logo-heading

จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ผลปรากฏว่าเป็น ลิเวอร์พูล ที่เอาชนะ เชลซี ไปได้ด้วยการสังหารจุดโทษที่แม่นกว่า 5-4 หลังเสมอกันในเวลา 2-2 ช่วง 120 นาที และนี่คือสถิติที่น่าสนใจจากเกมๆ นี้

คุมทีมนัดที่ 800

เกมนัดนี้ที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี นับเป็นการคุมทีมนัดที่ 800 ในเส้นทางอาชีพกุนซือของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และการคุม ลิเวอร์พูล ก็เป็นทีมที่เขามีเปอร์เซนต์มากที่สุดถึง 57% รองลงมาก็ได้แค่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ 56% และ ไมนซ์ 05 ที่ 40%

ถูกโฉลกกับเกมยุโรป

ประตูขึ้นนำ 1-0 ของ เชลซี 36 นับเป็นประตูที่ 12 จาก 16 เกมที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรู์ด ยิงให้กับทัพ 'สิงโตน้ำเงินคราม' ถ้าเปรียบเทียบกับเกมลีกแล้วคนละเรื่องเลย หลังจากพี่แกยิงได้แค่ 7 ประตูเท่านั้นจาก 49 เกม ตลอด 2 ซีซั่นที่ผ่านมา

ผู้เล่นแอฟฟริกันคนแรกในยุคนี้

ประตูตีเสมอ 1-1 ของ ลิเวอร์พูล จาก ซาดิโอ มาเน่ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชาวแอฟริกันที่ยิงประตูได้ในศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ โดยคนที่ทำได้ก่อนหน้านั้นคือ เฟรเดริค คานูเต้ ของ เซบีย่า ที่ยิงใส่ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2006

Top 5 ดาวยิงเกมยุโรป

2 ประตูของ ซาดิโอ มาเน่ ที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้ทำให้พี่นั้นกลายเป็นผู้เล่น ลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูในการแข่งขันระดับยุโรปมากที่สุดติด Top 5 ที่ 17 ประตูเท่ากับ โรเจอร์ ฮันท์ ส่วนคนที่ทำได้มากกว่าจะมี เอียน รัช ที่ 20 ประตู, ไมเคิ่ล โอเว่น 22 ประตู และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ 41 ประตู

Hot ปี 2019

2 ประตูของ ซาดิโอ มาเน่ ในเกมดังกล่าวนับเป็นประตูที่ 19 แล้วที่พี่แกยิงได้ในช่วงปี 2019 ถ้าวัดกับผู้เล่นคนอื่นจากทีมใน พรีเมียร์ลีก ด้วยกันแล้วมีแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำได้มากกว่าที่ 20 ประตู

ทำเนียบแชมป์

ความสำเร็จในครั้งนี้นับเป็นถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ครั้งที่ 4 ของ ลิเวอร์พูล (1977, 2001, 2005 และ 2019) แต่ถึงกระนั้นก็มีอยู่ 2 ทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากกว่าพวกเขานั่นคือ บาร์เซโลน่า และ เอซี มิลาน ที่ 5 สมัย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline