นอกจากองศาความเดือดสำหรับเกมในสนามที่หวดกันไฟแลบแล้ว บริเวณข้างสนามอัตราความดุเดือดก็ไม่ต่างกันเมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ กับ โธมัส ทุูเคิ่ล ดันมาปะทะคารมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ซึ่งในรายละเอียดในเกมมีประเด็นไหนที่น่าสนใจกันบ้าง ขอบสนาม ของเราได้รวบรวมมาให้ทุกท่านได้ชมกันแล้ว
การจัดทีม
เริ่มต้นกันที่การจัดทัพของทั้งสองฝั่ง เชลซี ของ โธมัส ทูเคิ่ล เกมนี้มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นใบบางตำแหน่งจากเกมที่ออกสตาร์ทที่บุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน มาร์ค คูคูเรย่า ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกให้กับทีม รวมไปถึง รูเบน ลอฟตัน-ชีค ที่เกมนี้สวมบทบาทวิงแบ็คทางฝั่งซ้าย ส่วนตัวหลักรายอื่นๆ ของทัพ "สิงห์บลูส์" ยังอยู่กันพร้อมหน้าไม่ว่าจะเป็น จอร์จินโญ่, ไค ฮาเวิรตซ์ หรือ ราฮีม สเตอร์ลิง
ข้ามที่ฝั่ง "ไก่เดือยทอง" กันบ้าง อันโตนิโอ คอนเต้ เลือกที่จะใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่ถล่ม เซาแธมป์ตัน เมื่อสัปดาห์ก่อนแบบยกชุด แดนรุกยังคงหวังพึ่งพา แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มอน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ในการเล่นงานเกมรับคู่แข่ง ส่วน ริชาร์ลิซอน ยังชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น
เชลซี เหนือกว่าชัดเจน
สิ่งที่ต้องยอมรับคือเกมตลอด 90 นาที ทางฝั่งเจ้าบ้านอย่าง ชลซี ทำได้ดีกว่าทั้งการครองบอล รวมไปถึงจังหวะจบสกอร์ที่ชัดเจนกว่า อย่างน้อยน่าจะถลุงคู่แข่งได้ต่ำๆ 3-4 ประตู ทว่าด้วยความเฉียบขาดที่ยังไม่ได้มีมากมายนัก ทั้งที่มีโอกาสแบบได้น้ำได้เนื้อหลายครั้งแต่ไม่อาจแปรเปลี่ยนเป็นประตูทิ้งห่างได้ก็เลยมาโดนลงโทษในท้ายที่สุด
ย้อนกลับประตูขึ้นนำของ เชลซี จากการประสานของแข้งใหม่ต้องยอมรับเลยว่าเด็ดขาดพอสมควรทั้งจังหวะการเปิดของ คูคูเรย่า รวมไปถึงกองหลังอย่าง คูลิบารี่ ที่แสดงให้เห็นว่าสามารถพึ่งพาการทำประตูจากจังหวะเซตพีชแบบนี้ได้ เพราะนอกจากช็อตทำประตูยังมีอีกหลายครั้งที่เจ้าตัวมีโอกาสได้เติมขึ้นสร้างโอกาสได้
ส่วนทางฝั่ง สเปอร์ส เกมนี้พวกเขาโอกาสง้างเท้ายิงอาจจะไม่ได้เยอะมากมายนัก แถมครองบอลได้เพียง 35% เท่านั้น แต่อย่างที่ทราบกันฟุตบอลไม่ได้วัดจากสถิติต่างๆ การทำประตูคือสิ่งสำคัญที่สุด และพวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเป็นอย่างไร
สเปอร์ส โคตรตายยาก
หนึ่งในสิ่งที่ทัพตรา "ไก่เดือยทอง" แสดงออกมาให้เห็นคืออาการตายยากของพวกเขาที่มาได้ประตูตีเสมอในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกมแบบเส้นตาแดงผ่าแปด ซึ่งกลายเป็นจุดที่เพิ่มเติมเข้ามาของพวกเขานับตั้งแต่ได้ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาคุมทีม
เรื่องของแพชชั่นคงไม่ต้องสาธยายอะไรให้มากความสำหรับนายใหญ่ชาวอิตาลีผู้นี้ พลังในแต่ละเกมนั้นเขาใส่สุดเสมอยืนเคียงข้างนักเตะตะโกนสั่งตั้งแต่นาทีแรก จนถึงห้วงเวลาสุดท้ายของเกม ใส่ใจทุกกระเบียดนิ้วให้งานในสนามออกมาแนบเนียนมากที่สุดเพื่อผลการแข่งขันตามที่พวกเขาต้องการ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือข้อที่ คอนเต้ พยายามปลูกฝั่งลูกทีมถึงความไม่ยอมแพ้ จนกลายเป็นสโฒสรที่สามารถคาดหวังชัยชนะได้มากกว่าที่ผ่านมาๆ การโดนนำไปก่อนไม่ใช่ปัญหาของพวกเขาอีกต่อไป เพราะ 2 เกมที่ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ต่างเป็นฝ่ายตามหลังก่อนทั้งสิ้น ทว่าสุดท้ายด้วยความทุ่มเท และความมั่นใจต่างๆ ก็สามารถขโมยแต้มจากคู่แข่งได้ทั้ง 2 เกมเช่นกัน
ประเด็นดราม่า
ยอมรับเลยว่านี่คือเกมที่มีอัตราความมันส์ทะลุจุดเดือดไปเยอะมากจริงๆ ทั้งความสนุกในสนามที่ทั้งคู่ต่างงัดศักยภาพ และสู้กันจนวินาทีสุดท้าย รวมไปถึงความมันส์ข้างสนามระหว่าง ทูเคิ่ล กับ คอนเต้ ที่กลายเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ที่ก่อนกันคราวหน้ารับรองความสะเด่าในระดับนี้ได้อีกอย่างแน่นอน
ประเด็นในสนามที่กล่าวไปว่ามีหลากหลายพอสมควรที่เด็ดๆ เลยคือช็อตประตูตีเสมอ 2-2 ของ สเปอร์ส ซึ่งจากจังหวะดังกล่าวจากภาพเราจะเห็นได้ว่า คริสเตียน โรเมโร่ ปราการหลังของ สเปอร์ส มือไม่อยู่สุขดันไปดึงผมของ คูคูเรย่า เลยจนล้มทั้งยืน ทว่าผู้ตัดสินดันไม่เป่าเป็นฟาวล์ แถมเกมต่อเนื่องก็เป็นประตูของทีมเยือนแบบสุดดราม่า กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโซเชียลอย่างสนุกปาก
ส่วนอีกเรื่องที่เดือดไม่แพ้กันคือช็อตตีเสม 1-1 ของทัพ "ไก่เดือยทอง" ที่ คอนเต้ ดันออกอาการสะใจ และหันไปหา ทูเคิ่ล เสียอย่างงั้นทำเอามีปากเสียงกันเล็กน้อย ก่อนที่หลังจากนั้นกุนซือชาวเยอรมันจะมีเอาคืนบ้างเล็กๆ จากจังหวะขึ้นนำอีกครั้งของพวกเขา
ก่อนที่ระเบิดลูกใหญ่จะมาลงหลังจบเกมตามทำเนียมคือการจับเสมอแสดงความเคารพต่อกัน ทว่าด้วยความกวนโอ๊ย หรือเหตุผลอะไรก็ตามแต่ "น้าคอน" ดันจับมือแบบเสียมิได้ หรือไม่เต็มใจ พลางไม่สบตาอีก คราวนี้ก็เป็นเรื่องสิครับเมื่อ "พี่ทู" ไม่ยอมเลยฉุดรั้งเอาไว้ขอเจรจาอะไรด้วยหน่อย จนกลายเป็นเรื่องบานปลาย บทสรุปสุดท้ายก็โดน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ แจกแดงไปกันคนละใบ
สุดท้ายนี่คือเกมลอนดอน ดาร์บี้ ที่สนุก ตื่นเต้น และมีครบทุกรสชาติอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าสมศักดิ์ศรีสู้กันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน อย่างแท้จริง !
- Paolinho -
















