ในโลกของกีฬาฟุตบอลการแข่งขันเขาวัดกันทีผลแพ้ชนะ ดังนั้นการมีกองหน้าดีๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าสังเกตดูดีๆ สโมสรที่ไม่เคยขาดแคลนกองหน้าผลงานแจ่มๆ เลยก็คือ แอตเลติโก มาดริด
ที่ผ่านมาสโมสร แอตเลติโก มาดริด มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพราะนักเตะคนไหนที่โชว์ฟอร์มได้ดีก็มักจะโดนทีมโน้นทีมนี้ฉกตัวไป โดยเฉพาะในตำแหน่งกองหน้า วันนี้ทาง
'ขอบสนาม' จะพาทุกท่านไปเจาะลึกดูกันว่าใครกันบ้างที่ได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าระดับพระกาฬเบอร์ต้นๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร แอตเลติโก มาดริด นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
เฟร์นานโด ตอร์เรส
ค้าแข้ง : ปี 2001-07, 2015-16 (ยืมตัว) และ ปี 2016-18
ลงเล่น : 403 เกม
ยิง : 127 ประตู
แชมป์ : เซกุนด้า ดิวิชั่น 2001-02, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2017-18
เฟร์นานโด ตอร์เรส ขึ้นชั้นเป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร แอตเลติโก มาดริด ไปแล้ว เพราะพี่แกแจ้งเกิดขึ้นมาจากการเป็นเด็กฝึกของที่นี่ เจ้าของฉายา 'เอล นินโญ่' ใช้เวลาไม่นานก็ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญตั้งแต่อายุยังน้อย และก็ยึดตำแหน่งตัวจริงได้โดยไวจากพรสวรรค์การถล่มประตูที่น่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้พี่แกยังถูกจารึกว่าเป็นกัปตันทัพ 'ตราหมี' ที่อายุน้อยที่สุดที่ 19 ปีด้วยซึ่งสมัยนั้น ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือคนปัจจุบันก็ยังอยู่ในทีมชุดนั้นด้วย ส่วนผลงานในคำแรกก่อนย้ายไป ลิเวอร์พูล ช่วงปี 2001-07 ตอร์เรส ลงเล่นไป 244 เกม ยิงได้ 91 ประตู ขณะที่คำรบ 2 ตอนกลับมาในปี 2014 และค้าแข้งยาวถึงปี 2018 ก็ลงเล่นไปอีก 160 เกมยิงได้ 38 ประตู
ราดาเมล ฟัลเกา
ค้าแข้ง : ปี 2011-13
ลงเล่น : 91 เกม
ยิง : 70 ประตู
แชมป์ : โกปา เดล เรย์ 2012-13, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2011-12, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2012
ปัจจุบัน ราดาเมล ฟัลเกา อาจมีปัญหาอาการบาดเจ็บให้เห็นบ่อยครั้ง แต่ในเรื่องของการพังประตูต้องบอกเลยว่าพี่แกอยู่ในระดับเพชรฆาตเลยทีเดียว ผลงาน 70 ประตูจาก 91 เกมไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากพรสวรรค์ล้วนๆ ถึงแม้เจ้าของฉายา 'เอล ติเกร' จะอยู่ค้าแข้งกับ แอตเลติโก มาดริด ไม่นาน แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดกองหน้าคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะตัวเลขสถิติมันก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าพี่แกสุดยอดแค่ไหน
อองตวน กรีซมันน์
ค้าแข้ง : ปี 2014-ปัจจุบัน
ลงเล่น : 238 เกม
ยิง : 127 ประตู
แชมป์ :ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญ่า 2014, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2017-18, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2018
ถึงแม้ อองตวน กรีซมันน์ จะไม่ได้อยู่กับ แอตเลติโก มาดริด มาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ก็ได้รับการจดจำและยกย่องว่าเป็นตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสรไปแล้ว เรื่องของฝีเท้าและสถิติการพังประตูนี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะนี่คือผู้เล่นที่เป็นความหวังเบอร์ 1 ของทีม ณ ปัจจุบัน เส้นทาง กรีซมันน์ คงจะฉายแสงมากว่านี้ถ้าเกิดในเวที ลา ลีกา ไม่มีสองโคตรแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งบดบังรัศมีเขาไปเสียหมด เพราะถ้าดูจากผลงาน 127 ประตูจาก 238 เกม บวกกับค่าเฉลี่ยยิง 25 ประตูขึ้นไปทุกฤดูกาลไปอยู่ที่ไหนก็เจริญและก็สามารถเป็นนัมเบอร์วันได้ในทุกๆ ที่
ดีเอโก้ คอสต้า
ค้าแข้ง : ปี 2007-09, 2010-14 และ 2018-ปัจจุบัน
ลงเล่น : 155 เกม
ยิง : 71 ประตู
แชมป์ : ลา ลีกา 2013-14, โกปา เดล เรย์ 2012-13, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2010, 2012 และ 2018, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2017-18,
ถ้าพูดถึงชื่อ ดีเอโก้ คอสต้า คุณคงสัมผัสได้ถึงความดิบเถื่อนและดุร้ายซึ่งเป็นคาแร็คเตอร์หลักของพี่แก ปัจจุบันฟอร์มการเล่นอาจจะดร็อปๆ ลงไป แถมยังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้งอีกต่างหาก แต่เรื่องของฝีเท้านั้นต้องยอมรับเลยว่าพี่แกนั้นเด็ดดวงจริงๆ การยิงไป 71 ประตูจาก 155 เกมนั้นคือเครืองการันตีชั้นดี ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2013-14 ที่ แอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ คอสต้า ก็เป็นกุญแจสำคัญที่สุด หลังจากซัดไป 27 ประตูจาก 35 เกม
ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
ค้าแข้ง : ปี 2007-11
ลงเล่น : 198 เกม
ยิง : 96 ประตู
แชมป์ : ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2009-10, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2010
ได้ครองตำแหน่งดาวซัลโว ลา ลีกา ฤดูกาล 2004-05 และ 2008-09 แค่นี้ก็วัดไดแล้วว่า ดีเอโก้ ฟอร์ลัน เป็นกองหน้าที่มีคุณภาพขนาดไหน เขาอาจจะล้มเหลวกับชีวิตที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่การค้าแข้งใน สเปน กับ บียาร์เรอัล และ แอตฯ มาดริด มันทำให้ชีวิตของเขากับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง สำหรับสาวกทัพ 'ตราหมี' แล้ว ฟอร์ลัน ถือเป็นขวัญใจเบอร์ต้นๆ เลยทีเดียว
เซร์คิโอ อเกวโร่
ค้าแข้ง : ปี 2006-11
ลงเล่น : 230 เกม
ยิง : 100 ประตู
แชมป์ : ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2009-10, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2010
เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิงพรสวรรค์สูงก็เป็นอีกคนที่แจ้งเกิดจนโด่งดังจากสโมสร แอตเลติโก มาดริด กับสถิติการพังประตูที่ถล่มทลายที่ 100 ประตูจาก 230 เกม ส่วนปัจจุบันนี่พี่แกก้าวขึ้นชั้นระดับโลกไปแล้ว เนื่องจากยังคงรักษามาตรฐานและฟอร์มการเล่นได้อย่างดีเยี่ยม ถ้าให้เอ่ยชื่อของกองหน้าโหดๆ สักคนชื่อของ กุน อเกวโร่ จะโผล่มาเป็นอันดับแรกๆ แน่นอนในยุคนี้
