logo-heading

ในที่สุดก็เป็นไปตามคาด อันโตนิโอ คอนเต้ ถูกอัปเปหิออกจากสโมสร เชลซี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าในแถลงการณ์จะใช้คำว่า "แยกทางกัน" ก็ตามที แต่ถ้าใครตามข่าวมาตอดนี่มันคือการ "ไล่ออก" ชัดๆ

  2 ปี 2 แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ เอฟเอ คัพ ไม่เพียงพอที่จะได้ไปต่อ จริงอยู่ที่ฤดูกาลที่ผ่านมาจะทำทีมจบที่ 5 พลาดโควต้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า แต่มันก็มีหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการซื้อ-ขายที่โดนเข้ามาแทรกแซง ทั้งนักเตะเจ็บ อีกทั้งคู่แข่งยังเสริมทัพกันระนาว แต่ คอนเต้ กลับไม่ได้นักเตะที่ต้องการ กลายเป็นบอร์ดของ "สิงห์บลูส์" ที่นำโดย โรมัน อบราโมวิช เป็นคนชี้ว่าจะซื้อคนนี้ขายคนนั้น   ผมออกตัวตรงนี้เลย แม้ผมจะเป็นเด็กผี แต่คราวนี้ผม #ทีมคอนเต้ ครับ และในโลกโซเชียลที่ผมไล่ดู มีแต่คนเสียดาย กุนซือชาวอิตาเลี่ยนคนนี้ แม้จะอดโควต้า ชปล. แต่ผมก็ไม่เห็น แฟนสิงห์ จะออกมาโวยวายสักเท่าไหร่ ลองเป็นทีมแดงๆ ในเมอร์ซี่ไซด์ หรือ แมนเชสเตอร์ ดูสิ โค้ชโดนด่าเละเทะ 555 เอาล่ะ ไม่ให้เสียเวลาไปไล่เรียงกันหน่อยดีกว่าว่าตลอด 2 ปีกว่าที่ คอนเต้ กุมบังเหียน "สิงห์บลูส์" ไทม์ไลน์มันเป็นอย่างไรกันบ้าง     เมษายน 2016   เชลซี ประกาศแต่งตั้ง อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาคุมทีม ด้วยสัญญา 3 ปีเต็ม เริ่มฤดูกาล 2016/17   สิงหาคม 2016   ประเดิมคุมทีมนัดแรกใน พรีเมียร์ลีก ด้วยการเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ก่อนจะชนะ วัตฟอร์ด 2-1, ต่อด้วยเชือด บริสตอล ในถ้วยลีกคัพ 3-2 และถล่ม เบิร์นลี่ย์ 3-0 คว้าชัย 4 นัดรวดในเดือน สิงหาคม 2016   กันยายน 2016   ความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล เป็นการปราชัยต่อ ลิเวอร์พูล คารัง 1-2 ประตู ต่อด้วยแพ้ อาร์เซน่อล หมดรูป 3-0 ตอนนั้นเริ่มมีคนตั้งคำถามแล้วถึงฝีมือของ คอนเต้ แต่นั่นก็คือจุดที่ทำให้เจ้าตัวเปลี่ยนมาใช้แผน 3-4-3   ตุลาคม 2016   แม้เดือนตุลาคม เชลซี จะเก็บชัยในลีกได้ 4 นัดรวด โดยมีผลงานมาสเตอร์พีช คือการถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 จน คอนเต้ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน แต่ก็ต้องกระเด็นตกรอบ ลีกคัพ ด้วยการแพ้ เวสต์แฮม 2-1   พฤศจิกายน-ธันวาคม 2016   ระบบ 3-4-3 ดูจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับฟุตบอลอังกฤษ แต่มันเวิร์คสุดๆ สำหรับ คอนเต้ ที่กล้านำมาใช้ เชลซี ของเขาดูแข็งแกร่งขึ้นมาผิดหูผิดตา รับเหนียว โต้ดี เกมรุกวูบวาบจัดจ้าน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม เชลซี เก็บชัยชนะในลีกได้ทุกนัด รวมทั้งสิ้น 13 นัด เป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ณ ตอนนั้น ร่วมกับ อาร์เซน่อล (ก่อนจะโดน แมนฯ ซิตี้ ทำลายเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา) พร้อมกับกลายเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนได้ 3 เดือนติดต่อกัน   มกราคม-เมษายน 2017   5 มกราคม 2017 สถิติชนะรวด 13 นัด ต้องมาถูกหยุดลง ด้วยน้ำมือของคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอนอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ โดย "สิงห์บลูส์" บุกไปพ่าย 2-0 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็กลับมาคืนฟอร์มเทพ กลับมาเก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง เรื่อยยาวไปจนถึงเดือนเมษายน นำเป็นจ่าฝูง แถมในถ้วย เอฟเอ คัพ ก็บินไกลไปได้ถึงรอบชิง รอดวลกับ อาร์เซน่อล   พฤษภาคม 2017   12 พฤษภาคม เชลซี บุกไปเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้ 1-0 จากประตูชัยของ มิทชี่ บาตชัวยี่ ในนาทีที่ 82 ส่งพวกเขาเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ทันที แม้จะเหลืออีก 2 นัด แต่ สเปอร์ส รองจ่าฝูงก็ทำแต้มไล่ไม่ทันแล้ว แม้ท้ายสุดไอ้ 2 นัดที่เหลือ "สิงห์บลูส์" ก็ไม่พลาดเก็บ 6 คะแนนเต็ม พร้อมทำสถิติชนะถึง 30 นัด ภายในฤดูกาลเดียว (ก่อนจะมาโดน แมนฯ ซิตี้ ทำลาย เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาที่จำนวน 32 นัด)   น่าเสียดายที่ คอนเต้ ไม่สามารถพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ เพราะไปพ่ายต่อ อาร์เซน่อล 2-1 ในนัดชิง เอฟเอ คัพ แต่ฤดูกาลแรกของเขาที่แดนผู้ดี เปิดซิงด้วยแชมป์ลีก ก็สุดยอดมากแล้ว แถมยังเป็นกุนซือคนแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ด้วยที่ใช้ระบบ 3-4-3 คว้าแชมป์   ช่วงปิดฤดูกาล   แม้จะพาทีมได้แชมป์ และมีการเพิ่มค่าเหนื่อยให้ในสัญญา แต่ดูทรงแล้วเหมือน คอนเต้ จะเริ่มมีปัญหางัดกับบอร์ดบริหารทัพ "สิงห์บลูส์" ซะแล้ว เมื่อมีข่าวแว่วๆ ออกมาว่า กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ไม่พอใจที่โดนแทรกแซงการซื้อ-ขาย นักเตะ นักเตะที่อยากได้กลับไม่ได้ นักเตะที่ไม่อยากได้กลับโดนบังคับให้ซื้อ นักเตะที่อยากเก็บไว้ก็ถูกบีบให้ขายทิ้ง   ติเอมูเอ้ บากาโยโก้, แดนนี่ ดริงค์วอร์เตอร์ และ อัลบาโร่ โมราต้า คือ 3 แข้งที่ลือกันว่า คอนเต้ ไม่ได้อยากจะซื้อเข้ามาร่วมทีมเลยด้วยซ้ำ ส่วน เนมานย่า มาติช ที่ถูกขายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คือคนที่ คอนเต้ อยากเก็บไว้มากที่สุด แต่ก็โดนบังคับให้ขายทิ้งด้วยราคา 40 ล้านปอนด์   สิงหาคม 2017   ข่าวความขัดแย้งระหว่าง "เสี่ยหมี" กับ คอนเต้ ยิ่งดูมีมูลมากขึ้นเรื่อยๆ คอนเต้ ที่ก่อนหน้านี้เลือกใช้ความเงียบเป็นส่วนใหญ่ เริ่มออกมาพูดบ้างแล้ว หลังเปิดหัวฤดูกาลใหม่ด้วยการพ่ายคาบ้านต่อ เบิร์นลี่ย์ 2-3   และนี่คือคำพูดเปิดศึกกับ "เสี่ยหมี" แบบอ้อมๆ ของ คอนเต้ "ความคิดของผมคือจะให้ บากาโยโก้ ค่อยๆ ปรับตัวกับลีก โดยเป็นตัวสำรองของ มาติช แต่ตอนนี้เราขาย มาติช ไปแล้ว เราก็ต้องพยายามทำให้เขาปรับตัวให้ได้เร็วที่สุด หลังจากเขาหายจากอาการบาดเจ็บ"   กันยายน-ธันวาคม 2017   ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 ส่วนผลงานในลีกก็ดีบ้างแย่บ้าง สลับกันไป แต่ฟอร์มการเล่นที่เคยดีเยี่ยม เกมรับที่เหนียวแน่นต่างหากที่หายไป ทำให้โอกาสป้องกันแชมป์ค่อยๆ มลายหายไป พร้อมกับความร้อนแรงของ แมนฯ ซิตี้   มกราคม 2018   ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดอีกครั้ง ครึ่งฤดุกาลที่ผ่านมา เชลซี ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ตัวที่ทดแทนก็ไม่ดีพอ นักเตะที่ซื้อมาใหม่ก็เหมือนยังปรับตัวไม่ได้ ทำให้ต้องเสริมทัพอย่างด่วน หากยังหวังจะจบท้อปโฟร์ แต่สุดท้ายก็เหมือนจะวนเข้าลูปเดิม คือความเห็นไม่ตรงกันกับบอร์ดบริหาร   คราวนี้ คอนเต้ คงสุดทนจริงๆ ออกมาให้สัมภาษณ์แขวะเต็มๆ ว่า "ถ้าสโมสรให้ผมบอกชื่อนักเตะที่อยากได้ ผมก็จะทพ แต่ตอนนี้สโมสรเป็นคนตัดสินใจเอง ทั้งตัวนักเตะ ทั้งค่าตัว และการลงทุนว่าผู้เล่นคนไหนจะดีที่สุดสำหรับสโมสรแห่งนี้. ..ก่อนอื่นเลย ผมว่าควรจะต้องเข้าใจหน้าที่ของตัวเองในสโมสรเสียก่อน"   สุดท้ายตลาดปิด 3 ตัวที่ เชลซี ได้มาคือ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, รอสส์ บาร์คลี่ย์ และ เอเมอร์สัน. .. ณ นาทีนี้บอกเลยว่าสงสาร คอนเต้   กุมภาพันธ์ 2018   ตอนนี้เริ่มเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เชลซี หมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์แทบจะ 100% ทำได้ดีสุดคือลุ้นจบท้อปโฟร์ เพื่อโควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่ง คอนเต้ ก็ไม่วายแขวะเรื่องซื้อขายอีก โดยกล่าวว่า "ผมคิดว่าตอนนี้เราต้องยอมรับความจริงแล้วหละว่าทีมเราอยู่ในระดับไหน ตอนนี้เราต้องสู้เพื่อพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก และในอนาคตถ้ามีโอกาสเพิ่มความแข็งแกร่งให้ทีมนะ คุณซื้อนักเตะใหม่แค่ 2-3 คนก็พอ แต่ขอให้มีคุณภาพ ไม่ใช่เน้นปริมาณซื้อที 8 คน"   มีนาคม 2018   แพ้ บาร์เซโลน่า ด้วยสกอร์รวม 4-1 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก   เมษายน 2018   เริ่มต้นเดือนด้วยการแพ้ สเปอร์ส คาบ้าน 1-3 ความหวังที่จะติดท้อปโฟร์เริ่มลดน้อยถอยลง   พฤษภาคม 2018   ความหวังในการติดท้อปโฟร์กลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เมื่อ ลิเวอร์พูล เริ่มผลงานสะดุดเพราะไปกังวลกับ แชมเปี้ยนส์ ลีก แถม เชลซี ก็เอาชนะ "หงส์แดง" ได้ 1-0 ต่อความหวังไปในอีก 2 เกมที่เหลือ แต่ท้ายสุดก็ลุ้นไม่ขึ้นจบฤดูกาลที่อันดับ 5 มีแต้มห่างจาก ลิเวอร์พูล อันดับ 4 อยู่ 5 คะแนน อย่างไรก็ตามรางวัลปลอบใจของเหล่าสาวก "สิงห์บลูส์" และ คอนเต้ ก็คือการเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดชิง เอฟเอ คัพ 1-0   กรกฏาคม 2018   เชลซี ประกาศแยกทางกับ อันโตนิโอ คอนเต้  

แล้วผมจะรอดูว่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ ว่าที่กุนซือคนใหม่ของทัพ "สิงห์บลูส์" ที่ "เสี่ยหมี" เลือกเนี่ยจะอยู่ได้ครบจบสัญญารึป่าว?

ชิน ชินพัฒน์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline