logo-heading
หลายคนยังคงเข้าใจผิดว่าการที่ โปรตุเกส ได้แชมป์ นั่นทำให้พวกเขาเขารอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2020 โดยอัตโนมัติ แต่ความจริงแล้ว โปรตุเกส ยังไม่ได้เข้ารอบ แบ่งกลุ่ม ยูโร 2020 อัตโนมัติ นี่เป็นการเพลย์ออฟ หาแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จากการเล่นตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มของลีก เอ หาทีมตกชั้นเลื่อนชั้นเท่านั้น ย้อนอธิบายรูปแบบการแข่งขันอีกครั้ง รายการนี้ 55 ชาติสมาชิกของ ยูฟ่า จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ลีก คือ เอ, บี, ซี, ดี โดยเรียงลำดับจากค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าหลังจบรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 โดย ลีกเอ คือ กลุ่มที่มีทีมอันดับดีที่สุด ถัดมาเป็นลีกบี, ลีกซี และลีกดี ตามลำดับ การแบ่งกลุ่มแต่ละลีก จะเป็นดังนี้ – ลีก เอ และ ลีก บี จะมีทั้งหมดลีกละ 12 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ทีม – ลีก ซี มี 15 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม มี 3 ทีมหนึ่งกลุ่ม และ 4 ทีมสามกลุ่ม – ลีก ดี มี 16 ทีม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม จากการจัดอันดับโดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าหลังจบรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 แต่ละลีกจะประกอบไปด้วยชาติดังนี้ – ลีก เอ ประกอบไปด้วย เยอรมนี, โปรตุเกส, เบลเยี่ยม, สเปน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, อิตาลี, โปแลนด์, ไอซ์แลนด์, โครเอเชีย, ฮอลแลนด์ – ลีก บี ประกอบไปด้วย ออสเตรีย, เวลส์, รัสเซีย, สโลวาเกีย, สวีเดน, ยูเครน, สาธารณรัฐไอร์แลนด์, บอสเนีย, ไอร์แลนด์เหนือ, เดนมาร์ก, สาธารณรัฐเช็ค, ตุรกี – ลีก ซี ประกอบไปด้วย ฮังการี, โรมาเนีย, สกอตแลนด์, สโลวีเนีย, กรีซ, เซอร์เบีย, อัลเบเนีย, นอร์เวย์, มอนเตเนโกร, อิสราเอล, บัลแกเรีย, ฟินแลนด์, ไซปรัส, เอสโตเนีย, ลิธัวเนีย – ลีก ดี ประกอบไปด้วย อาเซอร์ไบจาน, มาซิโดเนีย, เบลารุส, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย, ลัตเวีย, หมู่เกาะฟาโร, ลักเซมเบิร์ก, คาซัคสถาน, มอลโดวา, ลิกเตนสไตน์, มอลต้า, แอนดอร์ร่า, โคโซโว, ซาน มาริโน่, ยิบรอลต้าร์ แชมป์ได้อะไร? ไขข้อข้องใจแชมป์ เนชั่นส์ ลีก ได้เข้ารอบยูโรหรือไม่ไว้ให้ที่นี่ จากการที่ศึกยูโรครั้งต่อไปกระจายการจัดการแข่งขันออกไปยัง 13 ประเทศทั่วยุโรป โดยจะมีทีมผ่านรอบคัดเลือกทั้งหมด 24 ทีม และชาติเจ้าภาพจะไม่ได้สิทธิ์เล่นรอบสุดท้ายอัตโนมัติเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้รอบคัดเลือกของยูโร 2020 จากทั้งหมด 55 ชาติ จะถูกแบ่งเป็น 10 กลุ่ม โดยแชมป์และรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มจะได้เข้ารอบสุดท้ายทันที รวมเป็น 20 ทีม ส่วนอีก 4 ทีมที่เหลือจะมาจากการเล่นรอบเพลย์ออฟ ซึ่งรอบเพลย์ออฟคือการแข่งขันของทีมที่คว้าแชมป์ในแต่ละกลุ่ม ของแต่ละลีก จาก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก นั่นเอง โดยจะมาแข่งขันรอบน็อคเอาท์ รองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ สุดท้าย 4 ทีมที่คว้าแชมป์ของแต่ละลีก (ลีก เอ, บี, ซี และ ดี ไม่มีถ้วยมอบให้ หาแชมป์เพื่อคว้าตั๋วลุยยูโร) ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะคว้าตั๋วไปลุยศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย แต่หากแชมป์กลุ่มของ ยูฟ่า เนชันส์ ลีก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากการแข่งคัดเลือกยูโรแบบปกติแล้ว สิทธิ์จะตกเป็นของทีมที่อันดับรองลงมาและทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในลีกนั้น ๆ สำหรับโปรแกรมแข่งขันรอบคัดเลือกยูโรจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน 2019 ส่วนรอบเพลย์ออฟจะจัดขึ้นในเดือน มีนาคม 2020 ก่อนยูโรรอบสุดท้ายจะทำการแข่งขัน 3 เดือน ส่วนเมื่อคืนนั่นคือหาแชมป์ของรายการนี้ เพื่อรับมอบถ้วย ในที่นี้คือ โปรตุเกส แชมป์ ที่ 2 เนเธอร์แลนด์ ที่ 3 อังกฤษ และ ที่ 4 สวิตเซอร์แลนด์ (มาจากแชมป์แต่ละกลุ่มจากลีก เอ) ไม่ได้หมายความว่าจะได้ตีตั๋วลุยเข้าไปเล่นในศึก ยูโร 2020 เลย แต่มีสิทธิ์ต่าง ๆ ดังนี้ ทั้ง 4 ทีมที่ได้เข้ารอบชิงแชมป์ จะได้เป็นทีมวางในโถ 1 ในศึก ยูโร ในการจับฉลากแบ่งสายรอบคัดเลือก ปี 2020 ส่วนเงินรางวัลสำหรับทีมแชมป์ จะได้ 4.5 ล้านยูโร รองแชมป์ 3.5 ล้าน ที่ 3 ได้ 2.5 ล้านยูโร ส่วนที่ 4 ได้ 1.5 ล้านยูโร ซึ่งหากรวมส่วนแบ่งจากการเข้าร่วมรายการ 1.5 ล้านยูโร และการเป็น แชมป์กลุ่มอีก 1.5 ล้าน ยูโร ทีมแชมป์จะได้เงินรางวัลเบ็ดเสร็จ 7.5 ล้าน ยูโร ที่เดียว น่าเป็นแรงจูงใจให้หลายทีมชาติทำผลงานดีในรายการนี้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline