logo-heading

ผ่านมาแล้ว 6 ปี นับตั้งแต่ที่ "ชนาธิป สรงกระสินธ์" ไปบุกเบิกเป็นนักเตะไทยคนแรกที่ไปค้าแข้งในศึกเจลีก เมื่อปี 2017 หลังจากนั้นก็มีนักเตะไทยหลายต่อหลายคนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปค้าแข้งกันในแดนปลาดิบอยู่เรื่อยๆ 

นักเตะไทยในเจลีก 2018

ในปี 2018 นอกจาก ชนาธิป ที่อยู่กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ก็ยังมี ธีราทร บุญมาทัน ที่ไปร่วมทัพวิสเซล โกเบ และอีกคนคือ ธีรศิลป์ แดงดา กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า

นักเตะไทยในเจลีก 2019

ต่อมาในปี 2019 ชนาธิป ยังอยู่ทีมเกม ขณะที่ โก๋อุ้ม ก็ย้ายไปอยู่กับโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ส่วนพี่มุ้ย ย้ายกลับไปเล่นที่ไทยกับเมืองทอง แต่ก็มี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่มาแทน โดยมาอยู่กับ โออิตะ ทรินิตะ

นักเตะไทยในเจลีก 2020

และที่พีคที่สุดก็น่าจะเป็นปี 2020 ที่มีนักเตะไทยถึง 4 คนในเจลีก นั่นก็คือ ชนาธิป ที่ยังอยู่กับซัปโปโร, ธีราทร หลังจากคว้าแชมป์เจลีกได้ในปี 2019 ก็ยังคงค้าแข้งกับมารินอส เหมือนเดิม ฐิติพันธ์ กลับไปบีจี แต่พี่มุ้ยก็กลับมาเจลีกอีกครั้ง โดยครั้งนี้มาอยู่กับ ชิมิสึ เอส-พัลส์ ส่วนที่มาเพิ่มก็คือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่มาอยู่ทีมเดียวกับเมสซี่เจ

หลังจากนั้นแต่ละคนก็ทยอยกันกลับมาเล่นไทยลีก ธีรศิลป์ กลับมาอยู่กับบีจี ปทุมฯ, กวินทร์ กลับมาอยู่กับท่าเรือ และล่าสุดก็อยู่กับเมืองทอง, ธีราทร กลับมาคว้าแชมป์ 2 ปีติดกับบุรีรัมย์

โดยฤดูกาลสุดท้ายที่เรายังมีนักเตะไทยอยู่ 3 คน ในศึกเจลีก ก็คือปี 2022 ที่มี ชนาธิป กับซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ อยู่กับเซเรโซ่ โอซาก้า และนักเตะไทยคนล่าสุดที่ย้ายไปเจลีกก็คือ สุภโชค สาชาติ ที่ไปเป็นตัวแทนของ ชนาธิป ที่ซัปโปโร

ซึ่งทั้ง เชาวัฒน์ ที่กลับมาบีจี ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว มาถึงฤดูกาลนี้ ชนาธิป ก็ย้ายมาอยู่กับบีจี ในศึกไทยลีกเช่นกัน ทำให้ตอนนี้เหลือ "สุภโชค สารชาติ" คนเดียวที่ยังคงล่าฝันอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัย

โดยเจ้าเช็ค ย้ายไปคอนซาโดเล ซัปโปโร ตั้งแต่เลกสองเมื่อปีก่อน ซึ่งโอกาสลงสนามก็ยังมีไม่มากหนัก อยู่ในระหว่างการปรับตัวและเรียนรู้ฟุตบอลที่ประเทศญี่ปุ่น

สุภโชค สารชาติ กับคอนซาโดเล ซัปโปโร

มาในปีนี้ 2023 ช่วงต้นฤดูกาล ก็ทำท่าว่าจะเป็นสำรองแบบยาวๆ ส่วนใหญ่ก็จะลงสนามในบอลถ้วย หรือเป็นตัวสำรองในเกมลีก แต่มาในช่วงท้ายเลกแรกนี่เอง ที่ "เจ้าเช็ค" สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมได้ และได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกถึง 4 เกมติดก่อนที่จะพักครึ่งฤดูกาลไป

สุภโชค สารชาติ คอนซาโดเล ซัปโปโร

โดยผลงานปีนี้ ลงสนามไปทั้งหมด 12 นัด ทั้งตัวจริงตัวสำรอง ยิงไปแล้ว 3 ประตู ขณะที่บอลถ้วย ลงเล่น 4 นัด ยิงไป 2 แอสซิสต์ 1 ถือว่าผลงานไม่ธรรมดา และก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า สุภโชค สามารถที่จะปรับตัวเากับฟุตบอลเจลีกได้แล้ว แถมยังเล่นได้เข้ากับระบบของทีม กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ในแนวรุกของทีม

ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับ สุภโชค ในครึ่งฤดูกาลแรกที่ผ่านมา จะว่าไปมันก็เหมือนเพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้นกับการค้าแข้งในเจลีก จากนี้ไปโดยเฉพาะในครึ่งฤดูกาลหลังจะเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า "เจ้าเช็ค" จะสามารถยืนระยะและยึดตัวจริงแบบถาวรเหมือนที่ "ชนาธิป" ทำได้หรือไม่

ซึ่งถ้ายังสามารถเล่นได้ในมาตรฐานที่ตัวเองทำได้ในช่วง 3-4 นัดหลังสุดที่ผ่านมา ก็เชื่อว่าน่าจะมีโอกาส แต่ก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเอง และทำให้ได้มากกว่าที่ผ่านมาด้วย 

เรื่องของตำแหน่งการเล่นก็น่าสนใจ เหมือนกับว่า "โค้ชมิช่า" จะเจอตำแหน่งที่เหมาะสมของ สุภโชค ในทีมของเขา ก่อนหน้านี้พยายามลองจับ "เจ้าเช็ค" ไปเล่นแบ็กบ้าง วิงแบ็กบ้าง แต่ก็ยังไม่เวิร์ค จนก็ทั้งมาค้นพบตำแหน่งตัวรุกด้านบน ที่เล่นได้ทั้งตัวรุกแดนบนและหลังกองหน้า ซึ่งไม่ใช่ตัวรุกริมเส้นเหมือนกับที่เล่นอยู่กับบุรีรัมย์ หรือทีมชาติไทย

ถามว่าทำไม มิช่า ถึงจับ สุภโชค ไปเล่นตรงนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะรูปร่างที่แม้จะเล็ก แต่ก็คล่องแคล่วหาพื้นที่ได้ดี โดยเฉพาะจุดเด่นของเจ้าเช็คก็คือการจบสกอร์ ดังนั้นจะเห็นว่าหน้าที่ของสุภโชค ในทีมซัปโปโร ก็คือพยายามทำเกมขึ้นไปข้างหน้า และเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษ หาจังหวะจบสกอร์ให้ได้ อาจจะไม่ได้ลากเลื้อย หรือต้องทำเกมอยู่ตลอดเหมือนกับตอนอยู่บุรีรัมย์

ซึ่งถ้ากลับมาครึ่งฤดูกาลหลัง ยังได้ลงเล่นต่อเนื่อง ก็น่าจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เจ้าตัวมีความหลากหลายมากขึ้นในการเล่นเกมรุก ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อทีมชาติไทย ที่จะมีออฟชั่นเพิ่มขึ้น 

แน่นอนว่ากลับไปเจลีกครั้งนี้ก็คงจะเหงาๆ หน่อย เพราะพี่ๆ น้องๆ ก็ย้ายกลับมาหมดแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าเดี๋ยวจะมี เอกนิษฐ์ ปัญญา ไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยอีกคนกับทีมอุราวะ เรด ก็คงจะไม่เหงามากนัก

สำหรับเลกสองที่จะมาถึงก็ขอให้ "เจ้าเช็ค" ยังคงสู้ต่อไป และมุ่งมั่นทำผลงานให้ดี ยึดตัวจริงให้ได้ต่อเนื่อง และหวังว่าจะไปได้ไกลและเล่นได้นานๆ ในเจลีก ไม่ต้องรีบกลับมา และไม่แน่ปีหน้าก็อาจจะมีเพื่อนๆ ตามไปเล่นเพิ่มอีกก็เป็นได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline