พลีชีพ! ดรักซ์เลอร์ จวกแท็คติก เอเมรี่ ทำร่วง ชปล.

ด่ากันเองแล้ว! ดรักซ์เลอร์ สุดทนจวก เอเมรี่ ตัวการทำ "เปแอสเช" ตกรอบ ชปล. เพราะขี้ป๊อด ไม่กล้าสั่งลูกทีมให้เปิดเกมรุกใส่ "ราชันชุดขาว" ทั้งๆ ที่ต้องการประตู

ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ มิดฟิลด์ตัวรุกของสโมสร ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ออกโรงตำหนิแท็คติกของเจ้านายอย่าง อูไน เอเมรี่ กุนซือทัพ "เปแอสเช" ว่าเอาแต่สั่งให้ส่งบอลกันไปกันมาไม่คิดจะเดินหน้าบุก เป็นเหตุทำให้พ่ายต่อ เรอัล มาดริด คาบ้าน 2-1 ประตู ในการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง เมื่อวันอังคารที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมผลสองนัดกระเด็นตกรอบไปด้วยสกอร์ 5-2 ประตู ในเลกแรก เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะไปได้ก่อน 3-1 ทำให้เกมนี้ที่บ้านของ ปารีส พวกเขาจำเป็นต้องเอาชนะให้ได้ 2 ลูก แล้วค่อยไปดูอเวย์โกล แต่กลับเป็น "ราชันชุดขาว" ที่ขึ้นนำก่อน ยิ่งไปกว่านั้น มาร์โก แวร์รัตติ ก็มาโดนไล่ออกอีก ทำให้เจ้าถิ่นเหลือ 10 คน แต่ก็มาไล่ตีเสมอได้เป็น 1-1 ในนาทีที่ 71 ทว่าแทนที่ เอเมรี่ จะสั่งให้ลูกทีมเดินหน้าบุก กลับบอกให้ต่อบอลไปมา แถมกว่าจะส่ง ดรักซ์เลอร์ ซึ่งเป็นตัวรุกลงไปก็นาทีที่ 76 แล้ว ทำให้ไม่สามารถพลิกเกมได้ หลังจบเกม กองกลางทีมชาติเยอรมัน ถึงกับทนไม่ไหวด่าเจ้านายตัวเองออกสื่อเลยว่า "มันไม่มีประโยชน์แล้วที่จะส่งผมลงไปตอนนั้น ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมทั้งประหลาดใจและโมโห เราตามตีเสมอได้ 1-1 แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ผมคิดว่าเราต้องกดดันคู่ต่อสู้ต่อไป และเดินหน้าบุกแหลก ใช่ เราเหลือผู้เล่น 10 คน ถึงแม้จะตามตีเสมอได้ แต่คนทั้งสนามก็รู้ว่าเรากลับมาไม่ได้หรอก เพราะเราไม่มีความดุดันเลย" "ต่างจาก มาดริด ที่พวกเขาเล่นอย่างมั่นใจ และไม่ได้กังวลอะไรเลยที่โดนตีเสมอ เราเอาแต่ส่งบอลกลับหลัง ส่งไปส่งมา มันก็ได้แต่ครองบอล แต่ไม่มีทางทำประตูได้เลยถ้าเล่นแบบนี้ เราต้องสร้างความกดดันให้ มาดริด เพราะเกมแรกคุณแพ้มาก่อน 3-1 ไม่ใช่ส่งบอลไปมา แล้วรอให้คู่ต่อสู้ใจอ่อนปล่อยให้เรายิงประตู เราควรจะบุกกดดันใส่ตั้งแต่เริ่มเกมด้วยซ้ำ แต่เราก็ไม่ได้ทำมัน ดังนั้นก็สมควรแล้วหละที่จะตกรอบ"