logo-heading

เรื่องของรายละเอียดในเกมมีหลากหลายประเด็นให้ได้ติดตามเหลือเกิน โดยเฉพาะช็อตตามตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บของพลพรรค "อัศวินสีส้ม" ที่กล้าเล่นลูกสูตรในวินาทีแห่งชีวิตจนสามารถต่อลมหายใจยื้อไปสู้กันในช่วงที่เหลือ

ทว่าเรื่องประเด็นนอกสนามถือว่าน่าสนใจไม่แพงกันเผลอๆ องศาความดุเดือดอาจมากกว่าผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมันมีหลายปมมากเหลือเกินทั้งระหว่างตัวนักเตะกันเอง หรือนักเตะกับกุนซือวัยเก๋า

ซึ่งสิ่งที่ ขอบสนาม อยากจะนำเสนอในวันนี้คือช็อตของ ลิโอเนล เมสซี่ กับความเดือดที่เรามักไม่ค่อยเห็นมุมนี้ของเขาเท่าไหร่นัก ซึ่งไทม์ไลน์เหตุการณ์เป็นเช่นไร เราได้รวบรวมมาให้ทุกท่านได้รับชมกันแล้ว

บทสัมภาษณ์ก่อนเกม

เริ่มไล่เรียงตั้งแต่ประเด็นก่อนลงสนามซึ่งบรรยากาศเริ่มคุกรุ่นตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว กับการให้สัมภาษณ์ของ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งมันคือเรื่องปกติทั่วไปที่ตัวของกุนซือ และตัวแทนนักเตะในทีมจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงประเด็นความพร้อมก่อนเกม 

ทว่าการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปด้วยบรรยากาศที่เข้มข้นของการแข่งขัน ไม่แปลกที่กุนซือวัยเก๋ามากประสบการณ์อย่าง ฟาน กัล จะกล่าวถึงหนึ่งในนักเตะคู่แข่งที่โดนจับตามองมากที่สุดอย่าง ลิโอเนล เมสซี่

ซึ่งประโยคที่ดูจะทำให้ซูเปอร์สตาร์ อาร์เจนติน่า ถึงปรอทเดือดมากที่สุดคงอยู่ที่ว่า "ลิโอเนล เมสซี่ เป็นผู้เล่นที่อันตราย  เขาสร้างโอกาสให้เพื่อน และตัวเองได้มาก แต่เขาไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทีมเมื่อคู่แข่งเป็นฝ่ายครองบอล และนั่นคือโอกาสของเรา"

เน้นย้ำไปประโยคท่อนสุดท้ายถ้าจะให้แปลแบบตรงตัวไม่ต้องอ้อมอะไรนักคือ ฟาน กัล จะสื่อว่า เมสซี่ ไม่ค่อยช่วยพื้นไล่บอลเท่าไหร่นัก ไม่ขยันในการวิ่งเพรสซิ่ง ซึ่งจุดนี้แหละที่จะทำทีมของเขาเล่นได้จ่าย และเป็นจุดที่ใช้โจมตีทัพ "ฟ้า-ขาว"

แน่นอนว่าประโยคที่ "จารย์หลุยส์" พ่นผ่านไมค์ออกไปนั่นมองไปมันก็เหมือนเป็นสงครามจิตวิทยาอย่างหนึ่งในการโจมตีคู่แข่งก่อนเกม ไม่ได้ผิด หรือแปลกไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการลูกหนังที่เราเคยเห็นกันมา

แต่กับผู้โดนกระทำอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ คงไม่ปลาบปลื้ม และยินดีกับคำพูดเหล่านั้นเท่าไหร่นัก ซึ่งจุดนี้กลายเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้ไฟเริ่มก่อตัวจนกลายเป็นเรื่องลุกลามในสนาม

ประเด็น "เมสซี่" ถึงจุดเดือด ฟิวขาดประจันหน้า "ฟาน กัล"

ท่าดีใจของ เลโอ

สืบเนื่องจากบทสัมภาษณ์ของ ฟาน กัล ข้างต้น แน่นอนว่า เมสซี่ ไม่ได้ออกมาตอบโต้ในรูปแบบของคำพูด แค่เหมือนเขาเองก็เก็บความรู้สึกไว้อยู่ในใจไม่ใช่น้อย และเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ

ฉะนั้นแล้วไม่แปลกที่เราจะได้เห็นช็อตที่กลายเป็นภาพไวรัลไปทั่วโลกโซเชียลคือการยืนป้องหูพร้อมหันหน้าเข้าใส่ซุ้มม้านั่งสำรองของ เนเธอร์แลนด์ แน่นอนว่ามองในเหลี่ยมมุมไหน เมสซี่ ต้องการสื่อความหมายไปถึง ฟาน กัล แบบแน่แท้ เพื่อเป็นการตอกกลับคำพูดที่ไม่เข้าหู และดูหมิ่นต่อผลงานของเขาเอง

แน่นอนว่าประเด็นมันย่อมมองได้ 2 มุม ซึ่ง เมสซี่ เองก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันเกินขอบเขต แค่ไปยืนดีใจตอบโต้ และสงครามประสาทกลับไปด้วยท่าทางดีใจ แต่ทุกอย่างมันไม่จบเพียงแค่นั้น มันจะมีเรื่องราวอีกยาวให้ได้ติดตามเหมือนเกมที่ลากไป 120 นาที และต้องจุดโทษตัดสิน

ปะทะกันหลังจบเกม

ประเด็นต่อมาคือหลังจบเกมเมื่อได้ผู้ชนะเป็นที่เรียบร้อยคือ อาร์เจนติน่า ที่แม่นโทษมากกว่าได้รับการชูมือพร้อมผ่านเข้ารอบต่อไป ซึ่งเหตุการณ์เดือดๆ มันยังไม่จบเพียงเท่านั้น

มันได้เกิดช็อตที่ เมสซี่ เดินเข้าไปหา หลุยส์ ฟาน กัล พร้อมทำมือที่สื่อสารออกมาได้ประมาณว่าให้ หุบปากไปซะ อย่าพูดมาก อะไรทำนองนั้น พร้อมพูดอะไรบางอย่างกับนายใหญ่ของ เนเธอร์แลนด์

ซึ่งเรื่องนี้ต้องเดือดร้อนเหล่าสต๊าฟฟ์ทีมดัตซ์ที่นำมาโดย เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ในการรีบเดินเจ้ามาห้าม ก่อนมีคำพูดที่ช่วยให้ระดับความเดือดของ เมสซี่ นั้นลดน้อยลงไป แต่ดูเหมือนจุดเดือนของ เลโอ ยังไม่ค่อยต่ำลงเท่าไหร่นัก 

ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้มีเหตุการณ์บานปลายอะไรกันต่อ แม้จะมีช็อตที่นักเตะทั้งสองฝั่งปรี่เข้ามาหาเรื่องกันก็ตาม ก่อนถูกกันแยกย้ายกันออกไป

ประเด็น "เมสซี่" ถึงจุดเดือด ฟิวขาดประจันหน้า "ฟาน กัล"

เดือดๆ ในอุโมงค์สนาม

ในสนามว่าเดือดในระดับหนึ่งแล้วในอุโมงค์ทางเข้าห้องแต่งตัวกลับมาเรื่องฉาวโฉ่ให่้ได้พูดถึงกันต่ออีกเริ่มจากที่ วูท เวกฮอร์ส  กองหน้าที่เหมา 2 ให้ทัพกังหันลมได้ก่อเหตุวุ่นวาย แต่ยังดีที่มีรุ่นเก๋าอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ เข้ามาห้าม บวกกับคนอื่นๆ อย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่มาห้ามความเดือดนี่ไว้

ซึ่งเหตุการณ์นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ในขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อตามรายงานระบุว่าช็อตดังกล่าวนั้น วูท เวกฮอร์ส เดินผ่านมา และดูเหมือนซูปเปอร์สตาร์ฟ้า-ขาว อารมณ์ยังคงฉุนเฉียวเลยลั่นวาจาผ่านไมค์นั่งข่าวเป็นภาษาผ่านเกิดที่แปลเป็นไทยได้ประมาณว่า

"มึงยืนมองอะไรว่ะ... มองอะไร ไอ้โง่ มึงเดินไปไกลๆ เลยไป!"

ก่อนที่ เมสซี่ จะกล่าวฝากข้อความกลับไปถึงโจทย์ตัวหลักของเขาอย่าง ฟาน กัล ว่า "ผมรู้สึกว่า ฟาน กัล ไม่ได้ให้ความเคารพหลังจากความคิดเห็นก่อนเกมของเขา และนักเตะดัตช์บางคนพูดมากเกินไปในระหว่างเกม"

"ฟาน กัล บอกว่าพวกเขาเล่นฟุตบอลได้ดี แต่สิ่งที่เขาทำคือการส่งคนสูง ๆ และใช้บอลยาว"

และนี่คือเรื่องวุ่นๆ ทั้งหมดระหว่างเกม อาร์เจนติน่า ดวล เนเธอร์ลแนด์ และคารมที่ ฟาน กัล ดวลกับ เมสซี่ เรียกได้ว่ามันส์หยดตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม ยันวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline