logo-heading

เพราะต่อให้มีข่าวว่าตกลงสัญญากันได้แล้ว แต่เหมือนว่ายิ่งเดินก็ยิ่งไกล วิ่งไปไม่ถึงเป้าหมายสักที

เอาเป็นว่าวันนี้จะมาสรุปให้ฟังว่า ทำไม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงต้องการได้ตัว เดอ ยอง จุดเริ่มต้นมันมากจากไหน และ มีแนวโน้มจะได้ตัวหรือไม่ ไปติดตามเรื่องนี้กันได้เลยครับ

[ เทน ฮาก ต้องการได้ศิษย์รัก ]

นับตั้งแต่ที่ เอริค เทน ฮาก ถูกแต่งตั้งเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทนที่ ราล์ฟ รังนิค ก็มีข่าวว่าต้องการได้ตัวพวกเหล่านักเตะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อดีตต้นสังกัด ที่เคยคุมทีม มาร่วมทัพมากหน้าหลายตา แต่กระนั้นคนที่ เทน ฮาก หมายมั่นปั้นมืออยากจะได้ตัวมากที่สุด หนีไม่พ้น เดอ ยอง ที่ปัจจุบันค้าแข้งให้กับ บาร์เซโลน่า

ในวันที่ เดอ ยอง ย้ายไปอยู่กับ เจ้าบุญทุ่ม ใหม่ๆ และ นักเตะยังโชว์ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้าง ก็เป็น เทน ฮาก นี่แหละครับ ที่ให้สัมภาษณ์ว่า บาร์ซ่า ใช้งานผิดตำแหน่ง เพราะ เดอ ยอง ต้องเล่นในแบบกองกลางหมายเลข 6 ที่ทำหน้าที่คอยควบคุมเกม ไม่ต้องเน้นให้ขึ้นไปทำเกมรุกมากนัก จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นการสอนหรอกครับ แต่คนที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี ย่อมรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักเตะ

ดังนั้น ด้วยความที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางเป็นอย่างมาก แค่ได้ยินชื่อ เฟร็ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แฟนบอล ปีศาจแดง ก็ปวดเฮดแล้ว เพราะ 2 คนนี้ จับคู่กันไปตลอดทั้งซีซั่น ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ไหนจะ ปอล ป็อกบา หมดสัญญา ย้ายกลับไปเล่นให้ ยูเวนตุส อีกคนด้วย นั่นแหละครับจึงเป็นที่มาว่าทำไม เทน ฮาก ถึงต้องการได้ตัว เฟรงกี้ เดอ ยอง มาบัญชาเกมในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นักหนา

[ ท่าทีของ บาร์ซ่า เมื่อรู้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ตามจีบ เดอ ยอง ]

ทันทีที่ ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือใหญ่ บาร์เซโลน่า ทราบเรื่องว่า เฟรงกี้ เดอ ยอง กำลังเป็นที่หมายปองของ แมนฯ ยูไนเต็ด .. เขาก็ได้ออกมาสัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เขาอยากเห็น เดอ ยอง อยู่เป็นเสาหลักของ บาร์เซโลน่า ต่อไปอีกนานหลายๆ ปี และ เชื่อว่านักเตะรายนี้จะสร้างหน้าประวัติศาสตร์ร่วมกับสโมสรไปพร้อมๆกัน

จากบทสัมภาษณ์ของ ชาบี ดูเหมือนว่าเขาได้ ขีดเส้นใต้ ย้ำชัดไปแล้วว่า จะไม่มีทางปล่อย เดอ ยอง อย่างแน่นอน เพราะนี่คือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่จะพัฒนากลายเป็นตัวท็อปของโลกในไม่ช้า เพราะสามารถช่วยเติมเกมบุกได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังยิงประตู และ แอสซิสต์ให้ทีมได้เยอะขึ้นทุกๆปี

อย่างไรก็ตาม ชาบี เคยทิ้งท้ายแบบเป็นนัยชวนให้ ปีศาจแดง เก็บไปนอนฝันไว้ว่า บาร์ซ่า มีปัญหาเรื่องสถานะการเงิน ดังนั้นวิธีที่จะแก้ไขให้ทุกอย่างกลับมาสมดุล ก็คือการระบายนักเตะออกไป ซึ่ง เดอ ยอง นี่แหละครับ ที่สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล เพราะมีการปักป้ายราคาไว้ที่ 70-80 ล้านยูโร

[ ตำนาน 48 ชั่วโมงคนใหม่ ]

เมื่อข่าวการเงิน บาร์ซ่า รู้ถึงหูของบอร์ดบริหาร แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาก็ไม่รอช้า เดินมายื่นข้อเสนอเพื่อซื้อ เดอ ยอง มาร่วมทีมให้ได้ เพื่อเอาใจนายใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก .. แต่เชื่อไหมครับ นับตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา จนปัจจุบันกลางเดือนกรกฎาคม เข้าไปแล้ว ยังไม่มีคำว่า "ออฟฟิเชี่ยล" สักที มีเพียงแค่คำว่า "ใกล้" ปิดดีล เท่านั้น

กระแสแรก รายงานว่า ปีศาจแดง ตกลงเรื่องค่าตัวกับ บาร์เซโลน่า ได้แล้ว สนนราคาที่ 80 ล้านยูโร เหลือเพียงแค่เจรจาเรื่องสัญญาส่วนตัว เพื่อให้นักเตะตัดสินใจ โดยพร้อมทุ่มค่าเหนื่อยให้มากกว่าที่รับอยู่กับ เจ้าบุญทุ่ม ด้วยซ้ำ เชื่อว่า ณ ตอนนั้น สาวก เร้ด เดวิลส์ เริ่มดี๊ด๊ากันแล้ว เพราะจะได้มิดฟิลด์ตัวท็อปเข้ามา แต่ว่าเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็เงียบลง

จนกระทั่งสิ่งที่ทำให้แฟนบอล ปีศาจแดง เตรียมฉลองกันทั่วหน้า เพราะมีสื่อยักษ์ใหญ่หลายสำนัก เช่น สกาย สปอร์ต รายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาร์เซโลน่า ตกลงค่าตัวของ ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ วัย 25 ปี กันได้แล้วที่ 65 ล้านยูโร บวกกับโบนัสตามเงื่อนไขต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง เหลือแค่ตกลงรายละเอียดกันอีกเล็กน้อย เพราะเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะคงไม่มีปัญหาอะไร อีกไม่กี่อึดใจ เดอ ยอง จะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของทีม เอริค เทน ฮาก ทันที

เวลานั้น แฟนบอล ปีศาจแดง แทบจะปิดซอยฉลอง และ คงจะปิดตำนาน 48 ชั่วโมงได้จริงๆเสียที แต่ทว่านั่นก็คือสิ่งที่พวกเขากลัวครับ เพราะท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่รายงาน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงเลยสักนิด ทำให้วันเวลาเก่าๆ หวนกลับคืนมา ในเรืองที่จะซื้อใครสักคนหนึ่ง ช่วงยากเย็นเหลือเกิน

[ บาร์ซ่า ผลักดัน เดอ ยอง ให้ย้าย แต่ตัวนักเตะเล่นแง่ ]

ถึงแม้ว่า เดอ ยอง จะเป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของ บาร์ซ่า ในยุค ชาบี ที่จะขับเคลื่อนสร้างผลงานให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนในยุคอดีต แต่กระนั้นเหตุผลหลักๆที่ บาร์ซ่า ต้องการปล่อยนักเตะรายนี้ออกจากทีมไป ก็เพื่อลดภาระค่าเหนื่อยที่สโมสรต้องแบกรับ

โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่ โควิด-19 ระบาดหนัก จน ลา ลีกา สเปน ต้องเลื่อนการแข่งขัน และ ลงเตะแบบไร้คนดู ทาง บาร์ซ่า ได้เลื่อนการจ่ายค่าเหนื่อย เดอ ยอง เอาไว้ ซึ่งจะต้องทบต้นทบดอกจ่ายให้ที่ 21 ล้านยูโร และ หลังจากนั้นจะต้องจ่ายค่าเหนื่อยอีกซีซั่นละ 18 ล้านยูโร จนกว่าจะหมดสัญญาปี 2026 ซึ่งเจ้าตัวจะได้โบนัสเรื่องความจงรักภักดีอีกทอดหนึ่ง

ด้วยเงินจำนวนมหาศาลนี้แหละครับ ทำให้บอร์ดบริหาร บาร์ซ่า ต้องการขาย เดอ ยอง ออกไป เพื่อลดภาระด้านการเงิน เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเพดานค่าจ้างเพื่อรั้งตัว ลิโอเนล เมสซี่ เอาไว้ แต่ทว่านักเตะกลับไม่ต้องการย้ายทีม และ จะไม่ยอมเล่นแบบโดนลดค่าเหนื่อยอีกต่อไป ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ยืดเยื้อ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถปิดดีลได้สักที

มหากาพย์ระหว่าง เดอ ยอง กับ บาร์ซ่า ตอนนี้ ก็คือ ไม่ว่าจะ บาร์ซ่า จะบีบแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ เฟรงกี้ พร้อมอยู่กับทีมต่อไป และ จะไม่ยอมลดค่าเหนื่อยให้ทาง บาร์ซ่า อีกแล้ว เพราะ เดอ ยอง มองว่าตนเองไม่ได้เป็นต้นเหตุ ที่ทำให้ทีมต้องเผชิญปัญหาทางการเงินในตอนนี้ เรียกว่าเป็นเกมเล่นต่อรองกัน 

โดยทาง บาร์ซ่า ก็พยายามข่มขู่ว่า ถ้าไม่ยอมย้ายทีม ก็จะไม่ใส่ชื่อเดินทางไปเตะปรีซีซั่นกับทีม ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นโอกาสที่ เดอ ยอง จะโดนดองสูงมาก แต่ฝั่งนักเตะ ก็ยืนยันเสียงแข็งไม่ไปไหน 

จนกระทั่งล่าสุด บาร์เซโลน่า เปิดเผยรายชื่อผู้เล่น ที่จะไปอุ่นเครื่องประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีชื่อ เฟรงกี้ เดอ ยอง เหมือนเดิม ดูเหมือนว่า เดอ ยอง จะได้ไปต่อ เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าบุญทุุ่ม ได้ขายส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ทางทีวีให้กับบริษัทรายหนึ่งเป็นจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ได้เงินเข้ากระเป๋ามา 207.5 ล้านยูโร ส่งผลให้สภาพการเงินคล่องมากขึ้น มีโอกาสจะเก็ยบ เดอ ยอง เอาไว้ และ ไปขายนักเตะส่วนเกินออก เพื่อลดช่องว่างค่าเหนื่อยให้เพียงพอกับการลงทะเบียนนักเตะหน้าใหม่ 

[ แนวโน้มย้ายทีม ]

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เดอ ยอง มีชื่อไปเตะปรีซีซั่น พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่ย้าย ดูเหมือนว่าเขาจะได้อยู่กับ บาร์ซ่า ต่อไป เพราะมันไม่ใช่แค่การเล่นเกมต่อรองกัน ทว่าสโมสรแห่งนี้ ก็เป็นเหมือนความฝันของเขามาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นการค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นู มันก็ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องย้ายไปที่ไหน

แต่กระนั้นการมีชื่อไปเตะปรีซีซั่น ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่มีโอกาสย้ายทีมนะครับ ทุกอย่างยังคงเปิดกว้าง กว่าตลาดพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะปิดตัวลง ตั้งวันที่ 1 กันยายน มีเวลาอีก 1 เดือนครึ่ง ดังนั้นเตรียมรับมือเจอกับข่าวมหากาพย์ความยืดเยื้อในดีล เดอ ยอง ไปอีกพักใหญ่

เพราะต้องไม่ลืมว่า บาร์ซ่า ก็จัดหนักเซ็นทั้ง ราฟินญ่า มาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 58 ล้านยูโร และ ล่าสุดปิดดีล โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตีนคมของ บาเยิร์น มิวนิค มาได้อีก 50 ล้านยูโร เรียกว่านอกจากค่าตัวแล้ว ยังมีเรื่องค่าเหนื่อยอีกมหาศาลแน่ๆ ไม่รู้ว่าช่องวางเพดานยังว่างพอให้ลงทะเบียนหรือไม่

ดังนั้นการมาของทั้ง ราฟินญ่า และ เลวานดอฟสกี้ มันก็ทึกทักได้ว่า อาจจะเป็นการจากไปของ เดอ ยอง เหมือนกัน เพราะถ้าจะลดช่องว่างเรื่องค่าเหนื่อย การปล่อย เดอ ยอง มีผลประโยชน์มากที่สุดกับทีม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องให้เวลาเป็นคำตอบล่ะครับ ว่าสุดท้ายแล้ว บาร์ซ่า จะเอาอย่างไรต่อกับอนาคตของ เดอ ยอง จะให้อยู่ต่อ หรือ จะปล่อยออกจากทีม เพราะมีสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเฝ้ารอใฝ่ฝัน อยากได้นักเตะรายนี้มากเหลือเกิน

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline