logo-heading

แต่กระนั้น ปีศาจแดง-ดำ ไม่ได้โชว์ความโหดเหี้ยมเรื่องการจบสกอร์ ทั้งๆที่มีโอกาสมากมายเต็มไปหมด เป็นการได้ 1 แต้ม ที่น่าเขกกะโหลกตัวเองจริงๆ

เกมนี้ถึงแม้จะไม่มีคนทำประตู แต่ก็ยังมีประเด็นให้พูดถึงกันอยู่เหมือนเดิม จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง เกมนี้ผลเสมอ มันส่งผลกระทบกับใครมากกว่า เนื่องจากเป็น กรุ๊ป ออฟ เดธ ฉะนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ

 

- ครึ่งแรก นิค โป๊ป MVP

เอซี มิลาน จัดการรับน้อง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่หวนกลับมาเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกครั้ง ในรอบ 20 ปี เพราะตลอด 45 นาทีแรก ขุนพล ปีศาจแดง-ดำ ดาหน้าบุกเข้าใส่ สาลิกาดง แต่เพียงฝ่ายเดียว ชนิดที่ทีมเยือนไม่มีโอกาสง้างเท้ายิงเข้ากรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม เอซี มิลาน ไม่สามารถใส่สกอร์ขึ้นนำ นิวคาสเซิ่ล ได้นั้น ก็เพราะ นิค โป๊ป ผู้รักษาประตู ปราการด่านสุดท้ายของ สาลิกาดง เหนียวแน่นหนึบเหลือเกิน ไม่ว่าจะโขกเต็มหัว หรือ ยิงจากระยะไกล สามารถป้องกันช่วยทีมเอาได้ตลอดเลย 

อย่างน้อยๆก็ 6 เซฟสำคัญ ที่ นิค โป๊ป ช่วยให้ นิวคาสเซิ่ล ไม่เสียประตูในครึ่งแรก รวมถึงช็อตที่นักเตะ สาลิกาดง สกัดก่อนข้ามเส้นประตูอีกด้วย เรียกว่า 45 นาทีแรก ในรอบ 20 ปี บนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถูกรับน้องอย่างหนัก ยังดีที่ส่วนหนึ่งการจบสกอร์ของ มิลาน ก็ไม่เฉียบคมเองด้วย

- นิวคาสเซิ่ล ฟอร์มดรอปลงไปหรือเปล่า ?

เข้าใจอยู่ว่า การบุกมาเยือนรังซาน ซิโร่ เป็นงานมหาหินสำหรับ นิวคาสเซิ่ล ดังนั้นการเปิดหน้าแลก ย่อมไม่ใช่เรื่องดี แต่กระนั้น DNA ความเป็นนักสู้ การต่อบอลอันน่ากลัว และ การเข้าทำที่หลากหลายของ สาลิกาดง เมื่อซีซั่นก่อน เหมือนว่ามันขาดหายไป

และ การออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ของ นิวคาสเซิ่ล ก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก เพราะนับตั้งแต่เปิดบ้านถล่มเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 5-1 ในเกมนัดเปิดสนาม จากนั้นผลงานก็สาละวันเตี้ยลงไปดื้อๆ มีแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0, แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ทั้งๆที่มีผู้เล่นมากกว่าถึง 60 นาที และ ก็บุกไปแพ้ ไบรท์ตัน มาอีก 1-3 เพิ่งจะกลับมาเก็บ 3 แต้มได้อีกครั้ง นัดเฉือนชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0

ซึ่งแมตช์นี้ถึงแม้ว่าจะทำบุญมา 9 วัด ไม่เสียประตูให้กับ มิลาน แต่เกมรุกของ สาลิกาดง มีปัญหาเหลือเกิน เพราะ 4 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ยิงได้เพียงแค่ 3 ประตู เท่านั้น ทั้งๆที่ซีซั่นก่อน ยิงได้เกือบๆแตะหลัก 70 ลูก ดังนั้นเรื่องความมั่นใจ หรือ มิติการเข้าทำ จำเป็นต้องดีกว่านี้ นักเตะใหม่ที่เข้ามา ก็ต้องแสดงให้เห็นว่า พวกเขาสามารถทำอะไรให้ทีม ไม่แพ้คนเก่าอย่าง อัลแล็ง แซงต์-แม็กซิแม็ง ที่ย้ายไปอยู่กับ อัล อาห์ลี

ต่อจากนี้ ก็อยู่ที่กึ๋นของโค้ชอย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ด้วยครับ ว่าจะขุนให้ นิวคาสเซิ่ล กลับมาแข็งแกร่งโลดแล่นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า เชื่อว่าเขามีศักยภาพมากพอที่จะทำแบบนั้นกับ สาลิกาดง ได้อย่างแน่นอน

- เสมอนัดนี้ ใครเสียหาย

จะว่าไป ผลเสมอนัดนี้ ก็ไม่ได้บ่งบอกอะไรมากมายหรอกครับ ว่าใครจะได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบ หรือ ทีมไหนมีโอกาสเข้ารอบมากกว่า เพราะนี่เพิ่งเป็นเพียงการแข่งขันนัดแรกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทุกคนห้ามลืมว่า นี่คือ "กรุ๊ป ออฟ เดธ" ของการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้แล้ว เพราะนอกจาก เอซี มิลาน กับ นิวคาสเซิ่ล ยังมีอีก 2 ทีมแกร่งอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เรียกว่าทุกนัดย่อมมีความหมาย

ดังนั้นผลเสมอนัดนี้ ดูเหมือนว่า เอซี มิลาน น่าจะผิดหวังมากกว่าที่เก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนน ทั้งๆที่ได้เล่นในบ้านตัวเอง และ พับสนามบุกเข้าใส่อยู่ฝั่งเดียว พร้อมกับสร้างสรรค์โอกาสยิงมากกว่า 20 ครั้ง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย ซึ่งนัดก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เพิ่งประชุมทีมกันอย่างเคร่งเครียด หลังจากบุกไปแพ้ต่อ อินเตอร์ มิลาน คู่ปรับตลอดกาลมาถึง 1-5

ส่วนทางฝั่ง สาลิกาดง น่าจะพอใจเป็นพิเศษ ที่คว้า 1 แต้มสำคัญออกมาได้ ไม่รู้พวกเขาทำบุญ หรือ ไปสักยันต์จากอาจารย์ไหน ถึงได้มหาอุตม์ขนาดนี้ และ เกือบทำเซอร์ไพรส์ช่วงท้ายเกมด้วย ดีที่ผู้รักษาประตู มิลาน เซฟเอาไว้ได้ อย่างน้อยแค่โดนรับน้อง เรื่องรูปแบบการเล่น แต่ยังไม่โดนรับน้องเรื่องผลการแข่งขัน

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline