หลังเสร็จสิ้นภารกิจในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้ายของทวีปเอเชีย เวียดนาม ที่แม้จะตกรอบ แต่พวกเขาก็เริ่มวางแผนเดินหน้าต่อทันทีสำหรับฟุตบอลโลก อีก 4 ปีข้างหน้า 2026 ที่อเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก้ จะเป็นเจ้าภาพร่วมกัน 3 ชาติ
ถ้าคนที่เห็นพาดหัวข่าวแค่ว่า "เวียดนามตั้งเป้าไปบอลโลก 2026" ก็คงจะมีความรู้สึกไม่ต่างกับที่คนในวงการฟุตบอลไทยเคยบอกว่าจะพาบอลไทยไปบอลโลก มันอาจดูเหมือนความฝันลมๆ แล้งๆ และไม่น่าเป็นไปได้
สำหรับทีมชาติไทย บางทีมันคงเป็นจริงเช่นนั้น ที่มันยังดูห่างไกลกับทีมช้างศึกพอสมควร ถ้าดูจากผลงานในช่วง 10 ปีหลังที่ผ่านมา
แต่สำหรับเวียดนาม ถ้าเรามีอคติอาจจะมองว่าเวียดนามก็คงฝันไปเหมือนกัน แต่บางทีฝันนี้อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อมก็เป็นได้สำหรับทีมดาวทอง
ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าเวียดนาม ดีกว่าทีมชาติไทย นะครับ ถ้าเอานักเตะมาเทียบกันตัวต่อตัวชั่วโมงนี้ หรือเจอกันสนามกลางผมก็ยังคิดว่านักเตะไทยเราเหนือกว่าและเอาชนะเวียดนามได้
แต่พอเมื่อถึงเวลาที่เราต้องไปต่อกรณ์กับทีมในระดับเอเชีย หรือทีมที่อันดับฟีฟ่าสูงกว่า ทำไมเวียดนาม มักทำได้ดีกว่าทีมชาติไทย นี่แหละคือสิ่งที่ต่างกัน
เอาล่ะกลับมาที่เรื่องฟุตบอลโลก 2026 สาเหตุที่ทีมชาติเวียดนาม เขาตั้งเป้าว่าจะไปให้ได้ก็เป็นเพราะว่าฟุตบอลโลก อีก 4 ปีข้างหน้าจะมีการเพิ่มจำนวนทีมแข่งขัน จาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม มากกว่าเดิมถึง 16 ทีม
ซึ่งโควต้าของทวีเปเชีย ก็ได้เพิ่มจาก 4 ทีมครึ่งมาเป็น 8 ทีม เรียกได้ว่าครึ่งๆ เลยทีเดียว ซึ่งก็จะทำให้โอกาสของชาติที่ไม่เคยสัมผัสบอลโลกมีมากขึ้น ซึ่งบางทีอาจจะมีชาติในอาเซียนรวมอยู่ใน 8 ทีมนี้ด้วยก็เป็นได้
และถ้าจะมองและวัดกันจริงๆ แบบไม่ได้เข้าข้างทีมชาติไทย ชาติในอาเซียนก็มีอยู่แค่ 2 ชาติ ที่มีลุ้นจะเบียดไปเป็น 8 ทีมของเอเชีย ก็คือ เวียดนาม และ ไทย ส่วนทีมอย่าง มาเลเซีย, อินโดนิเซีย, ฟิลิปปินส์ หรือ สิงคโปร์ ผมก็มองว่ายังยากอยู่
แต่ไม่ใช่ว่าเราจะมีโอกาสไปถึงจุดนั้นนะครับ มันก็ยังยากอยู่ดีที่ไทยและเวียดนาม จะสอดแทรกเข้าไปเป็น 1 หรือ 2 ชาติ ในโควต้า 8 ทีมของเอเชีย เพียงแต่ว่าสองชาตินี้มีโอกาสมากที่สุดจากผลงานที่เราเห็นกัน
แม้ว่าโควต้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ทีม มากขึ้นก็จริง แต่มันก็ยังดูเป็นงานที่ยากและหนักมากๆ หากเราหวังจะไปบอลโลก
อย่างแรกเลยคือเมื่อเราไปดู 12 ทีมสุดท้ายที่ผ่านรอบคัดเลือกไปชิงโควต้าของปี 2022 นี้ หนึ่งเลยคือไม่มีไทย ขณะที่เวียดนาม แม้จะเข้าไปถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย แต่ผลการแข่งขันทั้งสองกลุ่ม เวียดนามก็จบอันดับที่ 12 ก็คือไม่ติด 1 ใน 8 อยู่ดี
แต่นั่นมันคือผลการแข่งขันของฟุตบอลโลกหนนี้ มีเวลาอีกตั้ง 4 ปี ถ้านับแค่การเตะรอบคัดเลือกเราก็มีเวลาอีก 3 ปี ที่จะเตรียมทีมและพัฒนาศักยภาพขึ้นไป
ซึ่งเวลา 3-4 ปี บางทีอะไรมันก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ แม้กระทั่งทีมที่ผมมองว่ายากอย่าง มาเลย์, อินโดฯ อาจจะดีขึ้นมาแซงหน้าเราก็เป็นได้ สุดท้ายมันก็ต้องไปวัดกันที่รอบคัดเลือกอยู่ดี
แต่สิ่งที่กำลังจะบอกก็คือ ตอนนี้โอกาสของเราและชาติในอาเซียนมันมีเพิ่มขึ้นจากเดิม เราก็ต้องทำอะไรให้มันพร้อมกับโอกาสที่มันเพิ่มขึ้นมา
ตอนนี้เวียดนามเขาเริ่มขยับแล้ว เป้าหมายอื่นเป็นแค่เป้าหมายรอง แต่เป้าหมายหลักของดาวทองคือต้องไปบอลโลก 2026 ให้ได้
กลับมามองที่ทีมชาติไทยของเรา ตอนนี้เริ่มวางแผนแล้วเช่นกัน แต่คือการป้องกันแชมป์อาเซียน คัพ 2022 ขณะที่เอเชีายน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ก็คงจะไปว่ากันหลังจบมิตซูคัพ ส่วนบอลโลกนะเหรอ??
เดี๋ยวใกล้เตะรอบคัดเลือกคงเริ่มวางแผนละมั้ง!!!
