logo-heading

อนาคตของ เอแด็น อาซาร์ กำลังเป็นเครื่องหมายคำถาม ไม่ใช่เรื่องที่ว่าจะไปอยู่กับทีมไหนนะ ? แต่เป็นเหตุผลเรื่องชั่งใจที่เตรียมจะแขวนสตั๊ดมากกว่า ?

กราฟชีวิตที่ขึ้นและดิ่งสุดๆ ของ \"เอแด็น อาซาร์\"

เดิมที เอแด็น อาซาร์ เหลือสัญญากับ เรอัล มาดริด อีก 1 ปีก็จริง แต่สุดท้ายก็โดนฉีกสัญญาทิ้ง ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ได้ชวนให้รู้สึกเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เพราะตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมาในรั้ว ซานติอาโก้ เบร์นาเบว มันเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังจริงๆ

ตอนนี้สถานะของพี่แกคือนักเตะฟรีเอเยนต์ ถึงโปรไฟล์ที่ผ่านๆ มากับ "ราชันชุดขาว" จะไม่ค่อยน่าจำจดเท่าไหร่ แต่ก็มีอยู่หลายสโมสรที่พร้อมอาสาเค้นฟอร์มเก่งให้กับเขาอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นทีมเก่าอย่าง ลีลล์ ใน ลีก เอิง รวมไปถึง อินเตอร์ ไมอามี่ ของ เดวิด เบ็คแฮม และสโมสรใน ซาอุดิอาระเบีย

แต่จากรายงานที่ถูกเผยแพร่ออกมาปรากฏว่า เอแด็น อาซาร์ เลือกตอบปฏิเสธไปทั้งหมด และกำลังใช้เวลาพิจารณาถึงการอำลาเส้นทางลูกหนัง ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็เท่ากับว่านี่คือนักฟุตบอลอีกคนที่มีกราฟชีวิตขึ้นลงอย่างไม่น่าเชื่อ

ย้อนกลับไปสมัยค้าแข้งกับ เชลซี นี่คือนักเตะที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมอย่างแท้จริงไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร เลี้ยงบอลกินตัวคู่แข่งได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจาก ลิโอเนล เมสซี่ มีสถิติและช็อตการสร้างสรรค์โอกาสที่ดีพอจะแข่งกับ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ ตลอดจนสถิติการพังประตูที่ยอดเยี่ยมไม่ได้ต่างจากผู้เล่นกองหน้าธรรมชาติ

ตลอดช่วงเวลา 7 ฤดูกาลกับ เชลซี เอแด็น อาซาร์ ได้ลงเล่นไป 352 เกม และมีส่วนร่วมกับประตูที่สโมสรทำได้ถึง 202 ประตูโดยแบ่งเป็น ยิง 110 ประตูและกดไปอีก 92 แอสซิสต์ และในยามคับขันเขาสามารถเป็นนักเตะที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนและสร้างความแตกต่างได้ด้วยตัวเอง นี่คือคุณสมบัติที่ผู้เล่นระดับ เวิลด์ คลาส ควรมี

การเป็น เดอะ แบก ของ เชลซี ตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมาก็ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญ หลายๆ ฝ่ายต่างก็มั่นใจว่านี่คือนักเตะที่กำลังจะก้าวขึ้นไปเทียบเคียงกับ 2 ปีศาจอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลได้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดแห่งยุค

การเก็บข้าวของไปจาก เชลซี ปิดฉากเส้นทาง 7 ปีแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่แฟนๆ "เดอะ บลูส์" ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการเล่นให้ เรอัล มาดริด คือความใฝ่ฝันของผู้ชายคนนี้ และให้ความเคารพแก่การตัดสินใจโดยที่ไม่มีใครคิดว่าเป็นการทรยศหักหลังแต่อย่างใด

การย้ายไปทำตามฝันของ เอแด็น อาซาร์ เกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อ เรอัล มาดริด ตัดสินใจทุ่มเงินในเรท 100 ล้านปอนด์ซึ่งอาจสูงถึง 130 ล้านปอนด์หากนับรวมแอด-ออนส์ต่างๆ เพื่อกระชากตัวเขาไปร่วมทีม

แต่มันก็ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่าผู้เล่นตัวท็อปอย่าง เอแด็น อาซาร์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ เชลซี และกำลังจะก้าวขึ้นไปเทียบชั้นกับ เมสซี่ และ โรนัลโด้ กลับต้องมาเจอจุดพลิกผันของชีวิตที่ทำให้ชะตาชีวิตพลิกจากหน้ามือกลายเป็นหลังเท้าเลยทีเดียว

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดเรื่องความคาดหวังก็ถูกตั้งเอาไว้สูงเช่นกัน แฟนๆ "มาดริดิสต้า" อยากเห็น เอแด็น อาซาร์ ในร่างทองที่เหมือนกับตอนที่อยู่กับ เชลซี อีกครั้ง แต่ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมามันไม่ได้อยู่ในจุดที่ใกล้เคียงเลยจริงๆ

แน่นอนว่าทุกๆ คนทราบดีถึงปัญหาที่ เอแด็น อาซาร์ ต้องเจอนั่นก็คือเรื่องอาการบาดเจ็บ เขาได้รับบาดเจ็บไปทั้งหมด 17 ครั้งภายในระยะเวลา 4 ปี ใช้เวลาพักรักษาตัวรวมกันที่ 500 วันพอดี และพลาดลงสนามให้ เรอัล มาดริด ไปทั้งหมด 94 นัด

ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าโอกาสที่เขาได้ลงสนามให้กับ เรอัล มาดริด เสียอีก เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมา เอแด็น อาซาร์ ได้ลงสนามไปแค่ 76 นัดเท่านั้น เมื่อผลงานไม่ดี ความฟิตไม่ถึง ลงสนามมาแปปๆ ก็เจ็บอีกแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พี่แกจะถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร

ถือเป็นนักเตะที่ก้าวสู่จุดสูงสุดของอาชีพอย่างรวดเร็ว แต่ก็ร่วงดิ่งสู่จุดต่ำสุดของอาชีพอย่างรวดเร็วเช่นกัน เอแด็น อาซาร์ กลายเป็นนักเตะที่หมดอนาคตกับ เรอัล มาดริด ในวัย 32 ปีกับช่วงเวลาในการทำตามฝันแค่เพียง 4 ปีเท่านั้น

ยิ่งล่าสุดมาเจอข่าวร่ำข่าวลือที่ว่าพี่แกนั้นกำลังชั่งใจถึงการอำลาวงการก็ชวนให้รู้สึกใจหายเช่นกัน จากนักเตะที่กำลังจะก้าวสู่จุดสุดยอดของอาชีพกลายเป็นว่าสุดท้ายกำลังจะถึงคราวอวสานก่อนวัยอันควร

HaMu Dos Santos 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline