็กที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ แต่นับเฉพาะแค่ในศึก พรีเมียร์ลีก เท่านั้น จะมีใครกันบ้างนั้นไปติดตามรับชมกันได้เลย
10.ริคาร์โด้ เปเรร่า - เลสเตอร์ ซิตี้
ริคาร์โด้ เปเรร่า อาจเป็นนักเตะโนเนม แต่สำหรับ โคล้ด ปูแอล นี่คือฟูลแบ็กที่เพอร์เฟคสุดๆ ในความคิดเขา เมื่อได้วัดจากบทสัมภาษณ์ที่ว่
า 'ผมใช้เวลาค้นหา 6-7 เกม ริคาร์โด้ มีความแข็งแกร่งในการปะทะและการดวลชิงเหลี่ยม เขาช่วยให้เพื่อนเล่นบอลได้สบายขึ้นตลอดจนการกดดันคู่แข่งได้ดี แถมยังขยับไปเล่นกองหน้าได้ด้วย เขาเป็นนักเตะที่สมบูรร์แบบจริงๆ '
9.ลูคัส ดีญ - เอฟเวอร์ตัน
ลูคัส ดีญ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาใช้ชีวิตในถิ่น กูดิสัน พาร์ค และก็ไม่แปลกใจเลยกับการรับบทบาททายาทของ เลห์ตัน เบนส์ เพราะฤดูกาลนี้พี่แกยิงไปแล้ว 3 ประตูและทำแอสซิสต์ไปอีก 2 ครั้ง แถมบอลจากเท้ายังหวังผลได้อีกด้วยยามเปิดลูกครอสส์ นอกจากนี้ ลูคัส ดีญ ยังมีค่าเฉลี่ยในการแท็คเคิ่ล 2 ครั้งต่อเกม, เคลียร์บอล 2.3 ครั้งต่อเกม และสกัดบอล 1.6 ครั้งต่อเกม
8.มาร์กอส อลอนโซ่ - เชลซี
แจ้งเกิดขึ้นมาจนโด่งดังกับการเล่นระบบ 3-4-3 ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ มาร์กอส อลอนโซ่ เป็นคนขยันว วิ่งขึ้นวิ่งลงได้ไว ตลอดจนยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่กลับไปเล่นหลัง 4 ก็ยังคงมาตรฐานเดิมไม่มีตก แถมช่วงหลังยังมีทีเด็ดจากลูกฟรีคกที่เด็ดดวงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมกับเกมรุกสุดๆ และก็ทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์
7.แมตต์ โดเฮอร์ตี้ - วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส
ถึงแม้ แบร์รี่ ดักลาส จะเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาปีที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน เป็นแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และตีตั๋วขึ้นชั้นสู่เวที พรีเมียร์ลีก แต่ปีนี้ตัวเลือกอันดับแรกกลับเป็น แมตต์ โด เฮอร์ตี้ หลังสวมบทบาทเป็นคีย์แมนสำคัญของทีม ยิงไปแล้ว 3 ประตูและทำไปอีก 4 แอสซิสต์ นับเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของผู้เล่นตำแหน่งฟูลแบ็ก
6.ไคล์ วอล์คเกอร์ - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ไคล์ วอล์คเกอร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นฟูลแบ็กเบอร์ต้นๆ ของ อังกฤษ ตั้งแต่สมัยอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไล่มาจนกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ช่วงหลังโอกาสลงเล่นอาจจะน้อยลง เป็นสำรองบ่อยขึ้นซึ่งมันก็เป็นเพราะมีอาการบาดเจ็บนั่นเอง แต่เมื่อได้โอกาสก็ยังคงทำผลงานได้ค่อนข้างดีและพึ่งพาได้ ถึงแม้มาตรฐานจะมีตกๆ ไปบ้าง แต่ใครก็ตามที่ได้ดวลกับพี่แกบอกเลยว่าก็ต้องมีหวั่นใจกันบ้าง
5.อารอน วาน-บิสซาก้า - คริสตัล พาเลซ
อารอน วาน-บิสซาก้า เดิมทีตอนเล่นให้ คริสตัล พาเลซ ชุดเยาวชนประจำการในตำแหน่งปีกมาก่อน แต่ปีก่อนถูก รอย ฮ็อดจ์สัน ทาบทามตัวขึ้นมาชุดใหญ่โดยให้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ก ส่วนเรื่องการเล่นเกมบุกนี่หายห่วง ขณะที่เกมรับก็อาจมีติดๆ ขัดๆ บ้างแต่พักหลังก็มีพัฒนาการให้เห็นเรื่อยๆ และนี่ก็คือส่วนสำคัญที่ช่วยพาทัพ 'ปราสาทเรือนแก้ว เก็บได้ 8 คลีนชีทจาก 21 เกม'
4.เบน ชิลเวลล์ - เลสเตอร์ ซิตี้
เบน ชิลเวลล์ ได้กลายเป็นแข้งตัวหลักของ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยสมบูรณ์แบบในวัยแค่ 22 ปี โดยจุดเด่นของเจ้าคือความรวดเร็วและคล่องตัว ตลอดจนการเติมเกมบุกได้ดี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะปรับตัวเข้ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดใหญ่ได้ไว้หลังจากได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เพราะนี่คือทีมเกมรุกที่น่ากลัวอันดับต้นๆ ของศึก พรีเมียร์ลีก
3.เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ - ลิเวอร์พูล
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เริ่มได้โอกาสมากขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วท่ามกลางสภาวะนักเตะบาดเจ็บที่มีอยู่หลายคน และพี่แกก็ตอบแทนความไว้วางใจจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ดีทีเดียว เพราะนับวันยิ่งมีวิวัฒนาการให้เห็นเรื่อยๆ ทั้งการเติมเกมบุกและช่วยเกมรับ แถมยังมีทีเด็ดจากการสังหารฟรีคิกอีกด้วย ซึ่ง่ตอนนี้ เทรนต์ คือเบอร์ 1 ของ ลิเวอร์พูล รวมถึงทีมชาติ อังกฤษ ส่วนผลปีนี้ในลีกแอสซิสต์ไปแล้ว 3 ครั้ง และยิงได้ 1 ประตู
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า - เชลซี
เชลซี เก็บได้ 10 คลีนชีมจาก 21 นัดใน พรีเมียร์ลีก ที่มี เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และนี่ก็คือกองหลังที่ดีที่สุดของ เชลซี ในยุคนี้แถมยังเป็นคนที่พึ่งพาและมีจังหวะการสกัดบอลที่ชัวร์ที่สุด เดฟ สามารถเล่นได้ทั้งฟูลแบ็กตลอดจนเซ็นเตอร์แบ็ก ถ้าขาดเขาไปสักคนต้องบอกเลยว่า เชลซี ต้องปวดกบาลแน่นอน ส่วนผลงานในปีนี้่แกทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ลิเวอร์พูล
แอนดรูว์ ยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริง ลิเวอร์พูล แบบถาวรฤดูกาลนี้ แถมยังเป็นคีย์แมนสำคัญด้วยเพราะไม่ว่าเกมบุกหรือเกมรับพี่แกเล่นได้โดดเด่นมากๆ และที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ส่วนหนึ่งตกยกความดีความชอบให้พี่แกด้วย เพราะเกมบุกก็มีส่วนร่วมเยอะ หลังทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์ ส่วนเกมรับก็มีส่วนสำคัญที่พาทีมเสียประตูแค่ 10 ลูกเท่านั้นจาก 21 เกม