logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 จะเปิดฉากฟาดแข้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ส.ค.65 แน่นอนว่าแฟนๆ ของแต่ละสโมสรก็ใจจดใจจ่อและตั้งตารอฤดูกาลใหม่กันแทบไม่ไหว

ทุกๆ ครั้งก่อนเปิดฤดูกาลมันก็จะมีความน่าตื่นตาตื่นใจกับการเสริมทัพของแต่ละทีม และทุกคนก็อยากจะเห็นนักเตะใหม่ของทีมตัวเองว่าจะแจ๋วแค่ไหน รวมถึงผลงานของทีมโปรดด้วยว่าจะออกสตาร์ทฤดูกาลได้แจ่มว้าวหรือไม่

และอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือการคาดการณ์ทีมเต็งที่มีโอกาสจะเป็นแชมป์ ว่าทีมไหนมีโอกาสมากที่สุด

สำหรับในฤดูกาลนี้ จริงๆ มีหลายทีมที่เสริมทัพได้น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นแชมป์กับรองแชมป์เก่าอย่าง บุรีรัมย์ และ บีจี ปทุม

แต่ทีมอื่นๆ ก็เสริมทัพได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น การท่าเรือ, ชลบุรี, เมืองทอง และ ทรู แบงค็อก หรือแม้ทีมอย่าง ลีโอ เชียงราย ทั้งหมดนี่คือบรรดาทีมที่ผมมองว่ามีโอกาสจะได้เบียดลุ้นแชมป์ หรือมีโอกาสจบหัวตารางได้

แต่เมื่อวิเคราะห์ลึกลงไปแล้ว กับปัจจัยและองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ดูแล้วการลุ้นแชมป์ก็คงจะเหลือแค่สองทีม นั่นก็คือ บุรีรัมย์ และ บีจี ที่บอกตามตรงว่าตอนนี้ยังมองไม่ออกว่าใครจะเป็นแชมป์ เพราะออกได้ทั้งทีมสายฟ้า และ เดอะบลูแมชชีน

แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่าอันดับ 1 และ 2 ก็จะเป็นหน้าเดิมกับปีที่แล้ว อยู่ที่ว่าใครจะจบด้วยตำแหน่งแชมป์ และรองแชมป์เท่านั้นเอง

ขณะที่ทีมอย่างการท่าเรือ ที่หลายคนก็มองว่ามีโอกาสเป็นม้ามืดเพราะเสริมทัพได้ดีไม่แพ้กัน แถมยังได้โค้ชใหม่อย่าง สก็อตต์ คูเปอร์ มาคุมทีม แต่ดูแล้วก็ยังยากที่จะเบียดสองทีมแรก ดังนั้นสิงห์ท่าเรือน่าจะอยู่ในกลุ่มลุ้นที่ 3

ขณะที่ บียู กับ เมืองทอง สองทีมนี้ศักยภาพใกล้เคียงกันมีโอกาสที่จะลุ้นพื้นที่ท็อปทรีหรือท็อปโฟร์ได้

ส่วนชลบุรี กับ เชียงราย ที่ก็ถือว่ามองข้ามไม่ได้ แต่การจะไปลุ้นแชมป์ก็ยิ่งยากกว่าทีมที่เอ่ยมา เต็มที่ก็มีโอกาสลุ้นท็อปทรี หรือท็อปโฟร์ได้ แต่นั่นคือการที่ทั้งฉลามชลและกว่างโซ้งต้องฟอร์มพีคสุดๆ ซึ่งท็อปไฟว์น่าจะเป็นตำแหน่งที่สองทีมนี้มีลุ้นได้

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์จากความน่าจะเป็น การเสริมทัพ และปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งในโลกของฟุตบอลอะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ บางทีทีมแชมป์อาจจะไม่ได้อยู่ใน 7 ทีมที่ผมเอ่ยมานี้ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้!!

เอาเป็นว่าเอาใจช่วยทั้ง 16 สโมสร ในการลงสู้ศึกสรภูมไทยลีกในฤดูกาลหน้า ให้ทุกทีมประสบความสำเร็จ ทำได้ตามเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้ก็แล้วกันครับ!!

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline