logo-heading

รวมความพัง ! อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปี 2023

ปี 2023 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป มันอาจจะเป็นปีที่ดีและน่าจดจำของใครหลายๆ คน แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นช่วงเวลา 12 เดือนที่โหดร้ายของใครหลายๆ คนเช่นกัน

หากพูดถึงโลกของฟุตบอล ถ้าจะให้เอ่ยถึง 1 สโมสรที่เจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมากๆ ในปี 2023 ซึ่งอารมณ์ไม่ต่างจากปีชง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม อยู่ในลิสต์ด้วยอย่างแน่นอน พวกเขาต้องเจอกับเรื่องราวอะไรที่ไม่น่าจดจำกันบ้างไปดูกันหน่อยดีกว่าครับ

[ มือเปล่า ]

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เริ่มดิ่งสู่ช่วงชีวิตขาลงนับตั้งแต่คว้าแชมป์ เอเรดิวิซี่ เมื่อฤดูกาล 2021-22 การเข้ามาของ อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ เมื่อปีก่อนแทนที่ เอริค เทน ฮาก แรกๆ ก็ดูน่าสนใจไม่เบา เพราะก่อนจะมาแกสร้างโปรไฟล์ไว้ดีมากๆ กับ คลับ บรูซ

แต่ก็กลายเป็นว่าต้องมาทุกข์ทรมานกับปัญหาภายในของสโมสร รวมไปถึงการสูญเสียขุมกำลังสำคัญไปมากมายมหาศาล สุดท้ายแล้ว ชรอยเดอร์ ได้อยู่คุมทีมไปแค่ 26 นัด และเก็บชัยชนะได้แค่ 12 นัดเท่านั้น พร้อมกับสร้างสถิติไม่น่าจดจำหลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น 7 นัดติดด่อกัน ก่อนจะตกงานหลังเข้าสู่ปี 2023 ได้ไม่นาน

ทางบอร์ดบริหารของ อาแจ็กซ์ ดัน จอห์นนี่ ไฮติงก้า จากโค้ชชุดเยาวชนขึ้นมาเป็นรักษาการชั่วคราวยันจบซีซั่น ถึงจะมีผลงานที่โอเคดูดีขึ้นกว่าเดิมชัดเจน เก็บชัยชนะได้ 14 จาก 22 นัด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลย 

โดยใน เอเรดิวิซี่ จบอันดับ 3 ซึ่งเป็นอันดับที่แย่ที่สุดในรอบ 13 ปี เพราะส่วนใหญ่แล้ว อาแจ็กซ์ ไม่คว้าที่ 1 ก็ที่ 2 อยู่ตลอด ถัดมาที่ถ้วย ดัตช์ คัพ ก็ดันไปแพ้ให้คู่รักคู่แค้นอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนในเวทียุโรปก็โดนถีบตกรอบ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ตั้งแต่รอบน็อคเอาท์ นับเป็นการ "มือเปล่า" ไร้ถ้วยแชมป์ครั้งแรกในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว

[ คนในจากไป ]

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารประจำสโมสรมาอย่างยาวนานก็ดันมาประกาศลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผลงานอันน่าผิดหวังที่สโมสรคว้าแชมป์อะไรไม่ได้เลย

เช่นเดียวกับ สเวน มิสลินทัต คนที่เข้ามารับไม้ต่อในบทบาทผู้อำนวยการกีฬาต่อจาก มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ก็ต้องจากไปทั้งที่อยู่ทำงานในแค่ปีนิดๆ เนื่องจากสโมสรไม่ประทับใจในผลลัพธ์ของการทำงาน และไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้

[ กำลังสำคัญหายหมด ]

หนึ่งในสิ่งที่ชวนปวดใจตั้งแต่ก่อนเปิดฉากซีซั่น 2023-24 ก็คือการสูญเสียขุมกำลังมากมายออกไปไม่ว่าจะเป็นกองหลังคนสำคัญอย่าง เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ที่ย้ายไป อาร์เซน่อล, คัลวิน บาสซี่ย์ ไป ฟูแล่ม, เอดสัน อัลวาเรซ หนึ่งในแข้งใจกลางสำคัญก็ไป เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ปีกที่กำลังรุ่งๆ อย่าง โมฮาเหม็ด คูดุส ก็ไป เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แถมยังต้องเสีย 2 จอมเก๋าอย่าง ดูซาน ทาดิช และ ดาวี่ คลาสเซ่น ไปแบบฟรีๆ อีกต่างหาก เบ็ดเสร็จแล้วเท่ากับว่าหายไป 10 กว่าคนเลยทีเดียว

จากนั้น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ใช้เงินไปกว่า 100 ล้านยูโรเพื่อแลกกับการเซ็นนักเตะใหม่ๆ มาถึง 13 คน แต่นั่นก็ดูเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวเพราะในจำนวนทั้งหมดนั้นไม่มีใครที่ถูกมองว่าเป็นดีลที่คุ้มค่าเลยสักคน ส่วนคนที่หวังผลได้จริงๆ ก็ไม่ได้อยู่ในระดับมาตรฐานเหมือนที่ผ่านๆ มาเช่นกัน

[ จมอันดับบ๊วย ]

มันอาจจะเป็นช่วงชีวิตที่ขาลงจริงๆ ของ อาแจ็กซ์ แต่ใครจะไปเชื่อว่ามันจะมาถึงวันที่เลวร้ายถึงขั้นดิ่งหล่นลงไปจมอยู่อันดับบ๊วยของตาราง เอเรดิวิซี่ และนั่นคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร และมันเกิดขึ้นหลังจากบุกไปแพ้คู่ปรับอย่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แบบเละตุ้มเป๊ะ 2-5 ในการแข่งขันนัดที่ 8 ของซีซั่น และเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 5 ติดต่อกัน

หนึ่งใจปัจจัยสำคัญก็มาจากการเสียผู้เล่นคนสำคัญไปชุดใหญ่ ส่วน เมาริซ สไตจ์น ถึงจะได้หน้าได้คำชื่นชมมากมายจากการพา สปาร์ต้า ร็อทเธอร์ดัม จมอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร

แต่การย้ายมา อาแจ็กซ์ จากรูปแบบธรรมชาติของทีมที่ดูเป็นระบบระเบียบ, มีสไตล์การเล่นที่ไหลลื่น, เกมรุกที่จัดจ้านอันตราย ก็ดันเลือนลางหายไปเสียหมด กลายเป็นทีมเล่นบอลไม่มีทรงและโดนจับทางได้ง่าย และนั่นคือเหตุผลที่เขาต้องตกงานในทันที

[ แพ้ทีมสมัครเล่น ] 

การมาของกุนซือคนใหม่ จอห์น ฟานต์ สคิป หลายๆ สิ่งเริ่มดูดีขึ้นในเรื่องของฟอร์มการเล่น ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาจนอยู่ที่ 5 แข่ง 16 นัด มี 25 คะแนน แต่ก็ยังตามหลังจ่าฝูงซึ่งเป็นคู่อริอย่าง พีเอสวี อยู่ไกล 23 คะแนน ส่วนในเวทียุโรปก็ยังได้สิทธิ์ไปลุ้นเพลย์ออฟต่อในถ้วย ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก

อย่างไรก็ตามในเกมส่งท้ายปี 2023 กับศึก ดัตช์ คัพ หรือ เคเอ็นวีบี คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้เข้ามาแข่งรอบนี้เป็นนัดแรกของซีซั่น โดยเจอกับทีมระดับสมัครเล่นที่อยู่ใน ดิวิชั่น 4 อย่าง ยูเอสวี เฮอร์คูเลส

แต่ผลปรากฏว่า อาแจ็กซ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุดที่ 20 สมัยดันเป็นฝ่ายโดนยัดเยียดความปราชัยด้วยสกอร์ 2-3 ส่งผลให้ตกรอบไปแบบด่วนจี๋ และนี่ก็เป็นความพ่ายแพ้ให้กับทีมสมัครเล่นครั้งแรกของพวกเขาอีกต่างหาก

และนี่ก็เป็นบทสรุปไทม์ไลน์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตลอดทั้งปี 2023 จะเห็นได้ว่าแต่ละเรื่องนั้นมีแต่โมเมนต์ที่ไม่น่าจดจำทั้งนั้น

แต่อีกไม่กี่วันก็จะข้ามสู่ศักราชใหม่แล้ว . . . ในฐานะคนดูบอลคนหนึ่งก็อยากให้อะไรๆ มันดีขึ้น เพราะนี่คือสโมสรที่เก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ และขึ้นชื่อลือชามากๆ ในการปลุกปั้นและยกระดับนักเตะดาวรุ่งที่เก่งมากๆ 

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline