logo-heading

ทุกสโมสรรู้ แฟนบอลรู้ ว่าค่าตัวนักฟุตบอลสัญชาติอังกฤษย่อมจะมีมูลค่าเกินจริง และแพงในระดับที่อาจจะเกินจากฝีเท้าไปมาก ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นข้อประเด็นถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน และดูท่าทีราคาก็จะไม่ได้ตกลงมาเลยสักนิดเดียว

ย้อนกลับไปมีหลายเหตุการณ์ในตลาดนักเตะที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านักเตะชาวอังกฤษมักถูกตั้งมูลค่าไว้เกินจริง ซึ่งมันแพงในระดับที่ว่าเหล่าสโมสรในต่างแดนไม่กล้าที่จะเข้ามาทำธุรกิจด้วยเลย ซึ่งมันต่างจากนักเตะในประเทศอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น เนเธอร์แลนด์ ดินแดนที่ผลิตนักฟุตบอลเก่งๆ ขึ้นมาประดับวงการกันหลายคน หรือ โปรตุเกส อีกแหล่งเพาะพันธุ์เหล่าแข้งดาวรุ่งชั้นดีของยุโรป แต่ทว่าพอแข้งเหล่านั้นสามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จ หรือพอเริ่มจะมีแวว เหล่าสโมสรใหญ่ในยุโรปก็มักอยากจะต่อแถวขายขนมจีบกันแล้ว เนื่องด้วยมูลค่าไม่ได้สูงจนมากเกินไป ซึ่งมันต่างจากดินแดน "ผู้ดี" อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพจากดีลที่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้เมื่อซัมเมอร์ 2020 อย่าง เบน ก็อดฟรีย์ เซ็นเตอร์ฮาร์ฟจากทีมชาติอังกฤษชุดยู-23 ปี ที่เพิ่งแจ้งเกิดกับ นอริช ได้แบบเต็มตัวไม่นานนัก ก็ถูก เอฟเวอร์ตัน สอยมาร่วมทัพด้วยราคาที่สูงถึง 25 ล้านปอนด์ กับแนวรับที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในระดับสูงเลย ไขสาเหตุทำไมค่าตัวนักเตะอังกฤษ ถึงราคาแพงแบบหูฉีก หรือ อารอน วาส-บิสซาก้า ที่มีเชื้อสายอังกฤษ และ คริสตัล พาเลซ สามารถขายเด็กคนนี้ออกมาได้ถึง 50 ล้านปอนด์ และมันก็เป็นราคาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมที่จะควักกระเป๋าย้ายออกไปอีกด้วย รวมไปถึงในเคสอื่นๆ อีกที่นักเตะในระดับเกรด C หรือ B ถูกประเมินค่าตัวไว้สูงกว่า 30-40 ล้านปอนด์ แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นมันย่อมต้องมีเหตุผลที่มารองรับว่าทำไมนักเตะจากอังกฤษส่วนมากถึงต้องถูกตั้งราคาไว้สูง หนึ่งในสาเหตุสำคัญเลยก็คือเรื่องของกฎ Home Grown  โดยปัจจุบันสโมสรในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกอนุญาตให้มีนักเตะที่ไม่ใช่โควต้า Home Grown อยู่ในทีมได้ 17 คน ในการส่งชื่อทีมชุดใหญ่ในแต่ละเกมที่ลงสนาม และต้องเป็นนักเตะที่เกิดในสหราชอาณาจักร 8 คน ซึ่งด้วยเหตุนี้เราเลยมักจะเห็นการย้ายตัวของแข้งที่มีสัญชาติอังกฤษแพงเกินความเป็นจริง  ส่วนโควต้า Home Grown ไม่ได้จำกัดสัญชาติแต่นักเตะคนนั้นจะต้องฝึกฝน หรือเล่นฟุตบอลอยู่ในสหราชอาณาจักรอย่างน้อย 3 ปี ก่อนอายุจะเกิน 21 ปี ซึ่งนั้นก็หมายความว่าหากนักเตะคนใดอยากจะได้โควต้านี้มาครอง ต้องโยกย้ายมาเล่นในสหราชอาณาจักรช้าสุดคืออายุต้องไม่เกิน 18 ปี ยกตัวอย่างให้พอเห็นภาพคือสมมุตินักเตะไทยที่ย้ายไปค้าแข้งที่อังกฤษตั้งแต่อายุยังไม่เกิน 18 ปี และได้มีการเซ็นสัญญากับอคาเดมี่สักสโมสร พร้อมกับฝึกซ้อมอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 ปี เหตุนี้ทำให้สโมสรสามารถทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะโควต้า Home Grown ได้ แต่ทว่าในรายละเอียดของนักเตะไทยยังคงมีเรื่องของ Work Permit สำหรับการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป ฉะนั้นแล้วด้วยเงื่อนไขของกฎระเบียบในข้อนี้มันเลยเป็นการบีบให้สโมสรในอังกฤษต้องดึงนักเตะในโควต้าดังกล่าวเข้ามาสู่ทีม เพราะบางทีการขืนรอนักเตะจากอคาเดมี่ของตัวเองเติบโตขึ้นมามันอาจจะไม่ทันการ และโอกาสประสบความสำเร็จอาจจะช้ากว่าสโมสรคู่แข่งไปหลายช่วงตัว ซึ่งประเด็นเหล่านี้ที่ถูกนำหยิบยกมาพูดกันอีกก็สืบเนื่องจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถปิดดีลคว้าปราการหลังอยาง ราฟาเอล วาราน จาก เรอัล มาดริด ด้วยราคาค่าตัวราว 42 ล้านปอนด์ แน่นอนนี่คือมูลค่าที่ไม่ได้แพงเวอร์วังอลังการเมื่อเทียบกับฝีเท้าที่แนวรับผู้นี้แสดงออกมาในช่วงหลายปีหลัง ทั้งในนามสโมสร เรอัล มาดริด ที่โกยแชมป์เป็นว่าเล่นโดยเฉพาะ แชมเปี้ยนส์ลีก และที่สำคัญด้วยดีกรีแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศสมันยิ่งส่งเสริมให้โปรไฟล์ของ วาราน มีความพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ไขสาเหตุทำไมค่าตัวนักเตะอังกฤษ ถึงราคาแพงแบบหูฉีก ฉะนั้นเมื่อชายตามองไปที่ดีล วาราน ถือว่าทัพ "ปีศาจแดง" ได้ของดีในราคาที่เหมาะสมในการนำเข้ามาขันเกมรับให้มีความแน่นหนามากกว่าเดิม  แต่ทว่าถ้ามองไปในอีกมุมหนึ่ง ณ กรุงลอนดอน อาร์เซน่อล คืออีกสโมสรที่กำลังจะเดินหาปิดดีลนักเตะในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟเหมือนกัน แต่ทว่ามันต่างกันตรงราคา และดีกรีของนักเตะ ชื่อของ เบน ไวท์ พัวพันกับทัพ "ปืนใหญ่" มานานก่อนที่สถานการณ์ล่าสุดกำลังบ่งบอกว่าไม่น่าพลาด แต่ทว่ากองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษนั้นถูกปักป้ายราคาไว้สูงถึง 50 ล้านปอนด์ ใช่ครับ มันเป็นราคาที่สูง และแรงมากพอสมควร และเมื่อมีดีลของ วาราน มาเป็นตัวเปรียบเทียบมันเลยเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่านักเตะสัญชาติอังกฤษมักมีค่าตัวที่สูงเกินจริง ทั้งที่ดีกรีของ ไวท์ เขาคือปราการหลังของทีมอันดับ 16 จากศึกพรีเมียร์ลีก ส่วนนามทีมชาติแม้จะมีชื่อไปลุยศึกยูโร แต่ก็ไม่ได้ลงสนามเลยสักเกมเดียว สุดท้ายจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่จะมารองรับ การที่จะซื้อนักเตะในมูลค่าเท่าไหร่มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และสโมสรนั้นๆ ก็พอใจที่จะควักกระเป๋าจ่ายออกไป เพื่อได้นักเตะในสเป็กตามที่ต้องการ เพียงแต่ว่ามันจะมีข้อพิพากเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มแฟนบอลเรื่องของมูลค่านักเตะที่ทีมนั้นๆ ลงทุนไปเท่านั้นเอง

- Paolinho -

logoline