เปิดไทม์ไลน์ของ... 'เอมิเลียโน่ ซาลา' กว่าจะเป็นยอดดาวยิงแห่ง ลีกเอิง

ข่าวใหญ่ของวงการฟุตบอลในตอนนี้คงหนีไม่พ้นเครื่องบินที่บรรทุก เอมิเลียโน่ ซาลา แข้งป้ายแดงของ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ที่หายไปจากจอเรดาร์และตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็กำลังช่วยกันค้นหาอย่างสุดชีวิต

วันนี้ทาง ขอบสนาม เราเลยจะนำไทม์ไลน์ชีวิตการค้าแข้งของหัวหอกวัย 28 ปี ว่ามีที่มาอย่างไร กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าเบอร์ต้นๆ ของลีกประเทศฝรั่งเศส จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ คาร์ดิฟฟ์ ยอมทุมเงินจำนวน 15 ล้านปอนด์ที่เป็นสถิติสูงสุดของสโมสรในการคว้าตัวในครั้งนี้ 1994 : หลังจากลืมตาดูโลกได้เพียง 4 ปี ในกรุงซานตาเฟ่ ประเทศอาร์เจนติน่า เอมิเลียโน่ ซาลา ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ซาน มาร์ติน และฝึกปรือลูกหนังอยู่ที่นั้นนานถึง 11 ปี 2005 - 2010 : จนกระทั่งอายุ 15 ปีก็ได้เก็บกระเป๋าย้ายไปเล่นให้กับ โปรเยคโดต้ เครเซอร์ อีกหนึ่งสโมสรในบ้านเกิด ก่อนที่ฟอร์มของเขาจะไปเตะตาแมวมองสโมสร บอร์กโดกซ์ 2011 - 2012 : เก็บเสื้อผ้าจากประเทศบ้านเกิด อาร์เจนติน่า บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมทีมอะคาเดมี่ของสโมสร บอร์กโดกซ์ ด้วยวัยเพียง 20 ปี 2012 - 2013 : ช่วงแรกกับการค้าแข้งบนแผ่นดินยุโรปไม่ได้หอมหวานอย่างที่คิดโอกาสลงสนามไม่ได้มากเท่าที่ใจหวัง เพราะฉะนั้นจึงถูกปล่อยตัวไปให้สโมสร โอร์แลงส์ ยืมตัวไปขัดเกลาฝีเท้า 2013 - 2014 : ถูกปล่อยยืมอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้ได้เดินทางไปยังสโมสร ชามัวร์ นิออร์ โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 39 นัด ยิง 18 ประตู กับอีก 3 แอสซสิต์ 2014 -2015 : ครึ่งฤดูกาลแรกลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ บอร์กโดกซ์ ก่อนถูกปล่อยยืม (อีกครั้ง) ให้กับ ก็อง ในครึ่งฤดูกาล รวมแล้วในซีซั่นนั้นเจ้าลงสนามไปทั้งสิ้น 25 นัด ซัด 6 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ 2015 - 2018 : ย้ายไปร่วมทัพ น็องต์ ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านยูโรเท่านั้น โดยระยะเวลา 3 ปีครึ่งที่สโมสรแห่งนี้เจ้าตัวได้โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยม โดยซีซั่นที่ดีที่สุดของเจ้าตัวอยู่ที่ปี 2016-17 ที่ยิงไปทั้งสิ้น 15 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ส่วนผลงานในฤดูกาลล่าสุดกับ น็องต์ เขายิงไปถึง 13 ประตู จาก 21 นัด รวมแล้วผลงานกับ น็องต์ อยู่ที่ ลงสนาม 133 นัด ยิง 48 ประตู และทำไปอีก 13 แอสซิสต์ 2019 : คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศคว้าตัวและยอมควักเงินจำนวน 15 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของหัวหอกจาก อาเจนติน่า ซึ่งเป็นค่าตัวระดับสถิติของสโมสร และสถิติส่วนตัวของ เอมิเลียโน่ ซาลา ซึ่งนี้เป็นหนึ่งในความฝันของเจ้าตัวและช่วงชีวิตที่ดีที่สุดในชีวิตค้าแข้งเลยก็ว่าได้