ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยสำหรับดีลของ สุภโชค สารชาติ กับ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร สโมสรในศึก เจ 1 ลีก ในรูปแบบสัญญายืมตัวจบฤดูกาล และมีออฟชั่นซื้อขาดในอนาคต พร้อมกับได้รับเสื้อหมายเลข 49
แน่นอนว่าการย้ายมาร่วมทัพยอดทีมจากเกาะฮอกไกโดครั้งนี้ถือเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ในต่างแดนที่สุดแสนจะท้าทายสำหรับเจ้าตัว เพื่อโชว์ศักยภาพแข่งขันเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกับทีมให้ได้ เช่นเดียวกันกับแฟน ๆ ฟุตบอลชาวไทยต่างตื่นเต้นและอดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้ยลโฉมฝีเท้าของเจ้าตัวครั้งนี้
วันนี้ทีมงานขอบสนามบอลไทยจะพามาวิเคราะห์เดาใจ "โค้ชมิช่า" มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือใหญ่ชาวเซอร์เบียกันว่าจะจับแนวรุกดีกรีทีมชาติไทยวัย 24 ปีรายนี้เล่นอย่างไร และมีใครบ้างที่เป็นคู่แข่งต่อกรแย่งตำแหน่งร่วมกัน
ริมเส้นฝั่งขวา ที่ผ่านมา "เจ้าเช็ค" ส่วนมากจะเล่นตำแหน่งริมเส้นฝั่งขวาเป็นหลักกับทัพ "ปราสาทสายฟ้า" ที่เป็นตัวคอยสร้างความอันตรายตัดเข้าในแล้วทำประตูได้ โดยปกติแล้ว คอนซะ จะยึดแผน 3-4-2-1 เป็นหลัก หากมองนักเตะเพื่อนร่วมทีมที่เล่นในตำแหน่งนี้มี ทาคุโร่ คาเนโกะ ดาวเตะดีกรีทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ยืนประจำตรงส่วนนี้อยู่แล้วเป็นหลัก หรืออีกหนึ่งคนคือ ลูคัส เฟอร์นันเดส ดาวเตะชาวบราซิลที่เล่นเป็นวิงแบ็คและกองกลางทางฝั่งขวา
กองกลางตัวรุก หรือหน้าต่ำ สุภโชค ถือเป็นแข้งที่เล่นได้สารพัดทุกตำแหน่งในแนวรุก หากมองในส่วนนี้จะมีนักเตะอย่าง โยชิอากิ โคมาอิ แนวรุกจอมเก๋าเคยเป็นรุ่นพี่คู่หูที่คอยไกด์ เจ ชนาธิป มาก่อน เป็นแกนหลักของทีมเวลานี้ ซึ่งเป็นไปได้ที่ "โค้ชมิช่า" อาจจับมาเล่นคู่กัน รวมถึง เรียวตะ อาโอกิ แนวรุกวัย 26 ปี ที่ฤดูกาลนี้ขึ้นมาแทน ชนาธิป ที่ย้ายไปอยู่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ อย่างเต็มตัว และ กาเบรียล ซาเวียร์ แนวรุกชาวบราซิลที่เคยทำผลงานได้ดีกับ นาโกย่า แกรมปัส ทีมเก่า และเพิ่งย้ายมาร่วมทัพในฤดูกาลนี้
ศูนย์หน้าตัวเป้า โดยปกติแล้ว คอนซะ จะมี ชินโซะ โคโรกิ ศูนย์หน้าจอมเก๋าวัย 35 ปีที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้จาก อุราวะ เรดส์ แต่เจ้าตัวก็ดันมีอาการบาดเจ็บเสียก่อน จึงต้องสลับจับ ทาคุมะ อาราโนะ หรือไม่ก็ โยชิอากิ โคมาอิ ที่เป็นนักเตะกองกลางอาชีพมายืนแทน เช่นเดียวกับ กาเบรียล ซาเวียร์ แม้โอกาสอาจจะน้อยที่ สุภโชค จะถูกจับไปยืนตรงส่วนนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ก็มีหน้าอาชีพอย่าง ดักลาส โอลิเวียร่า แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตัวสำรองมากกว่า
ท้ายที่สุดแล้ว "เจ้าเช็ค" จะสามารถแสดงศักยภาพที่ดีสุดให้ มิไฮโล เปโตรวิช กุนซือใหญ่ให้เห็นเพื่อเบียดขึ้นมาเป็นตัวเลือกกับทีมได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
