logo-heading

ถือเป็นอีกหนึ่งซูเปอร์สตาร์ดังที่กำลังดิ่งสู่ช่วงชีวิตที่ขาลงสุดๆ สำหรับมิดฟิลด์ดีกรีแชมป์โลกอย่าง ปอล ป็อกบา นับตั้งแต่ที่พี่แกเก็บข้าวของย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปีที่แล้ว

ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาเพียง 1 ปีหลังจากกลับมา ยูเวนตุส รอบ 2 แต่กลับมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นกับเขา และแต่ละเรื่องราวต่างก็เป็นโมเมนต์ที่ไม่น่าจดจำสุดๆ ราวกับเป็น "ฝันร้าย" จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ?

[ อาการบาดเจ็บ ]

การกลับมา ยูเวนตุส ครั้งนี้ทำเอาแฟนๆ ดี๊ด๊ากันสุดๆ เพราะนี่คือนักเตะที่เคยแจ้งเกิดและฝากผลงานเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม ตลอดจนการเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่พาพลพรรค "เบียงโคเนรี่" คว้า สคูเด็ตโต้ ได้ 4 สมัย

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นดันไม่ได้เป็นไปตามที่หวังเพราะ ป็อกบา เจอปัญหาอาการบาดเจ็บที่หมอนรองกระดูกหัวเข่าเล่นงานตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น ว่ากันว่าเรื่องของการรักษานั้นจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้เวลาพักฟื้นที่นาน 4-5 เดือนเลยทีเดียว

แต่หลังจาก ป็อกบา ได้หารือกับทีมแพทย์ทั้งของ ยูเวนตุส และ ทีมชาติฝรั่งเศส พี่แกดันตัดสินใจเลือกการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เพื่อโอกาสการมีชื่อลุ้นไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 กับ ฝรั่งเศส เพราะว่ากันว่านี่จะใช้เวลาพักรักษาตัวไม่นานเท่าการผ่าตัด แต่เรื่องของอาการบาดเจ็บจะไม่หายเป็นปลิดทิ้งแบบ 100 เปอร์เซนต์

[ อดไป ฟุตบอลโลก ]

ป็อกบา ทำตามขั้นตอนของทางแพทย์ทุกอย่างทั้งการบำบัดในสระน้ำ ค่อยๆ ทำกายภาพ ซ้อมเบาๆ ในโรงยิม พอทุกๆ อย่างเริ่มไปได้สวยก็สามารถไปซ้อมในสนามแบบฟูลเทรนนิ่้งได้ เขามุ่งมั่นทำงานอย่างหนักจนกลับมาซ้อมกับทีมได้ และก็ยังมีเวลาพอที่จะพิสูจน์ตัวเองและเรียกความฟิตให้กลับมาเต็มร้อย

แต่สุดท้ายโชคชะตาก็ยังคงเล่นตลกกับ ป็อกบา เพราะอาการบาดเจ็บได้หวนมาเล่นงานซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเอเยนต์จะออกมาคอนเฟิร์มว่า ปอล ป็อกบา หมดสิทธิ์ไปลุย ฟุตบอลโลก 2022 แบบหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งทางตัว มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ก็ชี้แจงว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะเลือกวิธีรักษาผิดตั้งแต่ทีแรก

[ โดนแบล็คเมล์ ]

สิ่งที่เกิดขึ้นในสนามไม่ใช่ฝันร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวของ ปอล ป็อกบา เท่านั้น แต่นอกสนามก็มีสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขาปั่นป่วนด้วยเช่นกัน และที่หนักเลยก็คือมันมาจากคนในครอบครัวที่เป็นพี่ชายแท้ๆ อย่าง มาธิอัส 

ก่อนหน้านี้ มาธิอัส ป็อกบา ได้ออกมาอัดคลิปแฉน้องชายตัวเองในโลกออนไลน์จนเป็นประเด็นใหญ่ โดยบอกว่าน้องชายตัวเองได้ไปจ้างหมอผีมาเพื่อทำของใส่ คิเลียน เอ็มบัปเป้ ให้เจอกับอาการบาดเจ็บและไม่ให้เด่นไม่ให้ดังไปกว่าตัวเอง แถมยังเปิดเผยเรื่องลับๆ อื่นๆ ให้ชาวโลกได้รู้อีกด้วยเช่นกัน

ทาง ป็อกบา ก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดว่าไม่เป็นความจริง ที่จ้างหมอผีมานั้นก็เพื่อปัดเป่าพิษอาการบาดเจ็บของตัวเองมากกว่า และในขณะเดียวกันก็แฉด้วยว่าโดนแก๊งค์ของพี่ชายไถเงินไปกว่า 13 ล้านยูโร

ทางฝั่งคนที่เป็นเอเยนต์ก็ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ในทุกๆ เรื่อง ก่อนที่เรื่องราวจบลงด้วยการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหาหลักฐานได้หมด และนั่นก็ทำให้ตัวพี่ชาย มาธิอัส ป็อกบา โดนจับกุมตัวในที่สุด

[ โอกาสการลงเล่น ]

กว่า ป็อกบา จะได้ประเดิมสนามครั้งแรกให้ ยูเวนตุส รอบ 2 ก็ต้องรอจนถึงช่วง กุมภาพันธ์ ปี 2023 ในวันที่ชนะ โตริโน่ 4-2 โดยลงเป็นสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย แต่ไม่นานพี่แกก็ดันมาเจ็บเพิ่มอีก 2 ครั้งทั้งที่กล้ามเนื้อและที่แฮมสตริง

เท่ากับว่าในฤดูกาลที่แล้ว ปอล ป็อกบา ได้ลงเล่นแค่ 10 นัดรวมทุกรายการ คิดเป็นนาทีก็เท่ากับแค่ 161 นาทีเท่านั้น ส่วนในซีซั่นนี้ถึงแม้ไม่มีอาการบาดเจ็บ แต่ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ก็ไม่ได้มองว่า ป็อกบา เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในแผงมิดฟิลด์ โดย 3 นัดที่ผ่านมาของ ยูเวนตุส ไม่ได้ลง 1 นัด และเป็นสำรองลงมาช่วงท้ายเกมอีก 2 นัด

[ โด๊ป ]

ปัญหาล่าสุดที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ กับ ปอล ป็อกบา ก็คือเรื่องการใช้สารกระตุ้น โดยทาง NADO Italia องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นแห่งชาติของ อิตาลี ได้ประกาศสั่งลงโทษแบน ป็อกบา ชั่วคราว และมีผลในทันทีเพื่อทำการสอบสวน เนื่องจากตรวจเจอ ฮอร์โมน เทสโทสเตอโรน เป็นบวก

สำหรับ เทสโทสเตอโรน เป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ตลอดจนการช่วยฟื้นตัวจากการออกกำลังกายได้ดียิ่งขึ้น

ถ้า ป็อกบา ถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในเรื่องนี้เขาอาจโดนแบน 2 ปี แต่ถ้าศาลตัดสินว่า มันเป็นเจตนาของนักเตะก็จะทำให้โทษแบนขยายไปเป็น 4 ปี

[ อนาคตไม่แน่นอน ]

จากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อนาคตของ ปอล ป็อกบา กลายเป็นเครื่องหมายคำถาม การนั่งสำรอง 1 นัด และถูกส่งลงมาในช่วงท้ายเกมอีก 2 นัดเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดูดีเท่าไหร่ ถึงแม้ไม่มีเรื่องอาการบาดเจ็บมากวนใจ แต่กลับเจอปัญหาที่ใหญ่กว่านั่นก็คือการใช้สารกระตุ้น

ตอนนี้ ป็อกบา อายุก็ปาเข้าไป 30 แล้ว ถ้าเกิดต้องโทษสูงสุดเป็นระยะเวลา 4 ปีก็แทบจะหมดอนาคตได้เลย เพราะกว่าจะถึงตอนนั้นก็อายุปาเข้าไป 34 ปี ด้วยสภาพความฟิตที่ไม่สมบูรณ์ เจ็บก็ง่าย และผลงานที่ดร็อปลงแบบเห็นได้ชัด

ไม่แน่ใจว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะยังมีใครพูดถึงเขาหรือให้ความสนใจในตัวเขาอยู่รึเปล่า ? แต่ถ้าศาลตัดสินว่าไม่มีความผิดก็ถือว่าดีไป 

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline