logo-heading

ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้จบลงไปเรียบร้อยแล้วผลปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายเอาชนะ เชลซี ได้ 6-0

สถานการณ์ล่าสุด แมนฯ ซิตี้ แซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปครองจ่าฝูงที่ 65 คะแนนเท่ากันเพราะลูกได้เสียดีกว่า แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วนทาง เชลซี อดแซงกลับมาเป็นที่ 4 มี 50 คะแนนตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต้มเดียว

สถิติที่่น่าสนใจในเกมดังกล่าว

ขอแค่ 5 นาทีเท่านั้น

ประตูขึ้นนำไวนาทีที่ 4ในเกมนี้จาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ยิงให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลให้นัดนี้เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันที่สามารถยิงประตูขึ้นนำคู่แข่งตั้งแต่ยังไม่ถึง 5 นาทีแรก ต่อจากนัดที่เจอ อาร์เซน่อล และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

เจอทีมใหญ่ๆ ขอให้บอก อเกวโร่

ประตูขึ้นนำ 2-0 ในเกมนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงไปแล้ว 42 ประตูยามเจอกับทีม Top 6 พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถิติที่มากกว่านักเตะทุกคนนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวได้เปิดตัวในช่วงเดือนกันายนปี 2011

200 ประตูกับสโมสรเดียว

ประตูที่ 3 ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นลูกที่ 2 ในเกมนี้ของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำให้เขาสร้างสถิติเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ยิงได้แตะหลัก 200 ประตูกับสโมสรเดียวต่อจาก เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด), แฟร้งค์ แลมพาร์ด (เชลซี), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล), เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล) และ ไรอัน กิ๊กส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

โดนไป 5 ครั้งที่ 3 ในชีวิต และ 6 ครั้งแรกในชีวิต

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่เกมนี้ เชลซี โดน แมนฯ ซิตี้ ซัดไปถึง 5 ประตู นับเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่เล่น พรีเมียร์ลีก มาและโดนขนาดนี้ โดยก่อนหน้านี้ 2 ครั้งคือ กันยายน 1996 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-5 และตอน มกราคม 2015 ที่แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-5 เท่านั้นยังไม่พอยังมีเม็ดที่ 6 อีก

แฮตทริกระดับประวัติศาสตร์

3 ประตูในเกมนี้ของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำให้เกิดสถิติใหม่โดยตอนนี้เขาคือผู้เล่นที่ทำแฮตทริกได้มากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ที่ 11 ครั้ง เทียบเท่ากับ อลัน เชียเรอร์
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline