logo-heading

เมื่อวานอาจจะยังเห็นรอยยิ้มบนหน้า แต่วันนี้ก็อาจไม่ได้เห็นแววตากันอีกแล้ว

โดยเฉพาะกับโลกลูกหนัง เมื่อต้องสูญเสียบุคคลสำคัญของวงการอย่าง มิโน ไรโอล่า เอเย่นต์ผู้สร้างสีสัน แบบไม่มีวันกลับ

ก่อนอื่นเลย คงต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับครอบครัวของ ไรโอล่า หลังจากต้องเสียผู้นำทั้งทางสายเลือด และ ความภาคภูมิใจ ไปในวัย 54 ปี หลังจากต่อสู้กับโรคร้ายทางปอดมานานแล้วหลายเดือน

แต่กระนั้นโมเมนต์ที่เขาได้สร้างเป็นประจักษ์เอาไว้ จะถูกกล่าวขานไปตลอดกาล ในฐานะหนึ่งในเอเย่นต์ที่โด่งดังที่สุดแห่งวงการลูกหนัง 

ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว สมัยที่ ไรโอล่า ยังมีชีวิตอยู่ เขาทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์ให้กับนักเตะระดับโลกมากมาย 

อาทิ ปอล ป็อกบา, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, มัทไธส์ เดอ ลิกต์ หรือ คนที่กำลังมีข่าวกระฉ่อนไปทั่วเรื่องการย้ายทีมก็คือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงฟอร์มฮอตจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

การทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์ โดยทั่วไปแล้วคือการทำให้นักเตะได้รับผลประโยชน์ และ คุ้มค่ามากที่สุดในการเป็นนักฟุตบอล

แต่สำหรับ ไรโอล่า นับเป็นเอเยนต์ที่มีชั้นเชิงมากกว่านั้น ไม่ได้มีจุดเด่นแค่การต่อรองบนโต๊ะเจรจา ประหนึ่งว่าแข็งมา ก็แข็งกลับ แต่เขามักเป็นคนกลางระหว่างนักเตะกับสโมสร ที่พูดคุยจนทำให้นักเตะได้สัญญาและเงินเดือน, ได้เรื่องสปอนเซอร์ และ จัดระเบียบเรื่องการออกสื่อ ดีมากขึ้นตามไปด้วย

จนหลายๆครั้ง ถูกตราหน้าว่าเป็นพวก "ไอ้หน้าเงิน"

ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยด่า ไรโอล่า ไว้ว่า "ไอ้ถุงขี้" เพราะเป็นคนแนะนำให้ ปอล ป็อกบา ขอขึ้นค่าเหนื่อย เพื่อการันตีตำแหน่งตัวจริง สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เนื่องด้วยก่อนหน้านั้น แทบไม่มีบทบาทอยู่ในทีม ปีศาจแดง ทำให้ ป๋าเฟอร์กี้ โกรธจัด เพราะเป็นการข้ามหน้าข้ามตา

ซึ่งนั่นแหละครับ ทำให้ภาพลักษณ์ของ ไรโอล่า ถูกจำเป็นบทผู้ร้ายเสมอมา รวมถึงมีหลายๆครั้งที่เขาเรียกเงินเป็นแสน เป็นล้าน สำหรับค่านายหน้า ในการย้ายแต่ละครั้งของนักเตะชื่อดัง ซึ่งเขาเองก็ไม่แคร์เลยสักนิด

เพราะจะมีกี่คนทราบว่า ความเป็นจริงแล้ว ไรโอล่า ต้องพยายามมากแค่ไหน กว่าจะก้าวมาถึงตรงจุดนี้ ในการเสาะหาใครสักคนเพื่อเป็นนายหน้า ทั้งเป็นเด็กล้างจาน และ คอยเสิร์ฟอาหาร กว่าจะไต่เต้าขึ้นมาอยู่ตรงจุดนี้

นักเตะในสังกัดของเขา ไม่ใช่แค่ชื่อชั้นต้องโด่งดังเพียงอย่างเดียว แต่ต้องยอมรับในสิ่งที่เขาต้องการได้ด้วย เพื่อก้าวไปเป็นนักเตะระดับโลกเหมือนคนอื่นๆ


ซลาตัน เคยเล่าให้ฟังครั้งหนึ่งว่า เขาเคยโดน ไรโอล่า ให้ละทิ้งทางโลก

"ซลาตัน นายไปขายรถ ไปขายนาฬิกา ซะนะ และ ควรเริ่มฝึกซ้อมให้หนักตลอด 3 เวลา เพราะสถิติของนายมันทุเรศมาก" ... นั่นแหละครับคือจุดพลิกชีวิต ให้ ซลาตัน กลับตัวกลับใจ ขยันขันแข็งในการฝึกซ้อม จนกลายเป็นตำนานของวงการลูกหนังถึงทุกวันนี้ ขนาดอายุ 40 ปี ยังลุ้นแชมป์กับ เอซี มิลาน เหมือนเดิม 

ไรโอล่า เชื่อว่าการเป็นเด็กในวันนั้น จะทำให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า .. และ สิ่งสำคัญก็คือ เขาต้องการทำให้นักเตะในความดูแล มีผลประโยชน์สูงสุด

"ผมต้องทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อผลประโยชน์ให้กับนักเตะของผม ถ้าผมดูแค่ว่าผมจะได้อะไร ผมคงให้ ป็อกบา อยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป" ไรโอล่า กล่าว

นี่แหละครับ การเจรจาในการเป็นเอเย่นต์ของเขา อาจทำให้หลายๆคนไม่พอใจ แต่ทำให้นักเตะได้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ

ไม่ใช่ ปอล ป็อกบา ที่ทำให้การย้ายทีมพลิกชีวิตเท่านั้นเพราะก่อนหน้านี้ยังมีตำนานยุค 90 อย่าง พาเวล เนดเวท ที่ ไรโอล่า เคยปลุกปั้นให้โด่งดังเช่นกัน รวมไปถึง มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ที่หลายสโมสรพากันแย่งกันทั้งตำบล แต่ก็พาไปอยู่กับ ยูเวนตุส ได้สำเร็จ

ด้วยงานที่ ไรโอล่า สร้างมาทั้งหมด ทำให้เขาได้รับขนานนามว่า "ซูเปอร์เอเย่นต์" 

ในวงการฟุตบอล คำว่า ซูเปอร์เอเย่นต์ ใช้ยกย่องบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูงส่งในงานของตัวเอง รับเงินเดือนเป็นเข้ากระเป๋าหลายล้าน เคยถูกจัดว่าเป็นท็อปไฟฟ์ เอเย่นต์นักกีฬาที่รวยที่สุด เมื่อ 3 ปีก่อน ทั้งมีทั้งอำนาจ และ อิทธิพล อย่างสูงส่งในตลาดซื้อ-ขายของนักเตะ

ไม่ต้องยกตัวอย่างไปไกลเลยครับ ป็อกบา คือเคสตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด เขาเป็นคนทำให้ ป็อกบา ทีเป็นแค่ดาวรุ่งไม่มีดีกรี ได้ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส จนโด่งดังไปทุกสารทิศ และ ต้องทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อตัวกลับมาด้วยค่าตัวสถิติโลก ราวๆ 105 ล้านยูโร เมื่อปี 2016 ซึ่งดีลนั้น ได้สร้างกำไรให้กับเจ้าตัวมากถึง 25 ล้านยูโร

ด้วยตัวเลขมหาศาล จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ไรโอล่า ถึงเป็นจอมสร้างสีสันที่ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนัง 

ต่อให้ ไรโอล่า จะทำเงินได้อย่างมหาศาลในการเปิดโต๊ะเจรจาเรื่องซื้อนักเตะแต่ละครั้ง แต่กระนั้นทั้งหมดทั้งมวล ล้วนเกิดจากการทำงานอย่างหนักของเขา ในการเฟ้นหานักเตะ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทน

ไม่ใช่แค่เรื่องวาจา สาลิกาลิ้นทอง เท่านั้น แต่ ไรโอล่า ยังมีความสามารถในการกระตุ้น และ ผลักดันนักเตะในความดูแล ให้งัดประสิทธิภาพออกมาได้ดีที่สุด และ ทีมไหนที่มีสไตล์เหมาะกับเด็กในสังกัดของตัวเอง เพราะ ไรโอล่า รู้ว่านักเตะคนไหน ที่จะก้าวไปเป็นตัวท็อป และ สร้างเงินได้อย่างมหาศาล อย่างที่บอกครับมันฟังดูเหมือนเขาเป็นพวกหน้าเงิน

แต่คนในวงการเดียวกันเรียกว่า ไรโอล่า ว่า "อัจฉริยะ" เพราะเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกความพบเจอแต่สิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากประสบการณ์ทั้งหมด กว่าจะก้าวมาถึงตรงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ในวันที่ ไรโอล่า ถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย กรีดเลือดกรีดเนื้อสโมสรจนบ้าคลั่ง แต่ในฐานะบุคคลหนึ่งเขายังคอยทำเพื่อผลประโยชน์ต่อตัวนักเตะเสมอมา เพราะกว่าที่เขาจะลืมตาอ้าปากมาได้ ก็ต้องอาศัยนักเตะที่ให้ใจเต็มที่เหมือนกัน

อนาคตอาจจะมี เอเย่นต์เก่งๆ ขึ้นมาโด่งดังอีกมากมาย แต่คงไม่มีใครอีกแล้วที่จะก้าวมาสร้างอิทธิพลเขย่าวงการลูกหนังได้เหมือน มิโน ไรโอล่า อีกแล้ว

ขอบคุณที่หลายๆครั้ง ทำให้โลกลูกหนังมีสีสันมากเหลือเกิน ขอให้ข้างบนเต็มไปด้วยความรัก และ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว มิโน่ ไรโอล่า ไว้ ณ ที่นี้ จริงๆ 🥺❤️

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline