logo-heading

จริงๆเกมนี้ไม่ควรจบแค่ 1 ลูก ด้วยซ้ำ ทว่าผู้รักษาประตูทั้ง 2 ทีม ก็โชว์ซูเปอร์เซฟให้เห็นหลายต่อหลายครั้ง

หลังจบเกมนี้ ก็มีหลายประเด็นต้องพูดถึง จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

- โอกาสมีเพียบ ไม่เชื่อว่ามีแค่ 1 ประตู

นัดนี้ ประตูโทนประตูเดียว มาจากการท่าฟาดตะกร้อของ คาเซมิโร่ กองกลางตัวเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่นาทีที่ 8 และ ครองเกมได้ดีกว่าชัดเจนในช่วงประมาณ 20 นาทีแรก มีจังหวะได้เซ็ตบอลเข้าทำอยู่ตลอด เรียกว่าไม่เปิดโอกาสให้กับ บอร์นมัธ เลยสักนิด

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น พอ บอร์นมัธ ตั้งเกมของตัวเองได้ ก็มีโอกาสที่จะยิงตีเสมอเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะโอกาสของ โดมินิค โซลันกี้ ที่พยายามยิงผ่าน ดาบิด เด เคอา แล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ เรียกว่าเจ้าบ้านมีโอกาสเยอะมากเช่นกัน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้

ขณะที่ ช่วงประมาณ 15-20 นาทีสุดท้าย เป็นทางฝั่ง ปีศาจแดง ได้บุกหวังยิงประตูที่ 2 แต่ทว่า เนโต้ ก็โชว์ซูเปอร์เซฟให้เห็น ไม่แพ้ทาง ดาบิด เด เคอา สุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบลงด้วยชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด

- ผลงาน บอร์นมัธ ที่ วิตาลิตี้ สเตเดี้ยม

เป็นการปิดฉากการเล่นในบ้านของตัวเอง ที่สนาม วิตาลิตี้ สเตเดี้ยม ในซีซั่นนี้ ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ บอร์นมัธ ซึ่งต้องบอกว่าสาเหตุที่พวกเขาอยู่รอดปลอดภัย ก็มาจากผลงานได้เล่นที่สังเวียนของตัวเอง

19 นัด ในบ้านของ บอร์นมัธ พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะไปได้ทั้งสิ้น 6 นัด เสมอ 4 นัด และ แพ้ 9 นัด โดยผลงานมาสเตอร์พีซ คือการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ของลีก แบบเฉือนหวิว 1-0 จากนั้นได้ 3 แต้มใหญ่ จากการถล่มเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมหนีตายเหมือนกัน ไปด้วยสกอร์ 4-1

ถึงแม้ 5 นัดหลังสุดที่ บอร์รมัธ ได้เล่นที่บ้านของตัวเอง จะเหมือนปล่อยจอยไปบ้าง เพราะ 5 นัดหลังสุด แพ้ถึง 4 เกม แต่ก็ไปแก้ไขเอาคืนในเกมนอกบ้าน โดยเคยชนะ 3 นัดรวด บุกไปชนะ สเปอร์ส 3-2 และ 2 เกมสำคัญไปเก็บ 3 แต้ม จากทีมหนีตาย จากทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน และ เลสเตอร์ ซิตี้ เรียกว่าผลงานเกมเยือน เข้ามาช่วยเจือจุลจนอยู่รอดปลอดภัย

- บอร์นมัธ มีโอกาสจบดีสุด คืออันดับ 13 

ถึงแม้ บอร์นมัธ จะพ่ายแพ้ในเกมนี้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการหนีตาย เนื่องจากพวกเขารอดตกชั้นมาสักพักแล้ว ไม่ต้องไปลุ้นอะไรให้มันร้อนรุ่มหัวใจ

อย่างไรก็ตาม การไม่มีแต้มอยู่ในมือเกมนี้ ทำให้ บอร์นมัธ ยังรั้งอยู่อันดับ 14 ของตาราง ลงแข่ง 37 นัด มีอยู่ 39 คะแนน และ จะมีโอกาสจบอันดับดีสุดในซีซั่นนี้ คืออันดับ 13  โดยตาม วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่อยู่เหนือกว่า 2 แต้ม นั่นหมายความว่านัดปิดฤดูกาล ต้องบุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน เท่านั้น พร้อมแช่งให้ หมาป่า พ่ายต่อคู่แข่ง

แต่กระนั้น บอร์นมัธ มีโอกาสร่วงมาจบอันดับ 16 เหมือนกัน ถ้าหากแพ้นัดสุดท้ายของซีซั่น เพราะยังมี เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งแข่งน้อยกว่า 1 นัด จ่อตูดไล่ตามอยู่ 2 คะแนน รวมถึง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ก็ตาม 2 แต้ม เช่นกัน ซึ่งเงินรางวัลแต่ละอันดับ มันต่างกันราวๆ 2 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว ดังนั้น บอร์นมัธ ต้องจบอันดับให้ดีที่สุด เพื่อนำเงินมาชุบเลี้ยงสโมสรต่อไป

- แมนฯ ยูไนเต็ด แทบการันตีท็อปโฟร์

ชัยชนะนัดนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทบการันตีส่งให้พวกเขาติดท็อป 4 คว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า เพราะไม่ใช่แค่ 3 คะแนนสำคัญ แต่กระนั้น ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 5 ที่ไล่จี้ตูดมา ดันไปสะดุดเสมอกับ แอสตัน วิลล่า 1-1

ทำให้ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รั้งอันดับ 4 ของตาราง มีอยู่ 69 คะแนน นำหน้า ลิเวอร์พูล อยู่ 3 คะแนน แต่กระนั้น ปีศาจแดง เหลือการแข่งขันอีกถึง 2 นัด นั่นหมายความว่า ถ้าพวกเขาเก็บได้อย่างน้อย 1 คะแนน ก็จะการันตีไปเล่นถ้วย "บิ๊กเอียร์" ทันที

ดูแล้ว ถ้าฟ้าไม่ผ่าลงกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ก็คงไม่มีอะไรพลิกโผ เพราะ 2 เกมสุดท้ายของซีซั่น ปีศาจแดง จะได้เล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้ง 2 นัด เจอกับ เชลซี และ ฟูแล่ม ซึ่งลูกทีมของ เอริค เทน ฮาก มีผลงานอันยอดเยี่ยม เวลาเล่นเกมลีก ในถิ่นตัวเอง โดยไม่แพ้ใครมาแล้ว 16 นัดติดต่อกัน หรือ ตั้งแต่ที่แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา

- ปีศาจแดง มีโอกาสเก็บตัวหลัก รอศึกใหญ่

ชัยชนะแมตช์นี้ของ ปีศาจแดง มันช่างสำคัญเหลือเกิน เพราะเกมนอกบ้าน เป็นสิ่งที่แฟนบอลรู้สึกกังวลมากจริงๆ เนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด สะดุดเกมเยือนมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน 9 คะแนนที่ควรทำ กลายเป็นเก็บได้แค่ 1 แต้ม ก่อนมาเจอ บอร์นมัธ

ทว่าคราวนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ยอมให้เกมนอกบ้าน มาเป็นตัวแปรในการพลาดคว้าตั๋ว ยูซีแอล อีกแล้ว จากโอกาสติดท็อป 4 อันสดใส ทำให้ ปีศาจแดง สามารถเร่งปิดดีลในนัดหน้าได้เลย อย่างที่บอกจะ 1 หรือ 3 แต้ม ก็จบเหนือ ลิเวอร์พูล ทันที

ดังนั้น นัดต่อไปที่ ปีศาจแดง จำเป็นต้องปิดจ็อบ เชลซี ให้ได้ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเหนื่อยจนนัดสุดท้ายของซีซั่นที่จะพบกับ ฟูแล่ม เพื่อจะได้เก็บเรี่ยวแรงตัวหลัก ไว้ทำศึกสำคัญ ที่จะต้องชิงถ้วย เอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ฮาย ฮาวดี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline