เมืองทองฯ ยุค “มาริโอเวย์” เน้นแข้งพลังหนุ่ม สู้เพื่อความสำเร็จอนาคต

หากเอ่ยถึงทีมยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนที่ประสบความสำเร็จมามากมาย หนึ่งในนั้นแฟน ๆ จะนึกถึงชื่อของ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยแน่นอน ซึ่งปัจจุบันพวกเขามีแนวทางการทำทีมฟุตบอลที่แตกต่างจากหลาย ๆ ปีก่อน คือการเน้นขุมกำลังนักเตะเลือดใหม่ และเปิดโอกาสให้นักเตะออกไปล่าฝันบนเวทีต่างแดนในอนาคต

เบื้องหลังที่ทำให้ เมืองทอง มีสไตล์การเล่นมีทีมเวิร์คที่ดี ดูสนุก ถูกใจแฟนบอล คือ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เฮดโค้ชผู้เป็นอดีตนักเตะตำนานของสโมสรที่ได้รับโอกาสคุมทีมตั้งแต่ช่วงกลางฤดูกาล 2020/21 มาถึงปัจจุบัน โดยมีปรัชญาแนวทางการทำทีมที่เรียกติดปากกันว่า "มาริโอเวย์" คือเล่นฟุตบอลให้สนุก มีสไตล์ และเปิดโอกาสดันดาวรุ่งฝีเท้าขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่

ฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมาคือหนึ่งในฤดูกาลที่พวกเขาสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม นักเตะมีความกระหายในชัยชนะสูง ผสมผสานกับคุณภาพของนักเตะต่างชาติที่ยกระดับทีมได้ สามารถจบอันดับที่ 4 ของตารางศึกไทยลีกได้สำเร็จ แต่ทว่าฤดูกาล 2022/23 โควตาการไปลุยศึกฟุตบอลเอเชียตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกาศออกมาล่าสุดได้เพียงแค่ 1+1 เท่านั้น จึงทำให้พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

เข้าสู่ปีที่ 3 ของ โค้ชมาริโอ การเตรียมทีมก่อนเริ่มฤดูกาล 2022/23 แม้อาจจะขยับช้ากว่าทีมอื่น ๆ ในลีก แต่ก็เสริมทัพได้น่าเซอร์ไพรส์เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ได้ คือการคว้าตัว เอกนิษฐ์ ปัญญา จาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เข้ามาเพิ่มมิติเกมรุก เช่นเดียวกับเสริม 2 นักเตะอย่าง โรนัน เปรยเมน ลูกครึ่งไทย-ฮอลแลนด์ และ ฮง ซอง อุค ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งคู่มีอายุ 19 ปี เท่ากัน เข้ามาเติมเต็มร่วมกับนักเตะแกนหลักที่มีอยู่นำโดย วีระเทพ ป้อมพันธุ์, กรวิชญ์ ทะสา, พิชา อุทรา รวมถึงเหล่านักเตะต่างชาติของทีมอย่าง ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ, ลูคัส โฮช่า และ เฮนรี่ อานิเยร์

อย่างไรก็ตามพวกเขาเพิ่งจะเสีย วิลเลี่ยน พ็อพพ์ แข้งตัวเก่งชาวบราซิลที่หมดสัญญาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องเร่งหานักเตะใหม่เข้ามาทดแทนตรงส่วนนี้ให้เร็วที่สุด

"กิเลนผยอง" ภายใต้การนำทัพของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากทีมผู้บริหารอย่างเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าเขาคือคนที่ใช่ที่สุดในการนำพาทีมกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง แน่นอนว่าความคาดหวังจึงมีเพิ่มพูลมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา

น่าสนใจไม่น้อยว่า เมืองทอง ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23 จะทำผลงานออกมาได้น่าติดตามมากน้อยแค่ไหนในศึกไทยลีก 1 เดือนสิงหาคมนี้ รู้กันแน่นอน