ว่ากันว่าความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ยิ่งในกีฬาฟุตบอล คนที่จะเป็นผู้ชนะย่อมต้องเล่นให้ฉลาด ความประมาทแบบโง่ๆไม่สมควรเกิดขึ้น
หลายๆครั้งฟุตบอล 1 เกมตัดสินที่ใครเป็นฝ่ายฉกฉวยความผิดพลาดของอีกฝ่ายได้มากกว่ากัน เมื่อวานผลการแข่งขันเกม 18 ปีชิงแชมป์อาเซียน ทีมชาติไทยชนะมาเลเซียได้อีกครั้ง แม้ว่าตลอดทัวร์นาเมนต์ ทีมชุดนี้จะเล่นได้ไม่เป็นไม่เป็นสับปะรดเอาเสียเลย
ทว่าการชนะมาเลเซียในครั้งนี้ มันเกิดจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของนายทวารมาเลย์อีกแล้ว ซึ่งจะว่าไปนี้เป็นหนที่ 3
ขอบสนามขอย้อน 3 เหตุการณ์ที่ไทยล้มมาเลย์ ซึ่งมาจากความประมาทล้วนๆ ถ้าพร้อมแล้วเชิญอ่านได้เลยครับ
1.รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2001
ฟุตบอลชายซีเกมส์ ครั้งที่ 21 ปีพ.ศ.2544 (2001) เปลี่ยนกฏให้ใช้ผู้เล่นโควต้าอายุไม่ต่ำกว่า 23 ปีเป็นปีแรก หลังจากที่ผ่านมาทีมชาติไทยชุดใหญ่ประสบความสำเร็จมาตลอดในรายการนี้ เมื่อเปลี่ยนแปลงกฏ สมาคมฟุตบอลจึงเฟ้นหานักเตะฝีเท้าดีในระดับเยาวชนมาคัดตัวกันอย่างล้นหลาม ก่อนที่จะได้ดัสกร ทองเหลา, ณรงค์ชัย วชิรบาล, เจษฏา จิตสวัสดิ์, อนุชา กิจพงษ์ศรี, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, รุ่งโรจน์ สว่างศรี รวมถึง"ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่ตอนนั้นอายุ 16 ปี โดยที่มีเฮดโค้ช โดเลส โอตาก้า (คนยูโกสลาเวีย) และ ผู้จัดการทีม เกษม จริยวัฒน์วงศ์
ทีมไทยผ่านรอบแบ่งกลุ่มในสายเอ ชนะกัมพูชา 7-0, ชนะสิงคโปร์ 1-0, ชนะลาว 1-0, ชนะเมียนมา 3-1 รอบรองชนะอินโดนีเซีย 2-1 จากช่วงต่อเวลาในระบบระบบโกลเด้นโกล์ โดยได้ประตูชัยจาก "ลีซอ" ธีรเทพ จนผ่านเข้าไปเจอ“เจ้าภาพ” ทีมชาติมาเลเซีย ณ สนามชาห์ อลัม สเตเดี้ยม ในวันที่ 15 กันยายน 2544 ตลอดทั้งเกม 90 นาทีไทยครองเกมเป็นรอง แถมยังโดนเสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าบ้าน อีกทั้งจังหวะไม่เป็นใจเอาเสียเลย
เกมดำเนินมาถึงนาที 75 การขึ้นเกมทางกราบขวาของ สระราวุฒิ ตรีพันธ์ ที่ตั้งใจจะโยนบอลไปที่กรอบเขตโทษมาเลย์ ทว่าด้วยทิศทางบอลที่แรงบอลมันล้นข้ามหัวนายทวารมาเลเซียเข้าประตู ที่ตัดบอลพลาดไปแบบงงๆ ช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่นและนักเตะเสือเหลืองทั้งสนาม ก่อนที่ไทยจะช่วยกันรักษาสกอร์ที่นำไปจนจบเกม คว้าชัยไปด้วยสกอร์ 1-0 กระชากเหรียญทองไปครอง โดยที่ทีมชาติไทยทำสถิติชนะรวด 6 เกมที่ลงแข่ง
2.รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชายซีเกมส์ 2017
ซีเกมส์วนมาบรรจบอีกรอบ และจัดการแข่งขันที่มาเลเซีย ในปี 2017 สมาคมฟุตบอลฯ ตั้ง "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ทำหน้าที่กุนซือ เพื่อบอลรายการนี้โดยเฉพาะเพื่อเป้าหมายคว้าเหรียญทอง เกมหลักทีมชุดนี้นำโดย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เจนรบ สำเภาดี, ศฤงคาร พรหมสุภะ, ชัยวัฒน์ บุราณ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, สุริยา สิงห์มุ้ย, นนท์ ม่วงงาม ฯลฯ
ท่ามกลางคำครหาที่แฟนบอลไล่ด่า"โค้ชโย่ง" เด็กในคาถา"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ปธ.เทคนิคสมาคมฯในเวลานั้น แถมผลงานในหลายๆทัวร์นาเมนต์ในการอุ่นเครื่อง 2-3 รายการไม่น่าประทับใจเพราะมัวแต่แพ็คเกมรับ หาจังหวะโต้กลับซะจนคนเบื่อหน่ายกันไปทั่ว
ไทยอยู่ในสายบี ซึ่งกว่าจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เล่นซะเลือดตาแทบกระเด็นก็ว่าได้ เกมแรกเปิดหัวด้วยการเสมออินโดนีเซีย 1-1, ชนะติมอร์ 1-0, ชนะกัมพูชา 3-0, ชนะฟิลิปปินส์ 2-0 และนัดสุดท้ายถล่มเวียดนาม 3-0 ซึ่งเกมนี้ถือเป็นการดับซ่าขุนพลญวณ ทว่ารูปเกมก็ไม่น่าชื่นชมเอาเสียเลย แต่ก็ผ่านอุปสรรคด่านแรกมาได้ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มบี ตามด้วยการชนะเมียนมา 1-0 ในรอบรองฯ จากประตูชัยของเจนรบ สำเภาดี จนลิ่วเข้ารอบชิงไปเจอกับเจ้าภาพ มาเลเซีย
นัดชิงกับเสือเหลืองจัดที่เดิมเหมือนเมื่อปี 2001 ที่สังเวียนชาห์ อลัม สเตเดี้ยม ในวันที่ 29 สิงหาคม ตลอดทั้งเกมทั้งไทยและมาเลเซีย สู้กันแบบสนุก ไทยเล่นบอลไร้ความเป็นทีมเวิร์คไปสู้ เน้นลูกตั้งเตะ บอลโยน จังหวะยิงไกล เกมมาถึงนาที39 ศศลักษณ์ ไหประโคน เปิดลูกเตะมุมทางกราบขวา บอลลอยโด่งทว่า มุฮัมมัด นาดซลิ นายทวารออกมาชกบอลปลิ้นเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ไทย นำ 1-0 หลังจากนั้นเด็กของโค้ชโย่ง ยันเอาไว้ได้ตลอดทั้งเกม และเก็บเหรียญทองกลับแดนสยาม
3.ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 18 ปี
ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ยู18 แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศเวียดนาม นัดสุดท้ายในกลุ่มบี ทีมชาติไทยชุด 18 ปี ภายใต้การคุมทีมโดยอิสระ ศรีทะโร ที่ทำผลงานงามหน้าปราชัยต่อกัมพูชา 3-4 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้หนแรกในประวัติศาสตร์ ลงเจอกับมาเลเซีย ที่การันตีการเข้ารอบรองชนะเลิศรายการนี้ไปแล้ว
ด้วยรวมดูเหมือนไม่มีอะไร ลงแข่งขันกันให้ครบโปรแกรม แต่ทว่ามันคือเกมแห่งศักดิ์ศรีระหว่างไทยกับมาเลเซีย ที่ต่อสู้ฟาดฟันกันมาตลอดในย่านนี้เพื่อช่วงชิงความเป็นเต้ยลูกหนังอาเซียน เกมตลอด 90 นาที ทั้งสองฝ่ายหาจังหวะจบสกอร์กันเพื่อให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ
ทว่านาที 71 ความผิดพลาดของนายทวารมาเลเซีย ที่ไปตัดบอลพลาด สุดท้ายไปโดน สิทธินันท์ รุ่งเรือง กองหน้าจากราชบุรี ที่ไปฉกบอลมาได้แล้วกลับตัวยิงเข้าไปให้ ไทยคว้าชัยไปได้ 1-0 และเป็นชัยชนะเกมเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งมันแปลกดีเหมือนกันที่ประตูมาเลย์พลาดเป็นหนที่ 3 ให้แก่ขุนพลลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
เอ็มเร่
[email protected]
ขอบคุณภาพประกอบ : แฟนเพจ สารานุกรมฟุตบอลไทย, หนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน
