logo-heading

สาหัส ! รีซ เจมส์ ในวัย 25 ปีกับอาการบาดเจ็บ 16 ครั้ง

มีนักเตะหลายคนที่ได้รับคำชื่นชมมากมายในเรื่องของศักยภาพฝีเท้า แต่ในทางกลับกันก็มันมีหลายคนที่ไปไม่ถึงดวงดาว ไปไม่ถึงเส้นทางความฝันที่ตั้งมั่นเอาไว้ด้วยเรื่องของปัญหาอาการบาดเจ็บ

รีซ เจมส์ คือฟูลแบ็กที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดคนหนึ่งของ เชลซี ในยุคนี้ และเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แจ้งเกิดขึ้นมาจากอคาเดมี่โดยตรงและมีโอกาสสร้างตำนานบทใหม่บนหน้าประวัติศาสตร์สโมสรได้ในระดับเดียวกับกัปตันอย่าง จอห์น เทอร์รี่

เรื่องฝีไม้ลายมือแน่นอนว่าทุกๆ คนให้การยอมรับกับการเป็นแบ็กสมัยใหม่ที่ขึ้นสุดลงสุด วิ่งได้ไม่มีหมด มีส่วนกับเกมรุกสูง และหวังผลได้จากการสร้างสรรค์เกมไม่ว่าจะเป็นลูกครอสส์ ตลอดจนเรื่องของการทำประตู

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นปัญหาและน่าเป็นห่วงเอามากๆ ก็คือเรื่องอาการบาดเจ็บที่มักจะเวียนวนเข้ามาทักทายอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอายุอานามแค่เพียง 24 ปี แต่ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาคุณรู้ไหมว่า รีซ เจมส์ ได้รับบาดเจ็บไปทั้งหมด 15 ครั้งด้วยกัน

ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ปี 2019 อาการบาดเจ็บแรกของ รีซ เจมส์ เกิดขึ้นที่บริเวณข้อเท้า และนั่นก็คือโรคเดี้ยงที่สาหัสที่สุดเพราะต้องใช้เวลาพักฟื้นไปนานถึง 112 วันหรือราวๆ 3 เดือนครึ่ง พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไปมากถึง 21 นัดด้วยกัน ถ้าจำไม่ผิด ณ ตอนนั้น รีซ เจมส์ อายุแค่เพียง 20 ปีเอง แต่แผลแรกในชีวิตของเขาดันกลายเป็นอาการที่สาหัสที่สุดในชีวิต

นับตั้งแต่นั้นพิษจากอาการบาดเจ็บก็มักจะกลับมาทักทายพี่แกอยู่บ่อยๆ โดยเฉลี่ยแล้วทุกๆ 3 เดือนบาปกรรมตรงนี้จะโคจรกลับมาถามไถ่เขาอีกครั้ง

นับตั้งแต่นั้นจนถึงตอนนี้ รีซ เจมส์ ใช้เวลาพักฟื้นจากปัญหาอาการบาดเจ็บไปทั้งหมด 541 วัน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไปทั้งหมดราวๆ 89 นัดด้วยกัน หากตีเป็นค่าเฉลี่ยจำนวนการลงเล่นก็เทียบเท่าระดับ 2 ซีซั่นเลยทีเดียว

แน่นอนว่าจุดที่อันตรายที่สร้างความสาหัสความหนักใจให้นักฟุตบอลอาชีพมากที่สุดก็คือบริเวณหัวเข่า ซึ่งตัวของ เจมส์ บาดเจ็บที่หัวเข่าไป 2 ครั้ง ใช้เวลาพักฟื้นรวมกัน 95 วัน หรือราวๆ 3 เดือน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไป 16 นัด

อย่างไรก็ตามจุดที่แผลเก่าที่เจ็บซ้ำแล้วซ้ำ เรียกได้ว่าเป็นโรคเดี้ยงประจำตัวเลยก็ว่าได้นั่นก็คือบริเวณแฮมสตริง คุณรู้ไหมว่า อาการบาดเจ็บ 6 จาก 15 ครั้งมันก็ที่บริเวณข้อพับด้านหลังหัวเข่า และในแต่ละครั้งก็ส่งผลให้ รีซ เจมส์ ต้องนอนเบื่ออยู่ที่โรงหมดไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

ครั้งแรกมันเกิดขึ้นตอน ธันวาคม ปี 2020 พักฟื้นไป 25 วัน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไป 5 นัด ครั้งที่ 2 ธันวาคม 2021 พักไป 49 วัน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไป 11 นัด ส่วน ครั้งที่ 3 นี่รู้สึกจะเบาที่สุดเพราะใช้เวลาพักฟื้นแค่ 7 วัน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไป 2 นัดในช่วง เมษายน ปี 2022

อาการบาดเจ็บก็คล้ายๆ กับความคิดถึง พอมันเกิดขึ้นแล้วก็คล้ายๆ ว่า จะไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับ รีซ เจมส์ แล้วพอเข้าสู่ปี 2023 อาการบาดเจ็บที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมดมีอยู่ 4 ครั้ง และ 3 ครั้งเกิดขึ้นที่แผลเก่าตรงที่เรียกว่าแฮมสตริง

ครั้งแรกตอน มีนาคม ปี 2023 เจ็บแบบบางเบาเหมือนแค่ลองกลับมาทักทายเล่นๆ ในช่วงต้นปี พักไป 4 วัน พลาดโอกาสลงสนามให้ เชลซี 1 นัด

แต่อีก 1 เดือนต่อมาหรือในช่วงเดือนเมษายนปี 2023 รีซ เจมส์ บาดเจ็บซ้ำที่แผลเก่าแฮมสตริงเป็นครั้งที่ 2 ของปี พักไปประมาณ 36 วัน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไป 7 นัด ส่วนครั้งที่ 3 เพิ่งเกิดขึ้นตอนช่วงตอนซีซั่นเปิดใหม่ๆ ใช้เวลาพักฟื้นไปราวๆ 54 วัน หรือเกือบๆ 2 เดือน พลาดโอกาสลงเล่นให้ เชลซี ไปอีก 9 นัด

เมื่อมี 1 มี 2 และก็มี 3 แต่ก็ยังไม่หยุดแค่นั้นเพราะหลังผ่านวันที่ 8 ธันวาคมที่อายุของ รีซ เจมส์ ครบ 24 ปีบริบูรณ์โชคชะตาหรือบาปกรรมก็มอบของขวัญที่แสนโหดให้พี่แกไปอีกกับปัญหาอาการบาดเจ็บครั้งที่ 4 ของปี เท่ากับว่าเป็นอาการบาดเจ็บครั้งที่ 16 ในชีวิต และเกิดขึ้นที่แฮมสตริงเป็นครั้งที่ 7

ตามรายงานระบุว่าคราวนี้ รีซ เจมส์ ต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกราวๆ 3 เดือน เท่ากับว่ากว่าจะหวนกลับคืนสู่สนามได้ต้องรอจนถึงช่วง มีนาคม 2024 โน่นเลย ไม่มีการยืนยันว่าต้องพลาดโอกาสรับใช้ เชลซี อีกกี่นัด แต่น่าจะมากแตะหลัก 10 นัดขึ้นไปอย่างแน่นอน

รีซ เจมส์ เพิ่งจะอายุแค่เพียง 24 ปีแต่บาดเจ็บไปแล้ว 16 ครั้ง ไม่อยากจะคิดถึงภาพอนาคตข้างหน้าเลยว่าพี่แกจะต้องเจอพิษโรคเดี้ยงนี้เล่นงานอีกกี่ครั้ง และมันจะมีเคสที่หนักหนาสาหัสกว่านี้อีกไหมก็ไม่มีทางรู้ได้

นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับนักกีฬา แต่มันก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะมันเป็นของที่เกิดมาคู่กันเหมือนกับเป็นคู่กรรมแต่ชาติปางก่อน มีนักฟุตบอลหลายคนที่ต้องยอมแพ้ให้กับปัญหาและสังขารของตัวเองจนต้องโบกมือลาเส้นทางแห่งความฝัน

ในฐานะแฟนฟุตบอลและแฟน เชลซี เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใครอยากให้เด็กเก่งๆ ที่โตมาจากอคาเดมี่ของสโมสรโดยตรงอย่าง รีซ เจมส์ ต้องเจอกับโชคชะตาแบบนั้น แต่มันก็ไม่สามารถทำอะไรไม่ได้นอกจากการให้กำลังใจกับเขาต่อไป . . .

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline