อย่างน้อยๆ "ทีมชาติไทย" ก็ยังได้เห็นของดีจาก "ดูไบ คัพ"

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับทัวร์นาเมนต์ ดูไบ คัพ ของ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และทั้ง 3 เกมของขุนพลช้างศึกชุดเล็กจบลงด้วยความพ่ายแพ่ทั้งหมด

โดยเกมเปิดบ้านแพ้ กาตาร์ 1-0 ต่อด้วยเกมกับจีนพ่ายไปอีก 4-2 และล่าสุดนัดจัดอันดับกับ อิรัก ก็แพ้ไป 2-1 ทำให้เรารั้งบ๊วยของทัวร์นาเมนต์นี้ 

แม้ว่าผลงานและอันดับเราจะจัดว่าแย่เลย แต่อย่างน้อยๆ การตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายกับการไปร่วมแข่งขัน ดูไบ คัพ ครั้งนี้ ก็ยังมีข้อดีๆ ให้ได้เห็นอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องตัวผู้เล่น !!!

เริ่มต้นด้วยการที่เราได้เห็นการเล่นบอลด้วยเท้าเพื่อบิ้วอัพเกมขึ้นมาของ นพพล ละครพล นายด่านมือสองบุรีรัมย์ว่ามันยอดเยี่ยม ที่จริงๆ ถูกวางตัวเป็นมือหนึ่งมาตลอด แต่ยังไม่มีโอกาสได้เล่นเนื่องจากตอนมองโกเลียก็ไม่ได้เดินทางไปแข่งด้วย

เราได้เห็นการยืนตำแหน่งกองกลางตัวรับที่ยอดเยี่ยมทั้ง 3 เกมของ อิรฟาน ดอเลาะ ทั้งที่กับ บุรีรัมย​ นั้นเจ้าตัวลงสนามนับนิ้วได้เลย แต่พอมาเล่นในทีมชาติชุดเล็กก็ยังสามารถทำผลงานได้ดี 

เราได้เห็นร่างกายและสกิลที่ดีขึ้นของ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว หลังน้องไปชุบตัวที่สเปนมา อันนี้หลายคนชื่นชอบการเล่นของ "เจ้าหนึ่ง" มากๆ ความคล่องตัวมีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความแข็งแกร่งของร่างกาย 

เราได้เห็นเพชรเม็ดใหม่ของฟุตบอลไทยกับผลงานการปั้นเกมของ วิลเลี่ยม ไวเดอร์เฌอ ซึ่งนี่คือนักเตะที่ได้รับคำสมมากที่สุดในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากผลงานและความมุ่งมั่นที่ไม่เป็นสองรองใคร 

และสุดท้ายเราพอจะได้เห็นประโยชน์จากกองหน้าลูกครึ่งคนใหม่อย่าง พาดริก กุสต๊าฟส์สัน เพราะที่ผ่านมาแข้งลูกครึ่งเราแทบไม่มีผู้เล่นกองหน้าเลย ดังนั้นการเข้ามาของกองหน้าลูกครึ่งไทย-สวีเดน ผู้นี้น่าจะช่วยในเกมรุกได้ไม่มากก็น้อยแน่ๆ 

และพอเราได้เห็นทีมชุดนี้เล่น เราคาดหวังว่าผู้เล่นหน้าเก่าๆ ที่มีผลงานดีๆ อย่าง โจนาธาน เข็มดี, เบน เดวิส หรือ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร

รวมไปถึงนักเตะจากชุดใหญ่ที่อาจจะถูกดึงลงมาเล่นในทีมชุดนี้จะเข้ามาร่วมและช่วยส่งให้ ทีมชาติไทย ยู23 แกร่งขึ้นได้ก่อนถึงทัวร์นาเมนต์ ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ในอีก 2 เดือนข้างหน้า