logo-heading

เป็นเกมระดับ “มาสเตอร์พีช” จริงๆ สำเกมนัดนี้ ให้ 5 ดาวก็คงจะไม่พอ ทั้งสองทีมพลัดกันบุกพลัดกันยิง แบบสุดมันส์จริงๆ เชลซี เองวันนี้เล่นได้ดีเกิดคาดมากๆ ส่วน แมนฯ ซิตี้ แม้จะทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานในบางจังหวะ แต่ก็ยังสามารถเอาตัวรอดมาได้ จบเกมเสมอกันไป 4-4 แบ่งกันไปคนละแต้ม ส่วนเกมนี้จะมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้างติดตามรับชมกันครับ

—------------------------

[ แมนฯ ซิตี้ ผิดฟอร์มสุดๆ โดยเฉพาะในแนวรับ ]

แนวรับในเกมวันนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จัดว่าพลาดกันง่ายๆหลายจังหวะ โดยเฉพาะการ บิ้วอัพเกมจากแดนหลังที่เป็นจุดเด่นของทางฝั่ง เรือใบสีฟ้า มาโดยตลอด แต่เกมในนัดนี้กลับทำได้ไม่ดีเอาซะเลย คุณภาพการจ่ายบอลเองก็เข้าขั้นแย่มากๆ 

จังหวะที่โดน เชลซี เพรสเข้าใส่จะเห็นได้ชัดเลยว่า ผู้เล่นของ แมนฯ ซิตี้ ออกอาการลนให้เห็นอย่างชัดเจน แถมจังหวะที่ไม่ควรจะพลาดก็ดันไปพลาดแบบดื้อๆ ซึ่งเป็นอะไรก็หาดูได้ยากมาก สำหรับลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

โดยเฉพาะทางฝั่งของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่วันนี้โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังสุดๆ แถมยังมีส่วนสำคัญทำให้ทีมเสียประตูที่สอง จังหวะนั้น พี่แกดันไปสะดุดบอล แล้วบอลก็ไปทางเข้า รีซ เจมส์ เปิดให้ สเตอร์ลิ่ง เข้าชาจง่ายๆ 

รูเบน ดิอาซ ที่เป็นปราการหลังตัวหลักของ เรือใบสีฟ้า มาโดยตลอด วันนี้ก็ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานเช่นกัน ทั้งการจ่ายบอลก็มีจังหวะที่จ่ายเสียให้เห็นอยู่เป็นระยะ

รวมทั้งจังหวะทีเด็ดทีขาดในการสกัดบอลที่เป็นจุดเด่นของเจ้าตัวก็ทำได้ไม่ดีพอ แถมยังทำให้ทีมเสียจุดโทษในช่วงนาทีบาปของเกมอีก นับได้ว่าเป็นเกมที่น่าผิดหวังเช่นกันสำหรับ กองหลังชาวโปรตุกีส

ส่วน ไคล์ วอร์คเกอร์ ในการทำหน้าที่รับมือกับเพื่อนเก่าอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ถือว่าสอบตกอย่างชัดเจน โดน สเตอร์ลิ่ง เผาแทบจะตลอด แถม วอร์คเกอร์ ยังทำสถิติเสียบอลถึง 14 ครั้ง มากที่สุดของทางฝั่ง แมน ฯ ซิตี้ อีกด้วย

ส่วนเกมรุกเองก็ยังคงทำผลงานได้ตามมาตรฐาน โดยเฉพาะ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ยังคงหวังพึ่งได้เสมอในยามที่ทีมต้องการประตู โดยวันนี้พี่แกก็ซัดไป 2 ตุง

ประเด็นหลังเกม เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ แบบสุดมันส์ 4-4

—------------------------

[ เชลซีเล่นดีเกินคาด ]

คงไม่มีใครคิดหรอกครับว่า เชลซี จะมาดีขนาดนี้ และจะมายิงใส่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึง 4 ประตู เรียกได้ว่าเกินคาดจริงๆ บวกกับโมเมนตั้มหลังจากบุกไปอัด สเปอร์ คาถิ่น 4-1 คงทำให้ความมั่นใจของ เชลซี ในวันนี้เต็มเปี่ยม แถมยังกระหายชัยชนะสุดๆ

เครดิตในนัดนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ด้วยเหมือนกันกับการวางหมากที่จะมาเจอกับ แมนฯ ซิตี้ ในวันนี้ 

ถ้าเราดูทีมส่วนใหญ่ที่เจอกับ แมนฯ ซิตี้ จะมักใช้อยู่ 2 วิธีในการรับมือก็คือ เน้นแพ็คเกมในเดนกลางแล้วหาจังหวะสวนกลับ อีกวิธีก็คือเน้นรับอย่างเต็มรูปแบบ หรือเรียกง่ายๆว่าแผนรถบัสนั่นเอง

แต่วันนี้ โปเช็ตติโน่ กลับมาเล่นเพรสซิ่งใส่ ซึ่งนับได้ว่าเป็นแผนที่เสี่ยงมากๆเช่นกัน เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าการต่อบอล และระบบการเล่นของ แมนฯ ซิตี้ นั้นยอดเยี่ยมมากแค่ไหน การจะไปเพรสใส่แบบมั่วๆมันเสี่ยงต่อการโดนแก้เพรส แล้วโดนสวนขึ้นมาเสียประตูแบบง่ายๆ ก็เห็นมากันนักต่อนักแล้ว

การมาเล่นเพรสซิ่งของ เชลซี ในวันนี้จัดว่าทำได้ดีเลยทีเดียว กดดันผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ จนเกือบที่จะได้ประตูอยู่หลายต่อหลายครั้ง

นอกจากนั้น ผู้เล่นในเกมรุกของทางฝั่ง เชลซี ก็ทำได้ดีเอามากๆ โดยเฉพาะสองนักเตะเก่าของ ทัพเรือใบสีฟ้า อย่าง โคล พาลเมอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่วันนี้ปั่นป่วนแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ ได้แบบโงหัวไม่ขึ้น แถมยังใช้กฎการยิงประตูทีมเก่า ซัดกันไปคนละประตูอีกด้วย

อีกคนที่ต้องชมเลยก็คือ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่วันนี้เล่นได้โดดเด่นเอามากๆ ทั้งช่วยเล่นเกมรับและรุก วิ่งแทบจะทั่วสนาม อีกทั้งยังมีส่วนกับประตูตีเสมอ 3-3 ของ เชลซี ด้วยเช่นเดียวกัน

ประเด็นหลังเกม เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ แบบสุดมันส์ 4-4

—------------------------

[ 1 แต้มที่ล้ำค่า กับ 2 แต้มที่ทำหล่นหาย ]

สำหรับ เชลซี ในวันนี้การคว้า 1 แต้มในบ้านถือว่าน่าพอใจพอสมควร จากที่ใครๆต่างมองว่าไม่น่ารอดแล้วแน่ๆ เมื่อ โรดรี้ มาตะบันนอกกรอบยิงให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำในช่วงท้ายเกม 4-3

แต่โชคดันเข้าข้างพวกเขาเมื่อได้จุดโทษในช่วงนาทีบาปของเกม และเป็น โคล พาลเมอร์ ที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษได้อย่างเฉียบคาด 

1 แต้มในวันนี้ช่วยให้ เชลซี ผ่านโปรแกรมอันแสนหฤโหดกับทีมหัวตารางไปได้อีก 1 นัด ที่ใครหลายคนอาจมองว่า เชลซี คงจะ “เดดห่า” แน่ๆถ้าดูจากโปรแกรมในช่วงก่อนหน้านี้ 

ถ้า เชลซี ยังคงรักษามาตรฐานแบบเกมในวันนี้เอาไว้ได้รับรองได้เลยว่ามีอนาคตที่สดใสรออยู่อย่างแน่นอน

ตรงกันข้ามกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เลยครับที่วันนี้พวกเขาควรจะคว้า 3 แต้มกลับบ้านได้ แต่กลับทำหลุดมือไปเอง 

คงจะไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยครั้งหรอกนะครับ ที่ทีมเขี้ยวยาวลากดินแบบ แมนฯ ซิตี้ จะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

และครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ เสียถึง 4 ประตูก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ที่บุกไปพ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล ถึงถิ่น 3-4 

แต่ถ้าจะมองในแง่ดีคือ พวกเขาก็ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้ โดยมี ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ตามมาแบบติดๆ ก่อนที่จะมีการพักเบรคทีมชาติ ในสัปดาห์หน้า

ประเด็นหลังเกม เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ แบบสุดมันส์ 4-4

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline