ทั้งบ้างก็ว่า ตระกูลเกลเซอร์ จะยืดเวลาขายทีม บ้างก็ว่าแย่สุด เกลเซอร์ อาจจะไม่ขายสโมสรแล้ว จะขายแค่หุ้นบางส่วน
ฉะนั้นแล้ววันนี้ เพื่อความกระจ่างชัด ขอบสนาม ของเรา จะพาไปรวบรวมการรายงานจากหลายๆ สื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วงที่ผ่านๆ มา พร้อมกับข้อสรุปที่ว่าทำไมตอนนี้ เหล่าสาวกผี ยังไม่จำเป็นต้องตื่นตูมเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ ใจร่มๆ ไว้
โดยเราจะเริ่มต้น จากการอัพเดทของ เดอะ การ์เดี้ยน สื่ออังกฤษที่พอเชื่อถือได้ ที่รายงานว่า ตระกูลเกลเซอร์ ยังยืนยันต้องการราคาขายทีม แมนยู ที่ 6 พันล้านปอนด์ ขณะที่การยื่นเสนอประมูลราคาซื้อครั้งแรกของ กลุ่มทุนกาตาร์ ที่นำโดย เชค จัสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี และของ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เศรษฐีอันดับ 1 ของสหราชอาณาจักร ยื่นกันไว้ที่ 4.5 พันล้านปอนด์
นั่นจึงทำให้ความปรารถนาตอนแรกของ ตระกูลเกลเซอร์ ที่จะบรรลุข้อตกลงขายทีมภายในเดือนมีนาคมนี้ ดูไม่น่าเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม การ์เดี้ยน ยังรายงานเพิ่มเติมว่าในบรรดาพี่น้อง เกลเซอร์ ทั้ง 6 คน ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องความต้องการของแต่ละคนเกี่ยวกับเรื่องของสโมสร แมนยู แต่โดยรวมๆ แล้วของครอบครัวพวกเขา ยังคงพิจารณาเรื่อง การขายสโมสร อย่างจริงจังอยู่
และแม้ เกลเซอร์ จะต้องการเงินในระดับเกือบ 6 พันล้านปอนด์ แต่พวกเขาก็อาจพร้อมที่จะประณีประนอม แค่การขายทีมมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาลมากกว่า เมื่อดูจากสถานการณ์ตอนนี้ครับ
ต่อด้วยของ ดิ แอธเลติก สื่อจอมแม่นแห่งอังกฤษ รายงานว่า แม้ข้อเสนอของ เชค จัสซิม ที่มายื่นในระดับสมเหตุสมผล โดยมีมูลค่ารวมเท่าๆ กับข้อเสนอของ เซอร์ จิม
ซึ่งทาง เชค จัสซิม ยื่นแบบจะซื้อหุ้นทีมทั้ง 100% พร้อมล้างหนี้สโมสร ส่วนของ เซอร์ จิม ยื่นแบบเข้าถือหุ้นใหญ่ 69% จากที่ เกลเซอร์ เป็นเจ้าของ แต่อย่างไรก็ตาม การเสนอราคาครั้งแรกก็ไปไม่ถึงที่ เกลเซอร์ ตั้งเป้าไว้ ที่ตัวเลข 6 พันล้านปอนด์
และแหล่งข่าวในตะวันออกกลาง เผยว่าแม้ กาตาร์ จะมีกองทุนมั่งคั่งเกือบ 4 แสนล้านปอนด์ แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะจ่ายเงินแบบมากเกินเบอร์ ในการเทคโอเวอร์ แมน.ยูไนเต็ด
ในขณะที่ช่วงหลังมานี้ ราคาหุ้นของ ปีศาจแดง จู่ๆ ได้ตกลง จนเกิดความสงสัยว่า เกลเซอร์ โดยเฉพาะ โจเอล และ อาฟราม อาจไม่ขายทีมในท้ายที่สุด
แต่อย่างไรก็ดี เราต้องเน้นย้ำ ว่ามันเป็นเพียงแค่ความสงสัยเฉยๆ เพราะเหล่ากลุ่มทุนที่ยื่นซื้อ ยูไนเต็ด ต่างยังคงตั้งหน้ารอการตอบกลับจาก เรน กรุ๊ป ธนาคารที่ดำเนินเรื่องขายทีม แมนยู เพื่อที่กลุ่มทุนต่างๆ จะได้เตรียมตัวสำหรับขั้นต่อไป ในการลุยเพื่อเทคโอเวอร์
แต่มันก็ยังมีข่าวเกี่ยวกับ เกลเซอร์ อาจไม่ขายทีมเพิ่มขึ้นอีก จากฝั่งสื่ออย่าง ดิ อินดิเพนเดนต์ ที่รายงานว่า เกลเซอร์ กำลังพิจารณาเรื่องการขายหุ้นทีม แมนยู ส่วนน้อย เนื่องจากราคาแรกที่ประมูลมาต่ำกว่าที่พวกเขาต้องการพอสมควร
แม้จะยังไม่มีข้อตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างพี่น้อง เกลเซอร์ หลัง โจเอล และ อัฟราม เกลเซอร์ ต้องจะเก็บสโมสรไว้หรือยังเหลือถือหุ้นสโมสร โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่ได้มาปรากฏตัวในสนามเวมบลีย์ ในเกมนัดชิง คาราบาว คัพ ที่ผ่านมาด้วย
ซึ่งข้อเสนอของ เอลเลียต แมเนจเมนท์ เจ้าของเก่า เอซี มิลาน อาจเป็นตัวเลือกที่ เกลเซอร์ สนใจ พวกเขาเสนอเงินทุนสนับสนุนเพื่อต่อเติมสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ซึ่งทาง ยูไนเต็ด เองก็เคยพูดคุยกับบริษัทสถาปนิกในเรื่องปรับปรุงของรังเหย้าพวกเขา เพราะมันจะเป็นส่วนสำคัญในการเทคโอเวอร์ เพราะสนามที่ทันสมัยขึ้นอีก จะช่วยเพิ่มมูลค่าสโมสร
โดยทาง เอลเลียต แมเนจเมนท์ ได้ยกตัวอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม สนามใหม่ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าสโมสรไก่เดือยทองได้ถึง 1.5 พันล้านปอนด์ เนื่องจากสนามกีฬานี้ทันสมัย จนกลายเป็นหนึ่งในสนามชั้นนำในการจัดอีเวนต์ความบันเทิงในยุโรปได้ด้วย
เมื่อได้ฟังมาขนาดนี้ แฟนผีหลายคนน่าจะหวั่นใจ กลัว เกลเซอร์ จะยังไม่ขายทีม แต่ๆ เราต้องบอกว่าอย่าเพิ่งไปคิดแบบนั้น เพราะนี่เป็นเพียงกระบวนการขั้นแรกในการขายทีมเท่านั้น
โดย เบน จาค็อบส์ นักข่าวดังของ ซีบีเอส สปอร์ตส์ วิเคราะห์ว่ากระแสข่าวทั้งหมดตอนนี้ เป็นเพียงกระยุทธ์ที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด มันจะยังมีเกมการดึงเชิงอะไรอีกมากมาย
และที่เราต้องเน้นย้ำเลย คือ การเปิดรับข้อเสนอประมูลซื้อทีมเมื่อช่วงกลางกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่งเป็นกระบวนการแรกเท่านั้น!
ถัดจากนี้จะเข้ากระบวนการที่ 2 เมื่อ เรน กรุ๊ป ได้แจ้งตอบกลับเหล่ากลุ่มทุนที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา เพื่อให้ได้เข้าถึงข้อมูลการเงินเชิงลึกสโมสร ก่อนเหล่ากลุ่มทุนที่มีศักยภาพจะทำการปรับปรุงข้อเสนอ และยื่นเพิ่มเข้ามาอีกรอบ
ซึ่งคาดว่าเราจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเบรคทีมชาติครั้งถัดไป ไม่ก็ราวเดือนเมษายน แต่ตอนนี้แฟนผีทุกคนยังมั่นใจได้ครับ ว่าโอกาส เกลเซอร์ ปล่อยขาย แมนยู ยังคงเปิดกว้างอยู่.
