แม้จะเป็นอีกวันที่พวกเขาไม่ได้เล่นถึงขั้นสุดยอดอะไร แต่ก็เป็นอีกวันที่ เชลซี สามารถเก็บผลสกอร์ที่ต้องการไปได้อย่างน่าประทับใจ หลังสามารถเปิดบ้านเอาชนะ ลีลล์ แชมป์เก่าลีกเอิงไปได้ 2-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก โดยเกมนี้นอกจากผลสกอร์แล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ และวันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพามาเก็บตกกันครับ
เริ่มกันจากเรื่องแรก การจัดทัพ
เป็นไปอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันก่อนเกม ว่ามีโอกาสจะดร็อป “บิ๊กตู้” โรเมลู ลูกากู เป็นสำรอง และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ โธมัส ทูเคิ่ล เลือกใช้เป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ในตำแหน่งศูนย์หน้าฟอลซ์-ไนน์ ประสานเกมรุกกับ คริสเตียน พูลิซิช และ ฮาคิม ซิเย็ค ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ ก็จัดชุดหลักชุดเต็มลงมากับแผน 3-4-3 ที่ถนัด
ถัดกันมาด้วยเรื่องของรูปแบบเกมที่ต้องบอกว่า เชลซี ช่วงนี้มี สไตล์การเล่นแบบหวังผลได้ในบอลถ้วย ครับ
เพราะแม้เกมรุกของพวกเขา อาจจะยังไม่ได้ไหลลื่น และไม่ได้ดีเหมือนในช่วงปีก่อน แต่อย่างน้อย ๆ เกมรับพวกเขายังเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง และดูไม่มีทีท่าจะเสียประตูเลยในนัดนี้
เพราะแม้ ลีลล์ ผู้มาเยือนจะครองบอลมากกว่า และหาโอกาสยิงได้มากกว่าเกือบเท่าตัว แต่ ทัพตราหมา สามารถส่องตรงกรอบ เชลซี ได้แค่เพียง 2 ครั้ง แถมไม่มีจังหวะที่หวังผลได้เลย
ส่วนเกมรุก เชลซี ก็ยังทำได้ดีในจังหวะฉาบฉวย หรือจะลูกเซ็ตพีชที่ได้ประตูจากการโขกของ ฮาแวร์ตซ์ และการเล่นเกมสวนกลับ ที่ได้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลากบอลจากฝั่งตัวเองมาจ่ายให้ พูลิซิช ปิดสกอร์
แม้จะไม่ได้เล่นถึงขั้นเนียนตา แต่ผลงานน่าประทับใจมากครับชนะ 2-0 ถือเป็นการเก็บคลีนชีตนัดที่ 5 ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ของพวกเขา มากที่สุดเหนือทุกทีม เกมยังคงแข็งแกร่งและไว้ใจได้ครับ
ส่วนเกมรุกที่ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยไหลลื่น อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งคือปัญหา อาการบาดเจ็บ ของ เชลซี โดยเฉพาะตำแหน่งวิงแบ็ค หัวใจหลักของแผน ทูเคิ่ล ที่ตัวจริงเจ็บกันทั้งคู่
และยังมีปัญหาคนนั้นคนนี่ผลัดกันบาดเจ็บ รวมถึงนัดนี้ครับ เป็น มาเตโอ โควาซิช และ ฮาคิม ซิเย็ค ที่มีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงตั้นครึ่งหลัง
แต่ตัวกุนซือ ทูเคิ่ล ก็หวังว่าทั้งสองจะเจ็บไม่หนัก และหวังว่าจะหายเจ็บได้ทันก่อนเกมนัดชิง ลีก คัพ วันอาทิตย์นี้กับ ลิเวอร์พูล
ส่วนเรื่องของ บิ๊กตู้ ที่ไม่ได้ลงสนามในนัดนี้ ทูเคิ่ล ให้เหตุผลว่านักเตะเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจจึงให้พัก แต่ส่วนหนึ่งเราก็คาดว่ามาจากฟอร์มการเล่นของนักเตะด้วย ซึ่งแฟน เชลซี ก็คงจะเห็นด้วยเช่นกันสำหรับเรื่องนี้ และคงอยากเห็นเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ เล่นแทนไปก่อน แต่อย่างไรก็ตาม หากฤดูกาลนี้ ลูกากู ยังไม่ดีขึ้น ก็ต้องมารอดูว่าในช่วงซัมเมอร์หน้า ทั้งตัวเขาและสโมสรจะมีท่าทียังไงกันต่อไปครับ
และประเด็นสุดท้ายกลับมาด้วยเรื่องดี ๆ ในเกมกับบ้างกับ นักเตะที่เล่นได้ดีในนัดนี้
แน่นอนว่าคนที่โดดเด่นสุดคือ แมนออฟเดอะแมตช์ อย่าง ก็องเต้ วันนี้เขาทั้งช่วยเกมรับได้เป็นอย่างดี ขยันเป็นเรื่องประจำอยู่แล้ว และยังมีส่วนสำคัญกับประตูที่สองของทีมด้วย จากการแอสซิสต์ของเขา
ส่วนแผงหลังวันนี้ใช้ได้ทั้งทีมนะครับ ที่โดดเด่นสุดคงเป็น ติอาโก้ ซิลวา เขาทั้งชนะการดวลมากที่สุด เอาบอลกลับมาครอบครองได้มากที่สุด เรียกได้ว่ายังสุดครับแม้จะวัย 37 ปีแล้ว
ส่วนแนวรุกวันนี้เด่นสุดคงเป็น ฮาแวร์ตซ์ สามารถรับบทบาทเป็น false-9 ได้ดี หาโอกาสยิงจากจังหวะฉาบฉวยได้หลายครั้ง และเป็นคนทำประตูขึ้นนำให้กับทีม
และนี่ก็คือประเด็นเก็บตกทั้งหมดที่เรานำมาฝากกันในเกมนี้ แม้ความไหลลื่นในเล่นเกมรุกอาจยังไม่โสภา แต่ผลงานที่ได้นั้นน่าประทับใจ ชนะติดต่อกันมา 6 นัดรวมทุกรายการ แถมนับตั้งแต่ขึ้นปีปฏิทิน 2022 มาก็แพ้ยากมาก พ่ายแค่ แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเพียงนัดเดียว
เพราะฉะนั้น ทรงบอลแบบนี้ เกมรับดี แพ้ยาก เล่นสวนได้ และยังพอมีทีเด็ดในเรื่องลูกฉาบฉวย ก็เหมาะสำหรับการในบอลถ้วย เพราะฉะนั้นบอกได้เลยว่าออกได้ทุกหน้าครับ สำหรับรอบชิงชนะเลิศ ลีก คัพ ที่จะเจอกับ ลิเวอร์พูล
ก็มาลุ้นกันครับ วันอาทิตย์นี้ เวลา 23.30 น. ว่า เชลซี จะสามารถคว้าแชมป์ที่ 4 ในยุคสมัยของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาครองได้หรือไม่?
