logo-heading

ศึก พรีเมียร์ลีก คู่แรกของวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน จบลงไปแล้ว ผลปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-4

สถานการณ์ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด มี 64 คะแนนจาก 34 นัด รั้งอยู่อันดับ 6 ต่อตามหลังที่ 4 อาร์เซน่อล 2 แต้มแถมแข่งมากกว่า 1 นัด ส่วน เอฟเวอร์ตัน รั้งที่ 7 ต่อไปมี 49 คะแนนเท่ากับ วัตฟอร์ด แต่ลูกได้เสียดีกว่า

ดาวซัลโวชาวบราซิเลี่ยนในยุโรป

ประตูของ ริชาร์ลิซอน ที่ช่วยพา เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ 1-0 นับเป็นประตูที่ 13 ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้และนั่นทำให้เป็นผู้เล่นชาวบราซิเลี่ยนที่ยิงได้เยอะที่สุดใน 5 ลีกดังร่วมกับ เนย์มาร์ และ ชาร์ลส์ นอกจากนี้ยังเป็นประตูที่ 2 ที่พี่แกยิงใส่ทีม Top 6 ด้วยซึ่งก่อนหน้านี้ยิงได้วันเจอ เชลซี

ประตูที่ 48

การเสีย 4 ประตูในวันนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียไปแล้ว 48 ประตูในฤดูกาลนี้ซึ่งนับว่าโดนมากที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1989-90 ที่โดนไป 47 ประตู แต่ปีที่โดนมากที่สุดคือ 63 ประตูในฤดูกาล 1978-79

ถูกโฉลกกับผี

ประตูขึ้นนำ 2-0 ของ เอฟเวอร์ตัน จาก กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน นับเป็นการมีส่วนร่วมประตูที่ 9 ยามเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยแบ่งเป็นยิง 5 ประตูและแอสซิสต์ 4 ครั้ง นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดกว่าทุกทีมที่พี่แกเคยเจอมา

แพ้เกมเยือน 5 นัดติด

ความล้มเหลวในเกมนัดนี้หลังบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-4 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เกมเยือนเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันในทุกรายการซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 1981 ในยุค เดฟ เซ็กซ์ตัน นอกจากนี้ยังเป็นการแพ้เกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก นัดที่ 3 ติดต่อกันซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี1996

เจอลูกยิงไกลเล่นงานอีกแล้ว

หลังจากโดน ลิโอเนล เมสซี่ ยิงไกลมาในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ล่าสุด ดาบิด เด เคอา โดนลูกยิงนอกกรอบเขตโทษเล่นงานอีกแล้วในเกมที่เจอกับ เอฟเวอร์ตัน ทำให้พี่แกนั้นเสียประตูจากลูกยิงนอกกรอบไปแล้ว 8 ลูกในซีซั่นนี้และเป็นลูกที่ 4 ในปี 2019 จะมีฤดูกาล 2013-14 ที่โดนเยอะสุดที่ 9 ประตู นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเก็บคลีนชีทไม่ได้เลยเป็นเกมที่ 11 ติดต่อกันแล้วรวมทุกรายการ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline