logo-heading

ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยุคปัจจุบันเราแทบไม่เห็นสโมสรไหนใช้ผู้จัดการทีมชาวอังกฤษเลยสักคนโดยเฉพาะทีมบิ๊กเนม เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกับทีมเล็กๆ มากกว่า

ดังนั้นวันนี้ 'ขอบสนาม' จะพาทุกท่านนั่งไทม์แมชชีนย้อนอดีตไปดูผลงานของเหล่าทีม Top 6 พรีเมียร์ลีก กัน ถึงครั้งล่าสุดที่พวกเขามีผู้จัดการทีมเป็นชาวอังกฤษ ผลงานและสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นยังไง ? ไปดูกัน !

ทิม เชอร์วูด - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (2013-14)

 Tim Sherwood spent five months in charge at Tottenham after Andre Villas-Boas was sacked ทิม เชอร์วูด เป็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษคนล่าสุดที่ได้โอกาสคุมทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก ย้อนเวลากลับไปปี 2008 เชอร์วูด ถูก แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ทาบทามตัวมาช่วยงานในตำแหน่งมือขวา ก่อนถูกแต่งตั้งให้รับบทบาทผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในเวลาต่อมา ปี 2013 หลังจาก อังเดร วิลลาส-โบอาส โดนไล่ออกจากตำแหน่งเซ่นผลงานสุดห่วย ทิม เชอร์วูด ก็ได้โอกาสก้าวขึ้นมารับตำแหน่งรักษาการกุนซือ ก่อนจะได้สัญญาถาวร 1 ปีครึ่งจาก ดาเนี่ยล เลวี่ เพราะทำผลงานได้เข้าตา อย่างไรก็ตาม อีก 5 เดือนต่อมาเจ้าตัวถูกสั่งปลดออกจากตำแหน่งหลังพา สเปอร์ส จบอันดับ 6 ทั้งที่มีเปอร์เซนต์การพาทีมชนะอยู่ 59.1 % ก่อนจะมาเป็น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ในปัจจุบัน

รอย ฮ็อดจ์สัน - ลิเวอร์พูล (2010-11)

 Roy Hodgson endured a turbulent time at Liverpool in 2010-11 รอย ฮอดจ์สัน ปัจจุบันอายุปาเข้าไป 71 ปีแล้วแต่ยังคงทำหน้าที่เป็นกุนซือในวงการลูกหนังต่อไป ที่ผ่านมาตลอด 43 ปีในเส้นทางอาชีพปู่แกผ่านประสบการณ์การคุมทีมมามากมายไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์ มิลาน, ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, ทีมชาติอังกฤษ, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, มัลโม่ รวมไปถึงทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ของ 'ปู่รอย' กลับมีทรงที่ไม่ดีเลยไม่ว่าจะเป็นการแพ้ นอร์ทแฮมป์ตัน ในเกม ลีก คัพ ทั้งที่เป็นทีมต่ำชั้นกว่าถึง 2 ดิวิชั่น รวมถึงแพ้ให้กับน้องใหม่อย่าง แบล็คพูล ในเกมลีก และที่หนักกว่านั้นคือเคยตกอับถึงขั้นพาทีมดิ่งมารั้งอยู่อันดับ 18 ก่อนจะออกมาเปิดใจว่า 'ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องหนีตกชั้นแล้วล่ะ' จากนั้นไม่นานในช่วงต้นปี 2011 ปู่แกก็โดนเฉดหัวทิ้ง และ ลิเวอร์พูล ได้แต่งตั้ง เคนนี่ ดัลกลิช ขึ้นมากุมบังเหียนแทน

สจ๊วต เพียร์ซ - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2005-07)

 Early promise from Stuart Pearce petered out and he was sacked after one season คล้ายๆ กับ ทิม เชอร์วูด เดิมที สจ๊วต เพียร์ซ ก็ถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่งตั้งให้รับบทบาทเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมก่อน หลังจากแขวนสตั๊ดไปในปี 2002 เขาก็ถูกทาบทามให้มาช่วยงาน เควิน คีแกน แต่พอถึงช่วง มีนาคม 2005 สโมสรได้ตัดสินใจแยกทางกับ คีแกน และเป็น เพียร์ซ ที่ขึ้นมาคุมทีมไปก่อนชั่วคราว สจ๊วต เพียร์ซ มาได้สัญญาถาวรกับ แมนฯ ซิตี้ หลังพาทีมเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ รวมไปถึงพาทีมไปเล่น ยูฟ่า คัพ รอบคัดเลือก ได้สำเร็จ โดยฤดูกาล 2006-07 เจ้าตัวได้คุมทีมอย่างเต็มตัว แต่ท้ายที่สุดก็ต้องตกงานไปในวันสุดท้ายของฤดูกาลหลังพา 'เรือใบสีฟ้า' จบที่อันดับ 5 โดยในนัดสุดท้ายที่เสมอกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-1 สจ๊วต เพียร์ซ ตัดสินใจโยนเกมด้วยการจับ เดวิด เจมส์ ไปยืนเป็นกองหน้า และจับ เคลาดิโอ เรย์น่า ไปยืนเป็นผู้รักษาประตู

เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล - เชลซี (1993-96)

 Glenn Hoddle was a huge success at Stamford Bridge which earned him the England job เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล เป็นตำนานนักเตะของ เชลซี ที่ได้โอกาสคุมทีมด้วยในฐานะกุนซือช่วงปี 1993-96 โดย ณ ช่วงนั้นเขาทำหน้าควบทั้งเป็นนักเตะด้วยและก็เป็นผู้จัดการทีมไปในตัวด้วย ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดให้จบๆ ไปในปี 1995 ตอนอายุ 34 ปี เขาค่อนข้างมีผลงานที่ดียามลงเตะบอลถ้วยซึ่งในปีแรกเขาพา เชลซี เข้าชิง เอฟเอ คัพ ได้ แต่ท่ายที่สุดก็ได้แค่รองแชมป์ ส่วนผลงานใน พรีเมียร์ลีก ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่เพราะแกพา เชลซี จบที่อันดับ 11 ในปี 1996 แต่ถึงกระนั้น ฮ็อดเดิ้ล ก็ถูกจดจำในภาพกุนซือเลือดผู้ดีที่ฝีมือดีใช้ได้ยามลงเตะบอลถ้วย ก่อนที่จะประกาศแยกทางกับสโมสรในเวลาต่อมา และก็เป็น รุด กุลลิท เข้ามาสานต่อ

ดอน ฮาว - อาร์เซน่อล (1983-86)

 Don Howe เหล่าสาวก 'เดอะ กันเนอร์ส' คงรู้ดีว่า ดอน ฮาว เป็นที่รักมากๆ ของกลุ่มแฟนบอล และก็โปรดปรานมากๆ กับชีวิตที่ ไฮบิวรี่ เขาใช้เวลา 2 ฤดูกาลอยู่กับ อาร์เซน่อล หลังจากประกาศแขวนสตั๊ดไปในปี 1966 เขาก็ได้กลับมาใช้ชีวิตกับทีมรักในฐานะโค้ชทีมสำรองซึ่งตอนนั้น เบอร์ตี้ มี คือคนที่กุมบังเหียน อาร์เซน่อล ชุดใหญ่ จากนั้นไม่นานแกก็ตัดสินใจกลับไปทำงานกับทีมเก่าอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ดู แต่ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีเท่าไหร่ ก่อนจะถูก เทอร์รี่ นีล ดึงตัวกลับมาช่วยงานที่ อาร์เซน่อล ในเวลาต่อมา และในที่สุดปี 1983 เมื่อ นีล ต้องไปจากทีม ดอน ฮาว ก็ได้โอกาสขึ้นมาบัญชาทัพอย่างเต็มตัว พร้อมกับดึงนักเตะดังๆ อย่าง โทนี่ อดัมส์ และ ไนออล ควินน์ มาเสริมทัพ แต่ท้ายที่สุดก็ไปไม่รอด พาทีมหยิบแชมป์ไม่ได้ จบอันดับในลีกก็ไม่สวย ก่อนที่ อาร์เซน่อล จะตัดสินใจกระชาก จอร์จ เกรแฮม มากอบกู้สถานการณ์

รอน แอตกินสัน - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1981-86)

 Ron Atkinson delivered two FA Cups for Man United but could not conquer the league รอน แอตกินสัน คือผู้จัดการทีมคนล่าสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนจะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคตำนาน 27 ปีของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาเคยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัย รวมไปถึง คอมมูนิตี้ ชิลด์ อีก 1 สมัย จนเป็นที่มาของฉายา 'บิ๊ก รอน' ส่วนผลงานในลีกก็ถือว่าไม่เบา เพราะเจ้าตัวพา 'ปีศาจแดง' จบ Top 4 ได้ทุกปี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ 'บิ๊ก รอน' ก็คงเป็นปี 1985 ที่พา แมนฯ ยู ชนะ 10 เกมแรกของซีซั่น และไม่แพ้ใครเลยตลอด 15 เกม แต่พอเข้าสู่เลก 2 ของฤดูกาล 'ปีศาจแดง' ก็มีฟอร์มที่สะดุดไปเยอะจนโดน ลิเวอร์พูล ปาดหน้าคว้าแชมป์ลีกไปครอง สำหรับ แอตกินสัน มาชะตาขาดก็ตอนแพ้ 3 เกมแรกในฤดูกาลถัดไป แถมยังถูก เซาธ์แฮมป์ตัน เขี่ยตกรอบบอลถ้วยอีกต่างหาก ก่อนจะเปลี่ยนมือมาถึง 'เฟอร์กี้'
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline