ซัมเมอร์ 2019 นับเป็นปีนี้ที่มีนักเตะมากมาย ย้ายออกจากทีมทั้งที่อยู่ค้าแข้งด้วยกันมานาน อยากรู้ไหมว่ามีใครบ้าง ? เดี๋ยววันนี้ทาง 'ขอบสนาม' จะพาทุกท่านไปดูกันว่ามีใครบ้าง (ไม่นับพวกที่รีไทร์นะ)
อิกนาซิโอ้ อบาเต้ - เอซี มิลาน
แบ็กขวาชาวอิตาเลี่ยนอยู่โลดแล่นในรั้ว ซาน ซิโร่ มานานถึง 9 ปีนับตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมาก็มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี เป็นตัวจริงบ้าง สำรองบ้าง โดนปล่อยยืมตัวไปบ้าง แต่อย่างน้อยชื่อของเขาก็ถูกจดจำในฐานะนักเตะคนหนึ่งที่อยู่ค้าแข้งกับทีมมานาน โดยตลอดระยะเวลา 9 ปี อิกนาซิโอ้ อบาเต้ ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 305 เกม ยิงได้ 3 ประตู คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา 1 สมัย และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 2 สมัย
ดานิเอเล่ เด รอสซี่ - โรม่า
ต่อจาก ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กับฉายา 'เจ้าชายหมาป่า' ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ก็เป็นอีกคนได้ที่ฉายาดังกล่าวเช่นกัน และนี่ก็คือนักเตะอีกคนที่เป็นผู้เล่น วัน แมน คลับ หรือหมายถึงการค้าแข้งกับสโมสรเดียวและไม่เคยย้ายไปไหนเลย ดานิเอเล่ เด รอสซี่ อยู่ค้าแข้งกับ โรม่า ตั้งแต่ปี 2001 และอยู่ผจญภัยด้วยกันมานาน 18-19 ปี ลงเล่นไป 615 เกม ยิงได้ 63 ประตู คว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศ 3 สมัย
ราฟินญ่า - บาเยิร์น มิวนิค
ราฟินญ่า แบ็กขวาชาววัย 33 ปีเป็นคนชาวบราซิลตั้งแต่กำเนิด แต่ในเส้นทางอาชีพค้าแข้งส่วนใหญ่พี่แกใช้ชีวิตอยู่แต่ใน เยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นกับ ชาลเก้ 04 ช่วงปี 2005-10 รวมไปถึงกับ บาเยิร์น มิวนิค ช่วงปี 2011-ปัจจุบัน แต่บทบาทส่วนใหญ่ในรั้ว อัลลิอันซ์ อารีน่า จะเป็นแค่อะไหล่สำรองมากกว่าทั้งตอนมี ฟิลิปป์ ลาห์ม และปัจจุบันที่มี โจชัว คิมมิช ทว่าก็นับเป็นแข้งวาสนาดีอีกคนเพราะ ราฟินญ่า ได้แชมป์กับ 'เสือใต้' ถึง 17 โทรฟี่เลยทีเดียว
อองตวน กรีซมันน์ - แอตเลติโก มาดริด
จริงๆ ได้ฤกษ์จะได้ย้ายตั้งนานแล้ว แต่จากกรณีที่ แอตเลติโก มาดริด โดนโทษแบนจากตลาดซื้อขายก็เลยทำให้ อองตวน กรีซมันน์ ต้องอยู่ต่ออีก 1 ปี มาคราวนี้มันถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว ถึงแม้จะอยู่ค้าแข้งรับใช้ 'ตราหมี' แค่ 5 ปีเท่านั้น แต่สำหรับ กรีซมันน์ ก็ได้ชื่อว่าเป็นตำนานคนหนึ่งคนสโมสรในฐานะกองหน้าจอมถล่มประตูที่อันตรายที่สุดคนหนึ่งจากผลงาน 257 เกมยิงได้ 133 ประตู ส่วนสถานีต่อไปพี่แกจะลงเอยที่ใดต้องติดตามกันต่อไป
ดีเอโก้ โกดิน - แอตเลติโก มาดริด
ที่ แอตเลติโก มาดริด ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่เหนียวแน่นรัดกุมและมีเกมรับที่แข็งที่สุดในโลกส่วนผสมสำคัญของมันก็คือการมี ดีเอโก้ โกดิน เป็นฟันเฟืองสำคัญในแผงกองหลัง และก็เป็นตัวจริงของทีมตลอดมา แถมยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยระดับทัพ 'ตราหมี' และโค่น เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า พร้อมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ในปี 2014 ด้วย รวมไปถึงแชมป์อื่นๆ อีกมากมาย โดยได้ลงเล่นไป 380 ยิงได้ 26 ประตู
อันโตนิโอ วาเลนเซีย - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จากผู้เล่นตำแหน่งปีกกลายเป็นแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดีที่สุดในยุคนี้ สำหรับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย อาจไม่ใช่ผู้เล่นเกรด เอ หรือซูเปอร์สตาร์ดังแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่อยู่มานาน 9 ปีตั้งแต่ปี 2010-ปัจจุบันทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีม ครั้งหนึ่งเคยได้โอกาสสวมเสื้อหมายเลข 7 ช่วงฟอร์มดีๆ แต่จากนั้นก็ต้องมาดับราวกับโดนคำสาปอาภรรพ์เลยต้องกลับมาใส่เบอร์ 25 อีกครั้ง ส่วนผลงานตลอดระยะเวลา 9 ปี วาเลนเซีย ได้ลงเล่นไป 339 นัด ยิงได้ 25 ประตู
อาร์เยน ร็อบเบน - บาเยิร์น มิวนิค
อาร์เยน ร็อบเบน ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะระดับโลกกับความรวดเร็วในการไปกับบอลและกระชากลากเลื้อย แถมยังมีอีซ้ายที่ทรงประสิทธิภาพอีกด้วย ที่ผ่านมาพี่อาจจะเคยเล่นให้ทีมดังๆ อย่าง เชลซี และ เรอัล มาดริด แต่ถ้าจะให้ยกย่องในฐานะตำนานมันต้องเป็นที่ บาเยิร์น มิวนิค เพราะพี่แกอยู่โลดแล่นมานาน 10 ปีเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมมาตลอดตั้งแต่หนุ่มยันแก่ และที่สำคัญคือฟอร์มไม่เคยตกลงเลยนอกจากยามมีปัญหาอาการบาดเจ็บ และนี่ก็คือส่วนสำคัญที่ช่วยพา บาเยิร์น ครองความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้ตลอด กวาดแชมป์มาแล้วทุกรายการ ส่วนผลงานกับ 'เสือใต้' เจ้าของฉายา 'ปีกหัวไข่' ได้ลงเล่นไป 308 เกมยิงได้ 144 ประตู
ฟร้องค์ ริเบรี่ - บาเยิร์น มิวนิค
ถ้า ร็อบเบน คือไม้เด็ดทางกราบขวาของ บาเยิร์น มิวนิค ฟร้องค์ ริเบรี่ ก็คืออีกหนึ่งท่าไม้ตายทางกราบซ้าย พี่แกแจ้งเกิดมาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย แต่มาพีคและสร้างชื่อจนเป็นโคตรแข้งระดับโลกกับ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ว่าด้วยเรื่องของความเร็วความคล่องตัว เทคนิคชั้นเชิง การเอาตัวรอด การผ่านบอลที่แม่นยำ ตลอดจนการยิงประตูจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมเลย ขาดเขาไปสักคนบอกเลยว่าสโมสรต้องปวดหัวแน่ในการตามหาตัวตายตัวแทนของ 'พ่อหน้าบาก' รายนี้ ส่วนผลงานกับ 'เสือใต้' นับตั้งแต่ปี 2017-ปัจจุบันลงเล่นไป 424 ยิงได้ 124 ประตู และก็กวาดมาแล้วทุกแชมป์เหมือนกับ ร็อบเบน
แว็งซ็องต์ ก็องปานี - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
บทบาทของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่อนข้างน้อยลงไปในช่วง 3-4 ปีหลังสุดเนื่องด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บเป็นเหตุ แต่ทุกครั้งที่พี่แกได้ลงสนามก็มักทำผลงานได้ดีเสมอๆ คุมเกมรับได้ดีตลอดจนการคุมและกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม ก็เหมาะสมแล้วที่ ก็องปานี ได้เป็นกัปตันทีมของ แมนฯ ซิตี้ แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นยามที่พี่แกยิงประตูได้สังเกตได้เลยว่าทีมมักจะเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้ และแทบจะไม่แพ้เลย โดยเฉพาะไอ้ลูกยิงไกลสุดสวยนัดเฉือน เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ช่วงท้ายซีซั่นที่ผ่านมา ถ้าไม่ได้ชายคนนี้ไม่แน่ 'เรือใบสีฟ้า' อาจจะป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไม่ได้ก็เป็นได้ ส่วนผลงานตลอด 11 ปีกับ เดอะ ซิติเซนส์ ก็องปานี ลงเล่นไป 360 เกมยิงได้ 20 ประตู
อารอน แรมซี่ย์ - อาร์เซน่อล
อารอน แรมซี่ย์ ก็นับเป็นขุมกำลังสำคัญของ อาร์เซน่อล ตลอดช่วงที่ผ่านมา 9 ปีในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง เขาจุดเด่นคือมีความขยัน หาพื้นที่ ขับเคลื่อนเกมและทะลุทะลวงได้ดี มีส่วนกับเกมรุกสูงมากแถมยังมีทีเด็ดจากการยิงประตูอีกด้วย ไม่ว่า อาร์เซน่อล จะเสริมทัพกองกลางเพิ่มมามากมายเท่าใดก็แทบไม่มีใครที่ทำผลงานได้ดีเกินกว่า แรมซี่ย์ เลย ส่วนผลงานกับ 'ไอ้ปืนใหญ่' พี่แกได้ลงเล่นไป 369 เกมยิงได้ 64 ประตู แต่ความสำเร็จอาจจะร้างไปนิดหน่อย เพราะได้แค่แชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัยเท่านั้น
