logo-heading

ควันหลงหลังเกมที่ ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ลงสนามปิดจ็อบในนัดสุดท้ายของศึก ชิงแชมป์เอเชีย ด้วยการเดิมพันกับ เกาหลีใต้ ในการแย่งกันเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป 

โดยผลการแข่งจบลงแบบเจ็บปวดสำหรับแฟนบอล ทีมชาติไทย เพราะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับแข้งจากแดนกิมจิไปแบบหวุดหวิด 1-0 พร้อมกับส่งให้ ช้างศึก ยู 23 กระเด็นตกรอบแรกของศึก ชิงแชมป์เอเชีย 2022 ไปอย่างน่าเสียดาย 

และตามธรรมเนียมหลังจบการแข่งขัน ทีมงานขอบสนามบอลไทย จะมาวิเคราะห์ภาพรวมของ ทีมชาติไทย กันหน่อยว่าเห็นอะไรบ้างหลังพ่ายแพ้ในนัดนี้ ... 

 

เริ่มเกมด้วยข่าวร้ายเรื่องตัวผู้เล่น ... เนื่องจากก่อนเกมไม่มีรายงานว่านักเตะไทยคนไหนเจ็บหรือมีอาการป่วยบ้าง แต่พอเริ่มเกมรายชื่อตัวจริงออกมากลายเป็นว่ามีตัวสำรองติดโผมาเพียบทั้ง ทรงชัย ทองฉ่ำ, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, สิทธิโชค ภาโส, จักรกริช พาละพล และ แพทริค กุสตาฟส์สัน โดยไม่มีรายชื่อของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวซัลโวประจำทีมและดาวซัลโวสูงสุดของรายการนี้ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง พร้อมกับมีรายงานตามมาว่าเนื่องจากการลงสนามติดๆ กันและสภาพอากาศที่ไม่คุ้นชิน ทำให้นักกีฬาของเราสภาพร่างกายไม่พร้อมหลายๆ คน 

 

ครึ่งแรกไทยเป็นรองทุกอย่าง รวมไปถึงประตู ... แม้ว่าจะในช่วง 15 นาทีแรกจะตั้งเกมสู้ได้ดี แต่สุดท้ายพอบดกันไปบี้ก้นมา ค่อยๆ กลายเป็นแข้งเกาหลีใต้ที่กุมความได้เปรียบมากขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะใช้โอกาสที่มียิงประตูขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูที่พวกเขาต้องการเพราะทำให้เกาหลีกุมความได้เปรียบเรื่องการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมในเกมนี้ไปก่อน 

ขาด ศุภณัฏฐ์​ เหมือนตา เห็นผลทันตา ... เอาแค่สถิติเฉพาะในครึ่งเวลาแรกก็ชัดเจนแล้วกับการขาดหายไปของ "เจ้าแบงค์" กองหน้าดาวซัลโวของเราและของรายการ (ก่อนเกมนัดนี้จะเริ่มยิงไปแล้ว 3 ประตู) โดยไทยสามารถพาบอลเข้าไปจบสกอร์ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าการขาด เจ้าแบงค์ ไม่ใช่แค่ขาดตัวจบสกอร์ แต่ยังการขาดดาวยิง และขาดหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของทีมไปเลย ก่อนที่จบนัดนี้ ทีมชาติไทย จะไม่สามารถยิงประตูได้ด้วย 

 

แก้เกมด้วยผู้เล่นตัวจริง แต่สภาพร่างกายไม่เอื้อ ... โดยการแก้เกมของ โค้ชโย่ง กุนซือใหญ่ชุดยู 23 ในขณะที่ทีมตามหลังก็ทยอยส่งผู้เล่นตัวหลักๆ อย่าง เบน เดวิส, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ลงมาในครึ่งเวลาหลัง แต่ถ้าดูให้ดีจะเห็นถึงความอิดโรยของผู้เล่นชุดตัวจริงที่ถูกส่งลงไป ทั้งสปีดบอลช้ากว่าที่เคยทำได้ และร่างกายที่สู้พลังของแข้งเกาหลีไม่ไหวเลย ก่อนที่สุดท้ายจะไม่มีผลอะไรกับการแก้เกมด้วยผู้เล่นตัวหลัก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ชัดเจนมากๆ ว่าทำไมเราถึงต้องชุดผู้เล่นชุดแรกด้วยแข้งตัวสำรองถึง 5 คน 

 

 

สุดท้ายลูกฮึดไม่มี ไอเดียบุกหมด ตกรอบตามระเบียบ ... สำหรับเหตุผลข้อนี้น่าจะเป็นข้อเดียวที่ดูแล้วหงุดหงิดที่สุดกับการเล่นในช่วงท้ายเกมวันนี้ที่นักเตะของเรามัวแต่เคาะบอลไปมา ในเมื่อเราเจาะเกาหลีใต้ไม่ได้ตั้งแต่ต้นเกม เราจะหวังมาเจาะในช่วงท้ายเกมคงไม่ใช่ แทนที่เราจะโจมตีด้วยวิธีอื่น ทั้งลูกโด่งจากด้านแนวรับ หรือ ลูกเปิดจากด้านข้าง เราดัน โจนาธาร ขึ้นไปเล่นเกมรุกแต่เรากลับเคาะบอลกันไปมาไม่โยนไปวัดดวง เพราะในช่วงเวลานั้นอย่าลืมว่าเราไม่ได้ต้องการชนะเกาหลีใต้ เราต้องการแค่เสมอ ซึ่งเราต้องการแค่ประตูเดียว และเกาหลีใต้เองก็คงจะกดดันอยู่บ้างไม่มากก็น้อยกับการถูกบอมบ์เข้ามา แต่ทุกอย่างไม่เกิดขึ้นเพราะเรามัวแต่ต่อบอลกันไปมาจนโดนแย่งไปจนหมดเวลาต้องตกรอบไปตามระเบียบ 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline