logo-heading

เล่นทำเอากองแช่งส่ายหัวกันเป็นแถวเลย ใครจะไปคาดคิดว่า "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกดสูตรโกงความตายติดจนพลิกล็อคกลับมาเป็นฝ่ายเชือด เบรนท์ฟอร์ด 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที

แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่านี่แหละคือโลกของ ฟุตบอล ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ส่วนเรื่องราวและประเด็นต่างๆ ในเกมนัดนี้จะมีอะไรที่น่าพูดถึงกันบ้างวไปติดตามรับชมพร้อมๆ กันเลยครับ

[ แผงแบ็กโฟร์ชวนเซอร์ไพรส์ ]

หนึ่งในปัญหาที่ชวนหนักใจมากๆ สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บที่ยาวเป็นหางว่าวโดยเฉพาะในตำแหน่งแนวรับที่ไม่มีทั้ง ราฟาเอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ลุค ชอว์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า

นั่นทำให้วันนี้แฟนๆ ได้ยลโฉมแผงแบ็กโฟร์ที่เต็มไปด้วย 4 เทพไม่ว่าจะเป็น วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, จอนนี่ อีแวนส์, ดีโอโก้ ดาโลต์ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แน่นอนว่าหลายคนอาจจะจับจ้องไปที่ แม็คไกวร์ เป็นพิเศษว่าวันนี้จะมีคอนเทนต์อะไรใหม่ๆ มาโชว์ให้ดูบ้าง

[ คนที่น่าผิดหวังที่สุด ]

คนที่เล่นได้น่าผิดหวังที่สุดไม่ใช่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ อย่างที่ทุกๆ คนคาดไว้ตั้งแต่ทีแรก วันนี้การยืนคู่กับ จอนนี่ อีแวนส์ ถือว่าคุมเกมรับได้ดี ค่อนข้างมีระเบียบถ้าไม่นับประตูแรกที่เสียก็น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่านี้ แถมพี่แกยังเป็นคนโขกตั้งทำแอสซิสต์ให้กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ อีกต่างหาก

จังหวะโดนยิงนำคุณอาจจะมองว่า ลินเดเลิฟ เคลียร์บอลไม่ขาด มันก็อาจจะถูก หรือลูกยิงของ มาธิอัส เยนเซ่น อังเดร โอนาน่า ก็ควรเซฟได้ดีกว่านี้ อันนี้มันก็ถูก เพราะที่ผ่านๆ มา ตรงกรอบเมื่อไหร่ก็ตุงตาข่ายตลอด เคสของเขาก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ควรพูดถึง แต่คนที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสูญเสียจริงๆ ก็คือ กาเซมิโร่

ผู้เล่นที่เป็นคีย์แมนสำคัญช่วยยกระดับศักยภาพแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปีที่แล้ว ตัดภาพกลับมาตอนนี้ดันกลายเป็นคนละคนซะงั้น พี่แกผิดพลาดบ่อยมากตรงกลางสนามไม่ใช่แค่เกมๆ นี้ ครองบอลไม่ค่อยได้ จ่ายบอลก็เสียง่าย และวันนี้การจ่ายบอลพลาดของเขาก็นำมาซึ่งการเสียประตู

[ เกมรุกที่ไร้มิติ ]

ผู้เล่นในแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โดนตั้งคำถามกันเยอะถึงเรื่องของประสิทธิภาพ โดยในกมนี้พวกเขามีโอกาสยิงถึง 13 ครั้งซึ่งมากกว่า เบรนท์ฟอร์ด ครึ่งหนึ่งก็จริง และตรงกรอบ 6 ครั้ง แต่โอกาสส่วนใหญ่มันก็มารัวในช่วงท้ายๆ ที่ขนพวกตัวสำรองลงสนามเพื่อทวงสกอร์คทน

กัปตันทีมอย่าง บรูโน่ แฟร์นานเดส สร้างความแตกต่างไม่ค่อยได้ อาจจะเป็นเพราะถูกจับไปยืนเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา ส่วนแข้งใหม่อย่าง เมสัน เมาท์ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน การยืนตำแหน่งยังดูสับสนๆ อาจจะมีสับเปลี่ยนตำแหน่งกับ บรูโน่ อยู่บ้าง แต่ก็ช่วยอะไรทีมไม่ค่อยได้

มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็โดนวิจารณ์ค่อนข้างเยอะในปีนี้ โอกาสที่มากมายของเขาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ให้กับทีมได้ แถมในบางจังหวะก็ดูเป็นบอลชายเดี่ยวมากเกินไป ส่วน ราสมุส ฮอยลุนด์ ถ้าเขาได้การสนับสนุนและการสร้างโอกาสที่ดีกว่านี้จากเพื่อนร่วมทีมบางทีก็อาจจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดในนัดนี้ก็เป็นได้

[ แม็คโทมิเนย์ โคตรฮีโร่ ]

พอเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับสกอร์ที่ตามหลังอยู่ 1-0 ด้วยรูปเกมที่ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่ เกมรุกก็หวังผลไม่ได้ ใครจะไปเชื่อว่าสุดท้าย "ปีศาจแดง" จะเป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์กลับมาคว้า 3 คะแนนได้ในระยะเวลาแค่ 4 นาทีจากผู้เล่นตัวสำรองคนสุดท้าย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ถูกส่งลงมาในนาที 87

คุณรู้ไหมว่า 2 ประตูของผู้ชายคนนี้ทำให้เกิดขึ้นสถิติใหม่ๆ ขึ้นมาเพียบเลย เพราะนี่คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะพ่ายแพ้หลังเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่สามารถพลิกกลับมาเก็บชัยชนะได้

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เป็นผู้เล่นคนแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่ทำ 2 ประตูในช่วงนาที 90+ นับตั้งแต่ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น เคยทำไว้ในเกมที่ สเปอร์ส เจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงต้นปี 2022 และที่สำคัญคือ 10 ประตูหลังสุดที่พี่แกทำได้ใน พรีเมียร์ลีก ก็เกิดขึ้นที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้งหมด

"ใช่แล้ว นี่คือ เฟอร์กี้ ไทม์ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันเป็นเรื่องปกติที่เรามักจะยิงได้ในช่วงเวลานี้" บรูโน่ แฟร์นานเดส พูดถึงชัยชนะที่สุดแสนจะดราม่าในนัดนี้กับ 2 ประตูในนาทีบาปของ แม็คโทมิเนย์

[ จุดเปลี่ยนไหม ? ]

ในทางกลับกันทางวันนี้ไม่มี 2 ประตูปาฏิหาริย์ของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ถ้าวันนี้ไม่มีโชคเข้าข้างและแพ้ขึ้นมาล่ะ มันจะเกิดขึ้นอะไรขึ้นบ้าง ? แมนฯ ยูไนเต็ด โดนยิงนำก่อนที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เคยเกิดขึ้นต่อจากช่วง กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2014 และช่วง กรกฏาคม - กันยายน ปี 2022

ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในเกมนี้ จะเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 5 จาก 8 เกมแรกของฤดูกาลนับตั้งแต่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 1986 ซึ่งเป็นยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ในเกมนี้ จะเป็นการแพ้คาบ้าน 3 นัดติดต่อกันในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ กุมภาพันธ์ปี 1977 หรือเป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามถึงแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกำชัยมาได้แบบมีโชคช่วยก็จริง แต่สถานการณ์ของ เอริค เทน ฮาก ยังไม่ปลอดภัย เพราะเขายังถูกมองเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่อาจจะตกงานในเร็วๆ นี้ ดังนั้นนี่ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่ปลอดภัยสำหรับนายใหญ่ชาวดัตช์ 

แต่ถ้ามองในแง่ที่ดีก็คือชัยชนะในเกมนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ เอริค เทน ฮาก ตามหาอยู่ก็เป็นได้ เดี๋ยวต้องมารอดูว่าสถานการณ์ต่างๆ นับจากนี้จะดีขึ้นไหม ? ทั้งเรื่องฟอร์มการเล่นและปัญหาในหลายๆ จุดที่ต้องเร่งแก้ไข

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline