คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการย้ายมาค้าแข้งบนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ปีแรก หลังยิงไป 21 ประตู ทำอีก 8 แอสซิสต์ พร้อมพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ก่อนจะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของซีซั่น
จากสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ทาง 'ขอบสนาม' จะพาทุกท่านย้อนกลับไปดูเรื่องราวในอดีตกันหน่อย ไปดูกันว่าตำนานดังๆ แต่ละคนเขามีผลงานอย่างไรบ้างกับ 'ฤดูกาลแรกบนสังเวียนลูกหนัง อิตาลี' อาจจะไม่ได้ยกมาทุกคน เพราะถ้ารวมมาหมดเลยปีหน้าคอลัมน์นี้ก็ไม่เสร็จ...กาเบรียล บาติสตูต้า
เจ้าของฉายา 'บาติโกล' ย้ายมา ฟิออเรนติน่า ปี 1991 หลังพา อาร์เจนติน่า ซิวแชมป์ โคปา อเมริกา มาได้หมาดๆ ซึ่งแรกๆ พี่แกอาจจฟอร์มฝืดๆ สักหน่อย เพราะยิงได้แค่ 3 ประตูเท่านั้นหลังผ่านช่วงสิ้นปี แต่จากนั้น กาเบรียล บาติสตูต้า ก็เริ่มเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้และซัดไป 13 ประตูในซีซั่นนั้น พาทัพ 'วิโอล่า' จบอันดับ 12 อย่างไรก็ตามจากนั้นพี่แกก็มีค่าเฉลี่ยการพังที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี จนกลายเป็นตำนานของสโมสรในที่สุดThere's only one Batigol kit though. pic.twitter.com/FqFPnsDovb
— Ben McKenna (@benmckenna) May 21, 2019
รุด กุลลิท
ปี 1987 รุด กุลลิท ถูก เอซี มิลาน ซื้อตัวมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยค่าตัวสถิติโลก ณ ตอนนั้นที่ 6 ล้านปอนด์ แรกๆ พี่แกต้องเจอปัญหามากมายทั้งเรื่องของการปรับตัวและภาษา โดย กุลลิท ยิงไปแค่ 2 ประตูเท่านั้นในช่วงครึ่งซีซั่นแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังของซีซั่นเขาก็พัฒนาและแก้ไขตัวเองได้ดีก่อนจะยิงไป 9 ประตูในปีนั้นและพา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1979Rudd Gullit of Milan pic.twitter.com/4D4ENE7aJf
— The League Magazine (@Theleaguemag) June 17, 2015
ดีเอโก้ มาราโดน่า
ถ้าการตัดสินใจย้ายจาก เรอัล มาดริด มา ยูเวนตุส ของ โรนัลโด้ ว่าเซอร์ไพรส์แล้วนั้นการตัดสินใจย้ายจาก บาร์เซโลน่า มา นาโปลี เมื่อปี 1984 ของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ และก็กลายมาเป็นพระเจ้าของที่นี่เพราะนี่คือคนที่เสกแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ให้กับ นาโปลี ได้ 2 สมัยในปี 1987 และ 1990 เพราะเจ้าของฉายา 'เสือเตี้ย' ไม่อยู่ทัพ 'อัซซูร่า' ก็ไม่เคยได้สัมผัสกับมันอีกเลย ส่วนผลงานปีแรกกับ นาโปลี มาราโดน่า ลงเล่นไป 30 เกม ยิงได้ 14 ประตูพาทีมจบอันดับ 8Be as unbiased as you can and rank these.
— Ricky (@RickyRichLFC) May 26, 2019
Some facts:
Ronaldo - Accused of rape.
Messi - Crying merchant.
Maradona - Cocaine merchant.
Origi - None of the above. pic.twitter.com/M5qX5VpOpM
มิเชล พลาตินี่
ยูเวนตุส ใช้ข้อได้เปรียบกับสัญญาที่หมดลงคว้า มิเชล พลาตินี่ มาจาก แซงต์-เอเตียนน์ หนึ่งในซูเปอร์สตาร์ของ ฟุตบอลโลก 1982 โดยมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยที่ 129,000 ยูโร อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า มีฉายาว่า 'นโปเลียนลูกหนัง' แถมยังได้ชื่อว่าเป็นนักเตะฝรั่งเศสที่เก่งที่สุดตลอดกาลอีกด้วย มิเชล พลาตินี่ อาจจะออกสตาร์ทได้ช้าไปสักหน่อย เพราะเขายิงไปแค่ 4 ประตูเท่านั้นเมื่อถึงช่วงคริสต์มาส แต่พอสิ้นสุดซีซั่นพี่แกกลับกดไปมากถึง 16 ประตู ก่อนจะพา ยูเวนตุส กวาดทุกแชมป์ทั้งในประเทศและทวีปยุโรปภายในเวลา 5 ปี พร้อมกับได้รับรางวัล บัลลงดอร์ 3 สมันซ้อน (1983-85)"Le Roi" #MichelPlatini celebrates his goal during the 1986 #WorldCup Round of 16 match against Italy. France won 2-0. In the picture #AntonioCabrini and in the background the Argentine referee #CarlosEspósito. @antocabro pic.twitter.com/izrEJ1LAi3
— Fútbolismo (@ftblsm) May 23, 2019
มาร์โก ฟาน บาสเท่น
มาร์โก ฟาน บาสเท่น ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาปักหลักกับ เอซี มิลาน เมื่อปี 1987 เขาอาจเปิดหัวได้สวยกับเกมแรกและซัลโวได้ทันทีนัดพบกับ ปิซ่า แต่ผลงาน ณ ปีนั้นต้องบอกว่าน่าผิดหวังจริงๆ เพราะเขาได้ลงเล่นแค่ 11 เกม ยิงไป 3 ประตู ซึ่งสาเหตุเป็นเพราะเขาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่ก็ยังดีที่ได้แชมป์ลีกกับ 'รอสโซเนรี่' แต่ถึงกระนั้นพอหายกลับมาและจับจุดได้ ฟาน บาสเท่น ก็ขอโชว์โหดในปีต่อมากับการซัดไปกระจุยถึง 19 ประตูIl 26 maggio 1993 Marco Van Basten ha giocato l’ultima partita con la maglia rossonera in Serie A. Quel giorno Milan-Roma finì 0-0. L’ultima in rossonero fu la finale di Monaco di Baviera con il Marsiglia. pic.twitter.com/j6CnPOKgJc
— ?⚫7? ?⚫La Milano Rossonera ®️ ?⚫7? ?⚫ (@la_rossonera) May 26, 2019
ซิโก้
ซิโก้ เจ้าของฉายา 'เปเล่ขาว' คือหนึ่งในสุดยอดตำนานจอมทัพของทีมชาติบราซิล แต่มักอาภัพกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เขาเคยอยู่กับทีมชาติ บราซิล ชุดที่ดีที่สุดแต่ไม่เคยได้สัมผัสกับความสำเร็จเลยสักครั้ง ช่วงชีวิตของเขาส่วนใหญ่คืออยู่ในบ้านเกิดที่ บราซิล กับ ฟลาเมงโก้ แต่ปี 1983 เขาก็ได้โอกาสย้ายมาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เวที เซเรีย อา กับ อูดิเนเซ่ ถึงแม้ตอนนั้นจะมี โรม่า กับ เอซี มิลาน ให้ความสนใจก็ตาม และก็แผลงฤทธิ์ด้วยการระเบิดตาข่ายไป 19 ประตูในปีแรก แต่ดูชีวิตของเขาไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่กับที่นี่ทั้งเรื่องตอนย้ายมารวมถึงเรื่องแรงสนับสนุนจากแฟนบอล ก่อนที่ปีต่อมาจะย้ายไปต่อที่ ญี่ปุ่นHappy Birthday Zico, one of Brazil’s All-time greats! ?? pic.twitter.com/qSPfiTmtS2
— History of Football⚽ (@historyfutball) March 3, 2019
โรนัลโด้
โรนัลโด้ บราซิล หลายคนอาจจะเรียกเขาว่า 'โล้นทองคำ' หรือไม่ก็ 'โด้อ้วน' นี่คือผู้เล่นที่ว่ากันว่าเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกลูกหนัง ชีวิตใน อิตาลี ของเขาเริ่มต้นกับ อินเตอร์ มิลาน หลังถูกซื้อมาจาก บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวที่แพงหูฉี่ถึง 19.5 ล้านปอนด์เมื่อปี 1997 และก็ระเบิดฟอร์มถล่มตาข่ายไปแบบกระจุยกระจายถึง 25 ประตู แต่ปีนั้น อินเตอร์ มิลาน ไม่ได้แชมป์ลีกเพราะที่อันดับ 2 ตามหลัง ยูเวนตุส 5 แต้ม ก่อนที่ปีต่อๆ มาจะเจอเคราะห์ร้ายเมื่อเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักiklan ni tahun 2002/03, adik bongsu tu tiru rambut pemain bola sepak brazil ronaldo hahahaha pic.twitter.com/Ia9I2WSBcN
— Hafiz Tanzizi (@Hafiztanzizi) May 26, 2019
ซีเนดีน ซีดาน
นับเป็นสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ว่าได้ เมื่อครั้งหนึ่งพวกเขาปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาคว้า ซีเนดีน ซีดาน มาร่วมทีม โดยรายแรกให้เหตุผลว่าพวกเขามี ทิม เชอร์วู้ด อยู่แล้ว ส่วนรายหลังให้เหตุผลว่า ซีดาน ไม่ดีพอที่จะเล่นใน อังกฤษ นั่นก็เลยทำให้ ยูเวนตุส ได้ตัวพี่แกไปในปี 1996 ด้วยค่าตัว 3.2 ล้านปอนด์ สำหรับ 'ซิซู' อาจไม่ได้โดดเด่นในแง่ของการทำประตูเพราะเขาเป็นผู้เล่นมิดฟิลด์ แต่เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่เล่นบอลอัจฉริยะที่สุด มีเทคนิคเชิงสูง เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้ง่ายดายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก และมีการสร้างสรรค์เกมที่ดีเยี่ยม ผ่านบอลได้แม่นยำราวกับสั่งได้ จึงไม่แปลกที่ ยูเวนตุส จะเป็นแชมป์ในปีนั้น?? Zinedine Zidane on his time as a player:
— Black Type (@blacktypebet) May 24, 2019
? "I slept well, I wasn't an idiot and going to clubs, I only drank water and did stretches. I put everything into becoming the best player possible. I had to do it, at all costs.
One of the all-time greats? pic.twitter.com/ysTwDBD69u