logo-heading

เป็นค่ำคืนของ เชลซี เมื่อพวกเขาโชว์ฟอร์มดุ ไล่ตบ อาร์เซน่อล ขาดลอย 4-1 จบฤดูกาลอย่างสวยหรู ด้วยการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ซีซั่นนี้มาครอง เกมนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ไปดูกันว่า 6 เรื่องที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง ณ เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน สถานที่จัดฟาดแข้งนัดชิงชนะเลิศ

1. วันของ ชิรูด์ : ถึงแม้ว่า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะมีสถานะเป็นแค่ตัวสำรองของทีม แต่กระนั้นกับรายการ ยูโรปา ลีก นับเป็นทัวร์นาเมนต์ที่เจ้าตัวได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริง และ เขาก็ไม่ทำให้ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผิดหวัง เพราะในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 4-1 นั้น ชิรูด์ มีส่วนร่วมถึง 3 ประตู ยิง 1 ตุง, จ่าย 1 ครั้ง, เรียกจุดโทษได้อีก 1 จังหวะ .. ไม่ใช่พระเอก แล้วจะเป็นใคร .. อ่อ ลืมไปอย่าง ยูโรปา ลีก ซีซั่นนี้ พี่แกกดไปแล้วทั้งสิ้น 11 ตุง เป็นแข้งฝรั่งเศส ที่พังตาข่ายในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้มากสุด นับเฉพาะ 1 ฤดูกาล 2. อาซาร์ เดอะ แบก : ต้องยอมรับตามตรงว่า ถ้าหาก เชลซี เสีย เอแด็น อาซาร์ ไปจริงๆ จะมีผลกระทบใหญ่หลวงแน่นอน เพราะการคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ของทัพ "สิงห์บลูส์" ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง โดยสามารถทำได้ถึง 2 ตุง กับอีก 1 แอสซิสต์  เท่ากับว่าซีซั่นนี้ อาซาร์ มีส่วนร่วมในการทำประตูให้กับ เชลซี มากถึง 38 ลูก แบ่งเป็นยิงเอง 21 ประตู กับอีก 17 แอสซิสต์ .. พระเจ้า สุดติ่งกระดิ่งแมว จริงๆ 3. แชมป์ว่าวคืออะไร : ต่อให้ซีซั่นนี้ เชลซี จะมีฟอร์มกระท่อนกระแท่น เกือบพลาดตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า หากมองจากผลงานในเกมลีกช่วงระยะหนึ่ง แต่กระนั้นสุดท้ายแล้ว เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็พาทัพ "สิงห์บลูส์" เข้าป้ายเป็นอันดับ 3 พร้อมจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ เท่ากับว่า 3 ซีซั่นที่ผ่านมา เชลซี มีแชมป์ติดมือทั้งหมด ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก 4. ฝันร้ายแห่งการเข้าชิง : กว่าจะฝ่าฟันผ่านเข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะแต่ละด่านมันยากเหมือน "เข็นครกขึ้นภูเขา" ฉะนั้นการเป็นผู้แพ้ ย่อมเป็นเหมือนฝันร้าย และ อาร์เซน่อล คงอยากจะลืมเลือนมันไปให้เร็วที่สุด อีกทั้ง "ไอ้ปืนใหญ่" จะถูกบันทึกสถิติไว้ว่าเป็นทีมแรกที่เสียถึง 4 ประตู นัดชิงดำ ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คัพ นับตั้งแต่ที่ มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ต่อ เซบีย่า 0-4 ในศึก ยูฟ่า คัพ เมื่อปี 2006 5. เกือบลงมาเปลี่ยนเกม : หลังจากที่ อาร์เซน่อล ตามหลัง เชลซี 0-3 อูไน เอเมรี่ ก็จัดการส่ง อเล็กซ์ อิโวบี้ ลงสนามมาแทน ลูคัส ตอร์เรร่า ซึ่ง อิโวบี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 133 วินาที เท่านั้น และ เป็นนักเตะตัวสำรองคนล่าสุด ที่ลงมาทำประตู ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก / ยูฟ่า คัพ ต่อจาก โจนาตาส อดีตดาวเตะ เอสปันญ่อล ซึ่งทำไว้ในปี 2007 6. เปิดซิง ซาร์รี่ : เมาริซิโอ ซาร์รี่ เป็นโค้ชที่มีประสบการณ์โชกโชน โดยเฉพาะการคุมทีมในลีกแดน "มะกะโรนี" แต่เชื่อไหมว่านับตั้งแต่ปี 1990 ที่เขาเริ่มอาชีพกุนซือ หรือ ต่อให้จะเคยกุมบังเหียน นาโปลี สโมสรชั้นนำ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ก็ไม่เคยมีโทรฟี่ใหญ่ๆ มาเชยชมในชีวิตกุนซือ ฉะนั้นเท่ากับว่าการพา เชลซี เป็นแชมป์ ยูโรปา ลีก จะเป็นแชมป์เมเจอร์แรก ในชีวิตของเจ้าตัว
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline