logo-heading

โยโกฮาม่า น่าจะเก็บชัยชนะได้อยู่แล้ว แต่กลับมาเจอทีเด็ดของทีมบ๊วยอย่าง ชิมิสุ เอส-พัลส์ มาซัด 2 ลูกใน 2 นาทีสุดท้ายแซงชนะไปสุดมัน 3-2 โดยที่ ธีราทร บุญมาทัน ปราชัยในเกมลีกที่เขาลงสนามเป็นนัดที่2

ฟุตบอล เจ1ลีก นัดที่ 15ของฤดูกาล 2019 ชิมิสุ เอส-พัลส์ ทีมบ๊วยของตาราง เปิดสนามไอเอไอ สเตเดี้ยม นิฮงไดระ (ไอสุตะ) รับการมาเยือนของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทีมอันดับ 4 ทีมเยือนจากภูมิภาคคันโต ที่โค้ชอังเก้ โปสเตโคกลู กุนซือชาวออสซี่ คว้ารางวัลโค้ชยอดเยี่ยมประจำเดือนพ.ค.ไปครอง ใช้งาน "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้ายทีมชาติไทย ส่งลงตัวจริง โยโกฮาม่า เป็นฝ่ายครองเกมบุกอยู่ข้างเดียว และมาได้ประตูนำ 1-0 นาที 32 จากจังหวะที่ ทาคูยะ คิดะ แทงบอลเข้าเขตโทษให้ ทาคูยะ วาดะ ที่จับบอลลั่นไปเข้าทาง เอดิการ์ จูนิโอ วิ่งมาซัดด้วยขวาเข้าไป และเป็นสกอร์เดียวที่เกิดขึ้นใน 45 นาทีแรก ครึ่งหลังเจ้าบ้าน ชิมิสุ เอส-พัลส์ แก้เกมมาได้ดีสู้ได้อย่างสูสีมากขึ้น และมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกเตะมุมฝั่งขวาไปทางเสาสองโหม่งย้อนมาเสาแรกให้ โค มัตซูบาระ โขกซ้ำจ่อๆเข้าไป เกมมามันในช่วงท้าย นาที 81 เทรุฮิโตะ นาคางาวะ หลุดเดี่ยวไปยิงให้ โยโกฮาม่า กลับมานำอีกครั้งเป็น 2-1 อย่างไรก็ดี 3 นาทีต่อมา ทีมเยือนต้องมาเหลือ 10 คนเมื่อ มาร์กอส จูเนียร์ โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกไป เจ้าถิ่นที่ได้เปรียบตัวมากกว่ามาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จาก ดักลาส นาที 89 เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอกันอยู่แล้ว ทว่านาทีสุดท้ายก่อนทดเวลา แฟนเจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนาม เคนตะ นิชิซาวะ ตัวสำรอง ซัดประตูชัยช่วยให้ ชิมิสุ เอส-พัลส์ เปิดบ้านพลิกกลับมาเอาชนะโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส 3-2 ชัยชนะในเกมนี้ทำให้ ชิมิสุ ขยับพ้นจากบ๊วยขึ้นไปรั้งที่ 14 ของตาราง ส่วน โยโกฮาม่า ยังรั้งอันดับ 4 พลาดขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง  
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline