logo-heading

มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ยอมรับว่า ตนเองเคยเซ็นสัญญาย้ายไปคุมทีม เรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อน แต่กระนั้นได้เปลี่ยนใจเลือกกลับไปกุมบังเหียนให้กับ ยูเวนตุส เพราะมีสายสัมพันธ์อันดีกับสโมสร และ ที่สำคัญต้องการอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว

อัลเลกรี แยกทางกับ ยูเว่ เมื่อปี 2019 หลังพาสโมสรคว้าโทรฟี่ 11 แชมป์มาครอง ในระยะเวลา 5 ซีซั่น แต่กระนั้นหลังจากที่ ยูเวนตุส ไปเลือก เมาริซิโอ ซาร์รี่ และ อันเดรีย ปีร์โล่ มาคุมทีม แต่ผลงานไม่น่าประทับใจ ทำให้ "ไอ้ม้าลาย" ตัดสินใจดึงตัวกุนซือรายนี้กลับมา

ล่าสุด อัลเลกรี เปิดใจว่าจริงๆตนเองเซ็นกับ ราชันชุดขาว ไปแล้ว หลังแยกทางกับ ซีเนอดีน ซีดาน แต่เพราะ ยูเว่ เลยกลับมา โดยระบุว่า "ผมได้เซ็นสัญญากับ มาดริด ไปแล้วเมื่อซัมเมอร์ก่อน แต่ผมโทรไปหาประธานสโมสร และ บอกกับเขาว่า 'ผมไปไม่ได้แล้ว' เพราะผมเลือก ยูเวนตุส ซึ่งเขาก็ขอบคุณผมนะ แต่เอาจริงๆที่ตอนนี้ มาดริด โทรหาผมเมื่อเดือนพฤษภาคม มันไม่มีอะไรต้องลังเลเลย"

"ผมไม่เสียใจหรอก ผมปฏิเสธ เรอัล มาดริด ไป 2 ครั้งแล้ว ซึ่งครั้งแรกคือตอนที่ผมกำลังเจรจาเรื่องขยายสัญญากับ ยูเวนตุส และ ครั้งนี้ผมก็บอกกับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ไว้ว่า ผมให้สัญญาใจกับ อันเดรีย อันเญลลี่ (ประธาน ยูเวนตุส) เอาไว้"

"ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม จริงๆผมกลับมาก่อนหน้านี้ก็ได้ แต่ผมไม่ทำ ด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยหลังจากคุณแม่ของผมเสียไปเมื่อปี 2018 ผมก็ไม่อยากอยู่ไกลบ้าน ผมต้องการอยู่กับ จอร์โจ้ ลูกชาย และ คุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อของผมช้ำใจหนักหลังเสียคุณแม่ไป โดยเขาอยู่ที่ ลิวอร์โน่ ดังนั้นผมตัดสินใจกลับมา ยูเวนตุส เพราะผมมีสายสัมพันธ์อันดีกับสโมสร และ อยากอยู่กับลูกชาย ที่อาศัยอยู่กับแม่ของเขาที่เมืองตูริน"

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline