logo-heading

จาก ฮีโร่ สู่ ผู้ร้าย ! ชีวิตที่เปลี่ยนไปของ เบนเซม่า หลังมา ซาอุฯ

"นี่คือความท้าทายครั้งใหม่สำหรับผม นี่คือชีวิตใหม่ ผมตื่นเต้นสุดๆ ที่ได้ย้ายมาที่นี่ อัล-อิตติฮัด คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน ซาอุดิอาระเบีย มีฐานแฟนบอลเหนียวแน่น และคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย"

นี่คือความในใจของ คาริม เบนเซม่า เมื่อวันที่เขาได้กลายเป็นผู้เล่นคนใหม่ของ อัล-อิตติฮัด ต้องบอกเลยว่าภาพจำในวันนั้นอะไรๆ ก็ดูดี สวยหรูไปหมด บรรยากาศต่างๆ การต้อนรับอันแสนอบอุ่น และด้วยชื่อชั้นและดีกรีที่ไม่ธรรมดาก็เลยทำให้เขากลายเป็นขวัญใจคนใหม่ในหมู่แฟนบอลแบบทันทีทันใด

แต่ไปๆ มาๆ หลายๆ สิ่งก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป คาริม เบนเซม่า เริ่มโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์และโดนตั้งคำถามว่า ขี้เกียจไปไหม ? หมดแพสชั่นแล้วรึเปล่า ? ทำไมดูไม่ใช่คนที่ทุ่มเทเหมือนสมัยอยู่ เรอัล มาดริด เลยล่ะ ?

ย้อนกลับไปช่วงต้นซีซั่นถ้ายังจำกันได้ เบนเซม่า ก็เคยมีปัญหาขัดแย้งด้านความสัมพันธ์กับอดีตกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต้ มาแล้วที่วิจารณ์เขาว่าเป็นคนขาดความทุ่มเท ไม่เหมาะกับสไตล์ของทีม และไม่เหมาะกับการเป็นกัปตันของ อัล-อิตติฮัด

ทว่าสุดท้ายเรื่องก็ลงเอยด้วยดีโดย เบนเซม่า ได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันสมใจ พร้อมกับเปิดซิงประตูแรกใน ซาอุดิ โปรลีก และกดอีก 1 แอสซิสต์ในนัดที่จัดหนักยำใหญ่ อัล-ริยาดห์ 4-0

พอผ่านมาอีกช่วงหนึ่ง นูโน่ โดนสั่งปลดออกจากตำแหน่งเนื่องด้วยผลงานอันย่ำแย่ ก่อนจะเป็น มาร์เซโล่ กายาร์โด้ ที่เข้ามารับไม้ต่อ แต่ไม่ว่าอย่างไรผลงานของ อัล-อิตติฮัด ก็ไม่ได้ดูดีหรือดูกระเตื้องขึ้นเลยสักนิด

นั่นจึงทำให้แฟนบอลต่างเบนเป้ามารุมโจมตี เบนเซม่า ว่าเป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในทุกๆ ครั้งที่ อัล-อิตติฮัด ต้องพบกับผลการแข่งขันที่น่าผิดหวัง ถึงแม้ฟอร์มส่วนตัวโดยภาพรวมจะไม่ได้ดูแย่เลยก็ตามที่ซัดไป 12 ประตู กด 5 แอสซิสต์จากการลงเล่น 20 นัด

เกม ชิงแชมป์สโมสรโลก ที่แพ้ อัล-อาห์ลี ไคโร ทาง เบนเซม่า ก็โดนรุมด่าหนักมากช็อตไปทำเสียจุดโทษแบบไม่จำเป็น และถูกมองว่าเป็นต้นเหตุให้ต้นสังกัดเป็นฝ่ายพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-3 พร้อมกับตกรอบไปอย่างไว

เกมล่าสุดที่โดน อัล-นาสเซอร์ บุกมายำใหญ่ใส่สารพัดไปด้วยสกอร์ 5-2 ก็ยิ่งโดนสื่อและแฟนบอลตอกย้ำหนักยิ่งกว่าเก่าอีกว่า เบนเซม่า ไม่สามารถสร้างอิมแพ็คหรือสร้างความแตกต่างอะไรได้เลย ไม่เหมือนกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่สร้างพลังบวกและพลังใจที่ดีให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เสมอ แถมยังระเบิดสกอร์ได้กระจุยกระจายอีกด้วย

ทั้งที่ เบนเซม่า และ โรนัลโด้ ต่างก็ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะระดับโลก เคยผ่านการคว้ารางวัลลูกบอลทองคำอย่าง บัลลงดอร์ มาแล้ว แถมรับค่าจ้างแพงที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีก ซาอุฯ เหมือนๆ กัน แต่ผลลัพธ์ได้ออกมากลับสวนทางกันแบบเห็นได้ชัด

ความปราชัยในเกมนั้นนับเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 4 จาก 5 นัดหลังสุด และส่งผลให้ทีมแชมป์เก่าอย่าง อัล-อิตติฮัด หล่นมาจมอยู่ที่ 7 แข่ง 18 นัด มี 28 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง อัล-ฮิลาล อยู่ไกลถึง 25 คะแนนด้วยกัน

หลังจากนั้นในโลกออนไลน์ก็มีการพูดถึง คาริม เบนเซม่า หลังตัดสินใจปิดแอคเคาท์ Instagram ส่วนตัวที่มียอดฟอลโลว์กว่า 76 ล้านคนไปแบบดื้อๆ ส่วนเหตุผลนั้นคาดว่าเป็นเพพาะทนเสียงด่าเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมขนาดหนักไม่ไหว

เท่านั้นยังไม่พอเพราะล่าสุดว่ากันว่า ตัวของ คาริม เบนเซม่า ได้เดินทางออกจาก เมืองเจดดาห์ ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา และไม่ได้มาซ้อมกับทีม 2 วันติดต่อกันช่วงก่อนวันที่มีคิวดวลกับ อัล-ตาอี

อย่างไรก็ตามสื่อเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเจตนาของ เบนเซม่า นั้นหลบหนีไม่อยากมาซ้อมกับทีมจริงหรือไม่ ? เพราะเกมดังกล่าวก็ถูกยกเลิกไปเช่นกันเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายไม่เป็นใจ

ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเส้นทางและอนาคตของ คาริม เบนเซม่า จะเป็นอย่างไรต่อไป ? แต่ที่รู้แน่ๆ คือตอนนี้ภาพจำของเขาสำหรับแฟนบอลและสื่อแทบไม่หลงเหลือด้านดีอยู่เลย จากผู้ที่จะมาเป็นฮีโร่คอยยกระดับทีมเพื่อกอบโกยความสำเร็จ ไปๆ มาๆ กลายมาเป็นผู้ร้ายเฉยเลย

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline