logo-heading

ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้วครับ สำหรับการแข่งขัน นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 1 มิ.ย. นี้ ซึ่งเซียนหลายๆสำนักยกให้ "หงส์แดง" มีโอกาสเป็นแชมป์มากกว่า

แต่ก็อย่าลืมว่า "ไก่เดือยทอง" ฝ่าฟันมาถึงรอบชิงโทรฟี่ได้ ก็สุดติ่งกระดิ่งแมวเช่นกัน แล้วยิ่งรู้ไส้รู้พุงกันอยู่แล้ว ฉะนั้นอะไรก็เกิดขึ้น และ บางทีนี่อาจจะเป็น 4 เหตุผลทำให้ "สเปอร์ส" มีโอกาสเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ "ยูซีแอล" ก็ได้

1. แฮร์รี่ เคน กลับมาทันเวลาพอดี

ก็บอลมันสูสี! 4 เหตุผล ที่ "ไก่เดือยทอง" มีโอกาสพลิกซิวแชมป์ ยูซีแอล ถึงแม้จะมีหลายๆคนบอกว่า ช่วงที่ แฮร์รี่ เคน ไม่ได้อยู่ในทีม เพราะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้ "ไก่เดือยทอง" ดูจะเล่นเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น เพราะไม่ต้องพึ่งพาใครเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งคำตอบก็มีให้เห็นจากการพลิกนรกกลับมาเอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยกฎประตูทีมเยือน ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม หากมองอีกแง่มุมหนึ่ง การมีหัวหอกเบอร์ 1 ของทีม หัวหอกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดาวยิงเบอร์ 1 ของทีมชาติอังกฤษ อย่าง แฮร์รี่ เคน ย่อมเป็นอะไรที่ดีมากกว่าอยู่แล้ว ยิ่งได้เล่นร่วมกับพวก ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน, เดเล่ อัลลี และ คริสเตียน อีริคเซ่น ยิ่งน่ากลัวอีกหลายขุม เพราะต้องไม่ลืมว่า ลิเวอร์พูล มีเกมรับอันแข็งแกร่งมากๆ การจะเจาะเข้าไปทำประตูลำบากแน่นอน ฉะนั้นถ้ามีจังหวะทีเด็ดทีขาด แฮร์รี่ เคน มีโอกาสเป็นคนทำแบบนั้นได้ ซึ่งมันอาจเป็นช็อตตัดสินเกมได้เลย

2. สถิตินัดชิงชนะเลิศของ เจอร์เก้น คล็อปป์

ก็บอลมันสูสี! 4 เหตุผล ที่ "ไก่เดือยทอง" มีโอกาสพลิกซิวแชมป์ ยูซีแอล เชื่อว่าเป็นสถิติที่สาวก "หงส์แดง" ไม่อยากจะนึกถึงมันเท่าไหร่ กับผลงานของ "บอส" พวกเขา ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ถ้านับเฉพาะแค่ช่วงกุมบังเหียน ลิเวอร์พูล กุนซือเลือดด๊อยท์ช เคยพาสโมสรผ่านเข้าชิงโทรฟี่ฟุตบอลถ้วย มากถึง 3 ครั้ง ประกอบด้วย ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปรากฏว่า คล็อปป์ พ่ายแพ้ทั้งหมด เป็นได้พระรองเต็ม 3 ครั้ง หากรวมสมัยกุมบังเหียน ดอร์ทมุนด์ "เดอะ นอร์มอล วัน" มีสถิตินัดชิงชนะเลิศ แพ้ 6 ครั้ง และ ชนะเพียง 1 ครั้ง ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ด้วยการถล่ม บาเยิร์น มิวนิค 5-2 ด้วยสถิติที่มันบ่งบอกแบบนี้ ก็เท่ากับว่า "ไก่เดือยทอง" มีโอกาสที่ดีในการจิก "หงส์แดง" คว้าแชมป์ไปเช่นกัน

3. ประสบการณ์เป็นแชมป์ นักเตะ "ไก่เดือยทอง" เหนือกว่า "หงส์แดง"

ก็บอลมันสูสี! 4 เหตุผล ที่ "ไก่เดือยทอง" มีโอกาสพลิกซิวแชมป์ ยูซีแอล ต้องบอกว่า ทั้ง สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล ไม่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์มานานมาก โดย "ไก่เดือยทอง" เป็นแชมป์ครั้งสุดท้ายคือ ลีก คัพ เมื่อปี 2008 ส่วน ลิเวอร์พูล แชมป์สุดท้ายก็คือถ้วย ลีก คัพ เช่นกัน แต่เป็นฤดูกาล 2012 เรียกว่านักเตะทั้ง 2 ทีม แทบจะยกชุด ยังไม่เคยสัมผัสโทรฟี่กับสโมสรปัจจุบันของตัวเองมาก่อน แต่ทว่านักเตะชุดปัจจุบันของทั้ง 2 ทีม ก็เคยมีประสบการณ์ ผ่านเส้นทางการคว้าแชมป์มาแล้วกับอดีตต้นสังกัดกันมาก่อนแล้ว ซึ่งหากนำจำนวนโทรฟี่ของนักเตะมาบวกรวมกัน ต้องบอกว่านักเตะ "ไก่เดือยทอง" มีแชมป์มากกว่า รวมกันได้ 52 รายการ ขณะที่ "หงส์แดง" รวมกัน 37 รายการ โดยคิดจากนักเตะทั้ง 23 คน ที่มีชื่ออยู่ในศึก "ยูซีแอล" ซีซั่นนี้ ฉะนั้นคิดกันแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน นั่นก็คือนักเตะ สเปอร์ส มีประสบการณ์ผ่านการเป็นแชมป์มามากกว่า ลิเวอร์พูล ก็คงเป็นข้อได้เปรียบเรื่องการรับมือเรื่องความกดดันได้ดีกับนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกัน

4. ทีมเป็นรอง ก็เคยหักปากกาเซียนคว้าแชมป์ ยูซีแอล มาแล้ว

ก็บอลมันสูสี! 4 เหตุผล ที่ "ไก่เดือยทอง" มีโอกาสพลิกซิวแชมป์ ยูซีแอล เซียนหลายๆสำนัก และ ความคิดเห็นจากแฟนบอล ดูจะมีแนวโน้มทำนายกันว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากกว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หากให้ตีเป็นเปอร์เซ็นต์ เผลอๆอาจจะมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ด้วยซ้ำ เพราะมองจากผลงานในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เฉียดได้แชมป์ในรอบเกือบ 30 ปี รวมถึงประสบการณ์นัดชิงชนะเลิศ "ยูซีแอล" จากปีก่อน กระนั้น ในโลกของฟุตบอล มันไม่เคยมีบัญญัติไตรยางค์ข้อไหนระบุไว้ว่า ทีมที่เหนือกว่า จะเป็นแชมป์เสมอไป เพราะตัวอย่างนัดชิงชนะเลิศ "ยูซีแอล" เมื่อครั้งก่อนๆ ก็มีให้เห็นกันถมเถไปว่าทีมเป็นรอง ก็สามารถหักปากกาเซียนได้ อาทิ ลิเวอร์พูล ที่สร้างปาฏิหาริย์ค่ำคืนแห่งอิสตันบูล ด้วยการตามหลัง เอซี มิลาน 0-3 กลับมาตีเสมอ 3-3 และ ดวลจุดโทษเอาชนะ จนคว้าแชมป์ ไปครอง หรืออย่าง เชลซี ที่มีทั้งตัวเจ็บ ทั้งตัวติดโทษแบน โดนกระหน่้ำยิงกว่า 30 ครั้ง นัดชิงชนะเลิศพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2012 แต่ทว่าสุดท้ายมาได้ลูกเตะมุม ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา โขกเข้าไป ก่อนจะพลิกกลับมาเอาชนะ "เสือใต้" ได้สำเร็จ ซึ่งนี่แหละคือตัวอย่างที่ตรงประเด็นมากว่าทีมที่เป็นรอง ก็มีโอกาสทำเซอร์ไพรส์
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline