logo-heading

ฤดูกาล 2018-19 ของเวที ลา ลีกา กำลังจะเปิดฉากขึ้นในเร็วๆ นี้ และดูเหมือนมันเป็นมีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะกับ เรอัล มาดริด และนี่ก็คือเหตุผลที่พวกเขาจะต้องเจอกับปีที่น่าผิดหวัง

ขาด โรนัลโด้ แล้วอยู่ได้จริงๆ หรือ ?

การย้ายทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จาก เรอัล มาดริด ไป ยูเวนตุส ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่โลกลูกหนังต้องจดจำ แถมยังชวนให้ติดตามอีกว่าพี่แกจะสามารถเขียนตำนานบทใหม่ขึ้นมาได้อีกหรือไม่ ? แต่อีกสิ่งที่น่าติดตามไม่แพ้กันก็คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ เรอัล มาดริด นับจากนี้ไปว่ามันจะเป็นยังไง นักเตะหลายคนๆ รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับ เรอัล มาดริด ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 'ถึงไม่มี โรนัลโด้ ทีมก็อยู่ได้ และยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม' คำถามก็คือนั่นคือคำพูดที่ปลอบใจตัวเองรึเปล่า ? การขาดหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกไปมันจะไม่ส่งผลกับทีมจริงหรือ ? เจ้าของโค้ดเนม CR7 ไม่ได้มีดีแค่การยิงประตูที่ถล่มทลายอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในยามที่ทีมคับขันพี่แกก็เป็นคนที่สร้างช็อตปาฏิหาริย์ได้บ่อยครั้ง นอกจากนี้การมีเขาอยู่ในสนามอย่างน้อยมันก็ข่มขวัญคู่แข่งได้ไม่ใช่น้อยเลยจริงๆ และเมื่อสิ่งเหล่านี้หายไปยังไงมันก็ต้องส่งผลอย่างเห็นได้ชัดอยู่แล้ว

การเสริมทัพที่น่าผิดหวัง

ปกติเราจะจดจำภาพที่ เรอัล มาดริด เสริมทัพได้โหดแทบทุกๆ ปี พวกนักเตะดังๆ ระดับเวิลด์นี่แทบจะย้ายมาไม่ขาดสายเลย แต่พักหลังเหมือนมันดึงดูดนักเตะเหล่านี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ โดยซัมเมอร์นี้ตัวที่ดูเด่นๆ และใช้งานได้มากสุดก็คงมีแค่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ รายเดียวเท่านั้นจากที่ได้มาทั้งหมดราว 5-6 คน ปัญหาหลักๆ เลยก็คือการหาตัวแทนของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งจริงอยู่ที่ แกเร็ธ เบล สามารถขึ้นมารับบทบาทนี้ได้ แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าเกิดได้นักเตะระดับเวิลด์คลาสด้วยกันเข้ามาเติมเต็ม นักเตะที่เคยวาดฝันเอาไว้ว่าอยากย้ายมา เรอัล มาดริด อย่าง เอแด็น อาซาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ทางสโมสรก็ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้เลยสักคน ถ้าจะพูดว่า 'ทีมอย่าง เรอัล มาดริด ไม่จำเป็นต้องเสริมทัพก็ประสบความสำเร็จได้' มันเป็นแบบนั้นจริงหรือ ? ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนที่ก็เสริมทัพได้ไม่ดี จริงอยู่ที่พวกเขาสามารถไปจนสุดทางและได้ชูถ้วยแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 13 แต่ลองดูภาพรวมจริงๆ เรอัล มาดริด มีฟอร์มการเล่นที่ดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด และขาดความคงเส้นคงวาสุดๆ จนหมดโอกาสลุ้นแชมป์ ลา ลีกา กับตกรอบ โกปา เดล เรย์ ตั้งแต่ไก่โห่

โลเปเตกี มือถึงแล้วจริงๆ หรือ ?

มาคุมทีม เรอัล มาดริด นัดแรกในเกมอย่างเป็นทางการก็โดน แอตเลติโก มาดริด กดไป 4 เม็ดงามๆ จริงอยู่ที่แท็คติกที่เขาใช้กับทีมชาติ สเปน นั้นมันสามารถเอามาใช้ทีม เรอัล มาดริด เพราะนักเตะส่วนใหญ่มันก็คือตัวทีมชาติ สเปน ทั้งนั้น เกมรุกยังคงน่ากลัวและมีโอกาสมากมาย แต่เรื่องของมิติอะไรใหม่ๆ ยังไม่มีให้เห็น แถมปัญหาเกมรับที่เสียประตูเยอะของ เรอัล มาดริด ก็ยังคงแก้ไม่หายจากปีก่อน และมันจะเป็นปัญหาของพวกเขามากๆ ในปีนี้ถ้าต้องเจอกับทีมที่มีแนวรุกโหดๆ และเกมสวนกลับเด็ดๆ

ผู้เล่นชุดบีไม่แข็งแกร่งเมื่อเก่า

ข้อนี้จะเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันกับข้อ 2 ด้านบนนั่นคือเรื่องการเสริมทัพ เพราะเมื่อ เรอัล มาดริด ในแต่ละปีพวกเขาก็มีโปรแกรมลงเตะหลายถ้วย ทั้งใน ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ดังนั้นการจะลงเตะเฉลี่ยทุกๆ 3 เกมต่อสัปาดห์โดยใช้นักเตะชุดเดิมๆ ลงเล่นก็ตายกันพอดี ถ้าจะให้ดีมันจำเป็นต้องมีทีมชุด บี ที่แข็งแกร่ง ตัดภาพกลับมา ณ ปัจจุบันลองเหลือบไปดูพวกเขาตัวอะไหล่สำรองสิว่ามีใครที่พอจะพึ่งพาได้ไหม ? จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นตัวดาวรุ่งที่พึ่งดึงขึ้นมาจากชุดสำรอง หรือไม่ก็พวกตัวที่ซื้อมาตั้งใจจะปั้น ซึ่งตัวที่ดูดีที่สุดก็น่าจะเป็น ลูคัส บาซเกซ และก็ วินิซิอุส จูเนียร์ แต่มันก็ไม่ได้น่ากลัวพอที่จะข่มขวัญศัตรูได้ ต่างจากตอนที่มีพวก อัลบาโร่ โมราต้า หรือ ฮาเมส โรดริเกซ หรือ อิสโก้ (ในยุคที่ยังไร้บทบาท)

ไม่ใช่แค่ บาร์เซโลน่า ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ

แน่นอนว่าในทุกๆ ปีทีมที่คอยสกัดกั้นไม่ให้ เรอัล มาดริด ไปถึงฝันในการคว้าสำเร็จก็คือคู่อริตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า และปีนี้องค์ประกอบสำคัญๆ ของพวกเขายังอยู่กันเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, อิวาน ราคิติช และอีกมากมาย แถมยังได้แข้งเกรดพรีเมี่ยมตัวใหม่อย่าง อาร์ตูโร่ วิดัล มาอีกก็จะยิ่งอัพเลเวลความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก แต่จะไม่ใช่แค่ บาร์ซ่า ทีมเดียวที่สามารถกวนใจ เรอัล มาดริด ได้ เพราะ แอตเลติโก มาดริด ก็ได้พิสูจน์ตัวเองขึ้นมาแล้วว่าพวกเขาสามารถเอาชนะได้ทุกทีม ทั้งระบบทีม, ชื่อชั้นนักเตะ, ความรัดกุมเป็นระเบียบตลอดจนทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยม นี่คือคุณสมบัติที่สามารถพาพวกเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ในฤดูกาลนี้ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่เสียนักเตะตัวหลักไปเลยสักคน แถมยังได้ โธมัส เลอมาร์ อีกหนึ่งตัวทีเด็ดมาจาก โมนาโก อีก ต้องยอมรับเลยว่าตอนนี้เผลอๆ เรอัล มาดริด อาจจะไม่ได้เป็นเบอร์ 2 ต่อจาก บาร์เซโลน่า อีกแล้วก็เป็นได้

หมดไฟและอิ่มตัว

6 เหตุผล ที่ 2018-19 จะเป็นซีซั่นที่น่าผิดหวัง ของ เรอัล มาดริด คำว่า 'หมดไฟ' กับ 'อิ่มตัว' ในที่นี้ก็มาจากการคว้าความสำเร็จมาแล้วมากมาย ผู้เล่นชุดนี้ของ เรอัล มาดริด คือชุดที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 13 และคือชุดที่ได้แชมป์ 3 ปีติดต่อกัน ดังนั้นในเมื่อมันเป็นความสำเร็จสูงสุดต่อจากนี้ไปความน่าตื่นเต้นและความท้าทายมันก็ลดน้อยลงไปอีก มิฉะนั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็คงจะไม่เก็บข้าวของเช็คเอ้าท์รั้ว ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไปหรอก ตลอดจน ลูก้า โมดริช ที่กำลังมีข่าวว่าจะย้ายทีมไปอยู่กับ อินเตอร์ มิลาน และมันก็มีโอกาสเกิดขึ้นก่อนที่ตลาดซื้อขายจะปิดตัวลงในวันที่ 31 สิงหาคม เพราะคนที่เป็นเอเยนต์ก็ออกมาคอนเฟิร์มชัดเจนว่า 'ลูก้า โมดริช อยากย้ายไป  อินเตอร์ มิลาน จริงๆ' ซึ่งสาเหตุมันก็คงจะมาจากการหมดไฟและอิ่มตัวนี่แหละ

-HaMuDosSantos-

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline