logo-pwa

เพิ่ม Khobsanam

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
logo-heading

"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คว้าชัยชนะได้เหนือ ไบร์ทตัน 1-0 ในศึก คาราบาว คัพ พร้อมกับตีตั๋วลิ่วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เชื่อว่าชัยชนะในนัดนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่เรียกความมั่นใจให้กับลูกทีม และผลการแข่งขันที่ดีก็จะตามมานับจากนี้

อย่างไรก็ตามอนาคตของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ยังไม่ปลอดภัยเมื่อชื่อของเขายังอยู่ในลิสต์กุนซือที่อาจจะตกงานในเร็วๆ นี้เป็นเบอร์ต้นๆ ของ พรีเมียร์ลีก

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีรายงานว่า เชลซี ยังไม่มีแผนและพิจารณาเรื่องสั่งเด้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ พร้อมกับให้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองต่อไป

แต่กุนซือใหญ่ชาวอาร์เจนไตน์ยังต้องเจอกับบทสดสอบสำคัญอีก 2 เดือนนับจากนี้กับช่วง 10 เกมอันตรายที่จะส่งผลต่ออนาคตกับ เชลซี

พวกเขาต้องเจอกับ ฟูแล่ม, เบิร์นลี่ย์, อาร์เซน่อล, เบรนท์ฟอร์ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ไบร์ทตัน และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบติดๆ กันเลย

การเจอกับ ฟูแล่ม ถ้าพูดถึงเรื่องของชื่อชั้นแน่นอนว่า เชลซี เหนือกว่าอย่างมิต้องสงสัย แต่การเจอกันเมื่อฤดูกาลก่อนทั้งเหย้าและเยือน เชลซี ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย พวกเขาเสมอ 0-0 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และบุกไปแพ้ที่ คราเวน คอทเทจ 1-2 แถมช่วงนี้ทาง "เจ้าสัวน้อย" ผลงานก็กำลังดูดีเลยทีเดียว

เบิร์นลี่ย์ ยังคงไม่ชนะใครในเกมลีก แต่ถ้าพวกเขาเล่นได้เหมือนวันที่เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีสิทธิ์เก็บแต้มจาก เชลซี ได้ ส่วนการเจอกับ อาร์เซน่อล ถ้าย้อนกลับไปในอดีตแน่นอนว่าสถิติของ เชลซี ข่มกว่าชัดเจน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย เพราะ "ไอ้ปืนใหญ่" กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี มีเกมรุกที่จัดจ้าน และการเจอกัน 4 นัดหลังสุด อาร์เซน่อล ก็เป็นฝ่ายที่เอาชนะได้ทุกนัด

เบรนท์ฟอร์ด ช่วงนี้ผลงานอาจจะดูไม่เข้าตาเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็เป็นทีมที่เล่นได้ดีเสมอๆ ยามต่อกรกับทีมใหญ่ และการเจอกับ เชลซี ตลอด 3 นัดหลังสุดก็เก็บชัยชนะได้ 2 นัด และไม่แพ้เลยซึ่ง 2 นัดที่พวกเขาคว่ำ เชลซี ได้ก็เกิดขึ้นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทั้งหมด

การเจอกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในถ้วย คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมน่าจะเป็นเกมที่ง่ายที่สุดของพวกเขาในช่วง 10 เกมหลังจากนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปสมใจ

ช่วงที่อันตรายที่สุดก็คือ 5 เกมหลังจากนั้น เชลซี ต้องไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่อาจจะไม่ได้มีดาวยิงตัวเก่งอย่าง แฮร์รี่ เคน แต่ "ไก่เดือยทอง" แต่ผลงานปีนี้มาดีเกินกว่าที่คิดในยุคของ อังเก้ ปอสเตโคกลู และยังคงไม่แพ้ใครตลอด 6 นัด และยิงได้อย่างต่ำ 2 ประตูทุกนัด การเจอกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วพวกเขาก็ไม่แพ้ให้กับ เชลซี เลย

การเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แน่นอนว่า เชลซี เป็นรองกว่าชัดเจน ปีนี้ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยังคงท็อปฟอร์มและมาตรฐานไม่มีตก การเจอกัน 6 นัดหลังสุดไม่ว่าจะเหย้าเหรือเยือน "เรือใบสีฟ้า" ก็เอาชนะได้ทั้งหมด

นิวคาสเซิ่ล ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง ชนะ 3 จาก 4 เกมหลังสุดและไม่แพ้ใคร พวกเขาอาจจะเป็นรองในเรื่องของชื่อชั้น แต่ศักยภาพตอนนี้พวกไม่ได้ต่างอะไรจากทีมใหญ่ และการเจอกัน 3 นัดหลังสุด เชลซี ก็เอาชนะไม่ได้เลยสักครั้ง

เชลซี เพิ่งเอาชนะ ไบร์ทตัน มา 1-0 ในถ้วย คาราบาว คัพ แต่นั่นก็ไม่ใช่ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดที่ลงสนาม ถ้าพวกเขาจัดผู้เล่นแบบฟูลทีมบางทีผลการแข่งขันน่าจะไม่ออกมาแบบนี้ก็เป็นได้ แถมปีนี้พลพรรรค "นกนางนวล" ก็ยกระดับตัวเองขึ้นเรื่อยๆ และมีผลงานที่จับต้องได้โดยเฉพาะเกมรุกที่จัดจ้าน ถ้าไม่นับเกมที่แพ้ เวสต์แฮม พวกเขายิงได้อย่างต่ำ 3 ประตูทุกนัดในเกมลีก การเจอกันในลีกก่อนหน้านี้ 5 นัด เชลซี ก็คว้าชัยชนะไม่ได้เลย

การเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นงานที่หนักอยู่เสมอ ต่อให้ผลงานจะดีหรือไม่ดี แต่การเจอกับ เชลซี ตลอด 6 นัดที่ผ่านมาพวกเขาก็ไม่แพ้เลยสักนัด

ทาง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีสถิติที่ไม่ค่อยโอเคอยู่แล้วเรื่องการเล่นเกมเยือน รวมไปถึงการเจอกับทีมใหญ่ๆ ดังนั้นตอนนี้อนาคตของเขาก็ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม และเก้าอี้กุนซือของเขาอาจจะสั่นคลอนก็เป็นได้ถ้าไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

ตอนนี้ เชลซี รั้งอยู่อันดับ 14 ในลีกและเพิ่งจะมีแค่ 5 คะแนน โดนพวกทีมหัวตารางทิ้งห่างออกไปแล้วแตะหลัก 10 แต้ม นี่จึงเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ในช่วง 10 เกมอันตรายนับจากนี้ ถ้าไม่ได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการบางทีในศักราชใหม่คนที่จะมาทำหน้าที่บัญาชาทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" อาจไม่ใช่เขาแล้วก็เป็นได้ 

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline