logo-heading

เกมนี้ มีเรื่องราวโมเมนต์น่าประทับใจด้วย เพราะนักเตะ หงส์แดง ทุกคน ได้ส่งกำลังใจพร้อมอยู่เคียงข้าง หลุยส์ ดิอาซ ที่กำลังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว ซึ่งเกมนี้ มีประเด็นไหนที่ต้องพูดถึงกันบ้าง ไปติดตามกันเลย

- ประตูนี้เพื่อ หลุยส์ ดิอาซ !!

ก่อนเกมคู่นี้จะเริ่มขึ้น เกิดสถานการณ์ที่น่ากังวลใจ สำหรับครอบครัวของ หลุยส์ ดิอาซ แนวรุกฝั่งซ้าย ของ ลิเวอร์พูล หลังจาก คุณพ่อและคุณแม่ ถูกกลุ่มโจรติดอาวุธ ลักพาตัวเพื่อไปเรียกค่าไถ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยออกมาได้แค่คุณแม่ แต่คุณพ่อยังไม่สามารถช่วยเหลือได้ โดยผู้นำประเทศโคลอมเบีย ยืนยันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ

ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไลน์อัพอย่างเร่งด่วนในเกมเจอกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เพราะ หลุยส์ ดิอาซ ไม่มีจิตใจที่พร้อมจะลงเล่น เนื่องจากเขาเป็นห่วงความรู้สึกและความปลอดภัยกับครอบครัวมากเหลือเกิน โดยเฉพาะคุณพ่อ ที่ยังไม่รู้ชะตากรรมในขณะนั้น

เชื่อว่าทุกคนในทีม ก็มีความรู้สึกเป็นห่วง ดิอาซ กับ ครอบครัวไม่แพ้กัน แต่ในเมื่อต้องทำหน้าที่ต่อไป สิ่้งที่พวกเขาสามารถทำได้ในฐานะเพื่อน คือการส่งกำลังใจไปให้กับ ดิอาซ ว่านักเตะ หงส์แดง ทุกคนพร้อมอยู่เคียงข้าง

โดยประตูแรกที่ ดิโอโก้ โชต้า ทำได้จากการยิงซ้ำแบบจ่อๆหน้าปากประตู ให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 .. เขาได้วิ่งไปตรงซุ้มม้านั่งสำรอง ก่อนจะชูเสื้อหมายเลข 7 ของ ดิอาซ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้รับรู้ว่า ทุกคนที่สโมสร และ แฟนบอล เดอะ ค็อป ทั่วโลก พร้อมยืนเคียงข้างเขาเสมอ เหมือนดั่งสโลแกน "คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย" เพื่อสถานการณ์เลวร้ายไปพร้อมๆกัน

หงส์แดง โหดจริง ยิง เจ้าป่า คว้า 3 แต้มแบบหวานเจี๊ยบ

- ความมั่นใจของ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่หดหาย

หลายคนเป็นห่วงความมั่นใจของ ดาร์วิน นูนเญซ ว่าจะมันลดลง หรือ หดหายไปบ้างไหม ?? เพราะในเกมที่ ลิเวอร์พูล ถล่ม ตูลูส 5-1 ในศึก ยูโรปา ลีก เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีช็อตที่ ไอ้หนุ่มผมยาว วิ่งโซโล่มาคนเดียว พร้อมแตะหลบนายทวารคู่แข่ง มีแค่หน้าปากประตูโล่งๆ แต่ดันยิงไปชนเสา ก่อนจะเป็น ไรอัน กราเฟนแบร์ค ตามมาเก็บตกยิงเข้าไป ซึ่งจังหวะนั้น นูนเญซ กุมขมับด้วยความเสียดาย ทั้งๆที่บอลยังไม่ตายด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ความกังวลของแฟนบอล หงส์แดง ได้สลายหายไปเรียบร้อยแล้ว เพราะ นูนเญซ ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ ด้วยความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม เขามีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมมากเหลือเกิน ซึ่ง นูนเญซ เป็นคนทำประตูที่ 2 ให้กับทีม จากการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก จากแดนหลังสู่แดนหน้า โดยแอสซิสต์มาจาก โดมินิค โซบอสไล ที่ปาดแรงๆเข้ามาให้ นูนเญซ ชาร์ตจ่อๆเข้าไป

เกมนี้ จะเห็นได้ว่า นูนเญซ วิ่งพล่านไปทั่ว เขาหาช่องเก่งมาก สร้างจังหวะให้กับเพื่อนๆหลายครั้ง ถ้ามีโอกาสจบสกอร์ เขาจะง้างเท้าใส่ทันที ไม่มีคำว่าหวั่น โดยลูกแรกที่ หงส์แดง ยิงได้นั้น ก็เป็น นูนเญซ นี่แหละครับ ที่ตวัดยิง จนทำให้ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตู ฟอเรสต์ ปัดมาเข้าทาง โชต้า ตามซ้ำเข้าไปจ่อๆ

- โม ซาลาห์ เดินหน้าทำสถิติ
ยามลงเล่นที่ แอนฟิลด์ ต่อไป

ใครที่เล่นเกมจัดทีม "แฟนตาซี ฟุตบอล" ชั่วโมงนี้ ยังไงก็ต้องมีชื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ในทีม เพราะถ้า บัง ไม่ทำประตู ก็จะ แอสซิสต์ ให้เพื่อนเป็นประจำ โดยเฉพาะการลงเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ที่กำลังร้อนแรงเกินห้ามใจเหลือเกิน

ซาลาห์ มีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-0 เพราะเขาเป็นคนดึงจังหวะ และ จ่ายไปสุดเส้นหลังให้กับ โซบอสไล ปาดไปหน้าประตูให้ นูนเญซ ยิงเข้าไป ซึ่งตอนแรกดูเหมือนว่าเกมนี้ ซาลาห์ อาจจะถูกหยุดสถิติการมีส่วนร่วมทำประตูในถิ่นแอนฟิลด์ บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือเปล่า ?

แต่แล้ว บังโม ก็อาศัยความผิดพลาดของนักเตะ ฟอเรสต์ ที่สื่อสารกันไม่ดี ในจังหวะที่ ลิเวอร์พูล เปลี่ยนจากรับเป็นรุกเหมือนเดิม โดย โซบอสไล วางบอลยาวจากแดนหลัง ขึ้นไปข้างหน้าให้กับ ซาลาห์ แต่ว่า ผู้รักษาประตู กับ กองหลัง ฟอเรสต์ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงกัน วิ่งออกมานอกกรอบเขตโทษ และ ปล่อยบอลตกลงพื้น กลายเป็นส้มหล่นมาให้กับ ซาลาห์ ได้ยิงจ่อๆเข้าไป เป็นประตูตอกฝาโรง 3-0

ซึ่งประตูนี้ของ ซาลาห์ ทำให้เขาสร้่งสถิติเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมในการยิงประตู หรือ แอสซิสต์ ในถิ่นแอนฟิลด์ บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาแล้ว 14 นัดติดต่อกัน ไล่ล่าสถิติของ อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ 18 นัดติดต่อกัน

โม ซาลาห์

- ลิเวอร์พูล เกือบไม่คลีนชีต !!

นับตั้งแต่ออกสตาร์ท พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023-24 .. ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่เสียประตูแทบทุกนัด โดยก่อนจะเจอกับ ฟอเรสต์ นั้น พวกเขาเก็บคลีนชีตได้แค่ 2 เกม จาก 9 เกม เท่านั้น คือนัดที่ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 และ ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 โดยที่เหลือเสียไปรวมกัน 9 ลูก เฉลี่ยแล้วจะโดนนัดละ 1 ตุง โดยประมาณ

ในเกมกับ ฟอเรสต์ ช่วงที่ หงส์แดง นำอยู่ 3-0 ก็เกือบจะเสียประตูตีไข่แตกในตอนท้ายเกมเหมือนกัน โดยเฉพาะช็อตที่ แอนโธนี อีแลงก้า ได้ซัดเต็มตีนเขี่ย แต่บอลพุ่งไปชนคานสนั่นหวั่นไหว นับเป็นโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของทีมเยือน ซึ่งสุดท้าย ลิเวอร์พูล สามารถรักษาสกอร์ และ เก็บคลีนชีตได้เป็นนัดที่ 3 ในเกมลีกซีซั่นนี้

ชัยชนะนัดนี้ ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ยังรักษาอันดับท็อป 4 เกาะกลุ่มทีมลุ้นแชมป์ได้เหมือนเดิม โดยมี 23 คะแนน ตามหลัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จ่าฝูง อยู่เพียงแค่ 3 คะแนน เท่านั้น โดยนัดต่อไปของ หงส์แดง ในเกม พรีเมียร์ลีก จะบุกไปเยือน ลูตัน ทาวน์ ซึ่งไม่ใช่โปรแกรมที่ยากมากนัก

ฮาย ฮาวดี้-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline