logo-heading

และแล้วก็เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศกันแล้วสำหรับศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยจะเป็นการพบกันของสองตัวแทนจากประเทศอังกฤษอย่าง อาร์เซน่อล กับ เชลซี ซึ่งจะลงเล่นกันที่สนามบากู โอลิมปิย่า สตาดิโอนู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

โดยศึกครั้งนี้นอกจากมีตำแหน่งแชมป์เป็นเดิมพันแล้ว ยังมีตั๋วเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ฝั่ง "ไอ้ปืนใหญ่" หมายปองอยู่อีกด้วย ว่าแล้ววันนี้ทาง ขอบสนาม เราเลยนำสิ่งที่น่าสนใจก่อนเกมนี้มาให้ชมกัน จะมีอะไรบ้างติดตามกันได้เลย... การเจอกันของทั้ง 2 ทีม ในเวทีบอลยุโรป ก่อนหน้านี้ทั้งสองทีมเคยเจอกันในรายการแข่งนอกเกาะอังกฤษเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยเกิดขึ้นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2003-04 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งผลปรากฎว่าเป็น เชลซี ที่เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 3-2 โดยนัดแรกเสมอในบ้าน 1-1 ก่อนบุกไปเอาชนะ "ไอ้ปืนใหญ่" ถึงถิ่น 2-1 เอเมรี่ กับถ้วยใบเล็กของยุโรป ชื่อของ อูไน เอเมรี่ กับถ้วยยูโรปา ลีก เหมือนจะเป็นของคู่กันยังไงอย่างงั้น เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวสามารถซิวแชมป์รายการนี้มาครอบครองได้ถึง 3 สมัยติดต่อกันในช่วงปี 2014-16 จากการพา เซบีย่า ซิวแชมป์แบบ 3 ปี 3 สมัย รวด ชาติเดียวกันชิงกันเอง ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ของถ้วยยูโรปา ลีก (นับเฉพาะชื่อใหม่) นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่นัดชิงชนะเลิศมาจากชาติเดียวกัน โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 เป็นการพบกันของ ปอร์โต้ ที่เฉือนเอาชนะ บราก้า ไปได้ 1-0 ส่วนอีกครั้งเกิดขึ้นในปีถัดมาเป็นการโคจรมาพบกันของ 2 ทีมจากประเทศสเปน นั้นคือ แอต.มาดริด ที่ถล่ม แอต.บิลเบา ไป 3-0 ประสบการณ์ของ เชลซี กับรอบชิงจากชาติเดียวกัน ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2007-08 เชลซี เคยมีประสบการณ์การเข้าชิงบอลยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก จากชาติเดียวกันมาแล้วนั้นก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่มันอาจจะเป็นค่ำคืนที่ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่เพราะพวกเขาเป็นได้แค่พระรอง เพราะต้องเป็นฝ่ายพ่ายจุดโทษไป แต่นั้นคือประสบการณ์ในครั้งอดีตของทางฝั่ง "สิงห์บลู" ยูโรปาลีก ส่วนมากตัดสินใน 90 นาที ศึกยูโรปาลีก มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่หาผู้ชนะใน 90 และ 120 นาที ไม่ได้ จนต้องลากยาวไปจนถึงช่วงดวลจุดโทษ โดยเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 โดยเป็นเกมที่ เซบีย่า เสมอกับ เบนฟิก้า 0-0 ก่อนที่จะไปดวลเป้า 12 หลาแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-2 ซึ่ง เซบีย่า ในตอนนั้นกุนซือของพวกเขามีชื่อว่า อูไน เอเมรี่
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline