logo-heading

เมสซี่ได้บัลลงดอร์ 2023 ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะโดนยกเป็นเต็ง 1 ตั้งแต่ซิวแชมป์โลก แต่การได้แข้งแห่งปีฟีฟ่า 2023 กลายเป็นดราม่าครั้งใหญ่ และเกิดการตั้งคำถามว่าคู่ควรหรือไม่? เดี๋ยวผมจะสรุปให้ฟังแบบละเอียดและเข้าใจง่ายที่สุด

ต้องบอกก่อนว่า ทั้ง 2 รางวัลอาจจะเป็นปี 2023 เหมือนกัน แต่ช่วงเวลาในการนับผลงานแตกต่างกัน โดยบัลลงดอร์ตัดสินจากฟอร์มฤดูกาล 2022-23 ที่มีฟุตบอลโลกด้วย แต่รางวัลฟีฟ่า 2023 ระบุว่า จะนับผลงานช่วงวันที่ 19 ธันวาคม 2022 ถึง 20 สิงหาคม 2023 ซึ่งชัดเจนว่าไม่รวมฟุตบอลโลกที่จบไปเมื่อ 18 ธันวาคม 2022

ส่วนคนที่สงสัยว่า เมสซี่อุตส่าห์ได้แชมป์โลก ไม่สมควรได้รางวัลฟีฟ่าหน่อยหรือ? คำตอบคือได้ไปตั้งแต่ปี 2022 แล้วครับ ซึ่งหนนั้นนับรวมผลงานฟุตบอลโลก 100%

หากไม่นับฟุตบอลโลก และเทียบกับฮาลันด์ในกรอบเวลาที่ฟีฟ่ากำหนด เมสซี่ทำไป 24 ประตู 8 แอสซิสต์ คว้าแชมป์ลีกเอิงที่ PSG และลีกคัพที่อินเตอร์ ไมอามี่ ส่วนฮาลันด์ทำไป 34 ประตู 7 แอสซิสต์ (อ้างอิงจากเว็บสถิติ Fbref) พร้อมคว้า 4 แชมป์คือ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ, UCL และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ

ส่วนตัวผมชื่นชอบเมสซี่นะครับ เดือนหน้าจะไปล่าลายเซ็นเมสซี่ที่ฮ่องกงด้วย แต่ถ้ามองตามหลักความจริง มองจากการมีส่วนกับประตู มองจากศักด์ศรีถ้วยแชมป์ ต่อให้ชอบเมสซี่ยังไง? ผมก็คิดว่ารางวัลนี้ควรเป็นฮาลันด์มากกว่า

คำถามคือ ในเมื่อมันเห็นชัดขนาดนี้ แล้วทำไมผลโหวตยังเป็นเมสซี่ที่ชนะ? คำตอบคือวิธีการโหวตครับ ฟีฟ่าใช้การโหวต 4 กลุ่ม ได้แก่ กัปตันทีมชาติ, โค้ชทีมชาติ, นักข่าว และแฟนบอล ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละกลุ่มก็มีความคิดไม่เหมือนกัน บางคนก็เลือกจากผลงานล้วนๆ บางคนก็เลือกจากชื่อเสียง หรือบางคนก็เลือกจากความชอบส่วนตัว

ถ้าคะแนนนับเฉพาะนักข่าวกับโค้ชทีมชาติ ฮาลันด์จะชนะเมสซี่ทันที แต่ถ้านับเฉพาะกัปตันทีมชาติและแฟนบอล เมสซี่ก็ชนะเหมือนกัน ซึ่งพอคำนวณเสร็จหมดแล้วเนี่ย ทั้งคู่ได้ 48 คะแนนเท่ากันเป๊ะ แต่กฎของฟีฟ่าบอกว่า ถ้าคะแนนเท่ากัน ให้วัดที่ผลของกัปตันทีมชาติก่อน

ปรากฏว่าเมสซี่ได้ 13 คะแนน ฮาลันด์ได้ 11 คะแนน ผลสรุปเลยกลายเป็นเมสซี่ชนะ แล้วทีนี้ก็นำไปสู่กระบวนการล่าแม่มดกันอีก เพราะมันสามารถเช็กได้หมดว่า ใครโหวตใครบ้าง? เช่น ลูก้า โมดริช โดนทัวร์ลงหนักเพราะ 3 คนแรกที่เขาโหวตคือ เมสซี่, โรดรี้ และมาร์เซโล่ โบรโซวิช

คนก็สงสัย ฮาลันด์ไม่ติด 3 คนแรกได้ไง? แล้วโบรโซวิชที่เลือกเนี่ย เพราะเป็นคนโครเอเชียเหมือนกันหรือเปล่า? 

หรือจะเป็นโค้ชทีมชาติบางคน เช่น กุนซือของฮอนดูรัส หรืออินโดนีเซีย ที่โหวตให้เมสซี่คะแนนอันดับ 1 แต่ไม่มีฮาลันด์ใน 3 คนแรกซะงั้น จนคนตั้งข้อสังเกตว่า พวกเขาเหล่านี้มีเครดิตมหาศาลก็จริง ไม่งั้นคงไม่ได้ทำงานแบบนี้ แต่ได้ติดตามผลงานตลอดจริงหรือเปล่า? บางทีโฟกัสอยู่ที่การคุมทีมซ้อม จนไม่ได้มาดูฟอร์มรายคนหรือเปล่า?

นี่คือวิธีของฟีฟ่า ส่วนวิธีการโหวตบัลลงดอร์จะไม่กระจาย นับคะแนนจากนักข่าว 100% ผมไม่ได้บอกว่าของนักข่าวต้องเชื่อถือทั้งหมด แต่อย่างน้อยมันก็เป็นมาตรฐานเดียวกัน มาจากสายวิชาชีพเดียวกัน ไม่กระจายเป็น 4 กลุ่มเหมือนฟีฟ่า 

ถามว่าบัลลงดอร์มีดราม่าบ้างไหม? เอาจริงๆ ก็มีนะครับ แต่มี 2 รูปแบบ อย่างแรกคือเคสของ เวสลี่ย์ ชไนเดอร์ ที่ควรได้ปี 2010 แต่กลายเป็นเมสซี่ หรือจะเป็น ฟร้องค์ ริเบรี่ ที่ควรได้ปี 2013 แต่กลายเป็นโรนัลโด้

ต้องบอกว่า 2 ปีที่ดราม่าหนักสุดเนี่ย เป็นช่วงที่นิตยสารฟรองซ์ฟุตบอล (ฝ่ายจัดบัลลงดอร์) ไปจับมือกับฟีฟ่ารวมเป็นรางวัลเดียวกันพอดี ใช้ชื่อว่า "ฟีฟ่า บัลลงดอร์" ช่วงปี 2010-2015 นั่นหมายความช่วงนั้น ก็จะไม่ใช่คะแนนจากนักข่าวอย่างเดียว แต่จะมีของโค้ชและกัปตันทีมชาติด้วย มาตรฐานมันเลยแกว่ง

พูดง่ายๆ คือ 2 ปีที่ชไนเดอร์กับริเบรี่ไม่ได้เนี่ย ชื่อรางวัลอาจมีคำว่าบัลลงดอร์ แต่วิธีการโหวต มันก็เหมือนที่ฮาลันด์แพ้เมสซี่ปีนี้เนี่ยแหละ กระจายเกินไปจนดราม่า 

ส่วนดราม่าอีกแบบ ในเวอร์ชั่นของบัลลงดอร์ที่ไม่รวมฟีฟ่า คือจะมีอยู่บางปีที่สูสีแบบสุดๆ จนผลโหวตห่างกันนิดเดียว เช่น เมสซี่ชนะฟานไดค์แค่ 7 แต้มเมื่อปี 2019 หรือเมสซี่ชนะเลวานดอฟสกี้ 33 แต้มเมื่อปี 2021 แต่อันนั้นมันคือดราม่าตรงที่คะแนนสูสีกันจริง คนเห็นต่างกันบ้าง มันก็เข้าใจได้

ท้ายที่สุด มุมมองของผมต่อเรื่องนี้ มันอยู่ที่ว่า คุณเชื่อในการโหวตลงคะแนนแบบไหน? หากคุณเชื่อในมาตรฐานของนักข่าว คุณก็ศรัทธาในบัลลงดอร์ต่อไป หากคุณเชื่อในมาตรฐานแบบกระจายหลายบทบาท คุณก็ศรัทธาในรางวัลฟีฟ่าไป ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก

ส่วนตัวผมชอบวิธีของบัลลงดอร์มากกว่า มันเป็นเอกภาพดี แต่ก็ไม่เคยบอกว่านักข่าวแตะต้องไม่ได้ เพราะขนาดรางวัลแข้งแห่งปีพรีเมียร์ลีก คนยังศรัทธาของ PFA ที่ให้นักเตะโหวตกันเอง มากกว่าสาขา FWA ที่ให้นักข่าวโหวตเสียอีก 

เราต้องรู้จักเคารพคนที่เห็นต่าง คนที่คิดว่าเมสซี่ควรได้ เค้าก็มีมุมมองของเค้า ส่วนคนที่มองว่าฮาลันด์ควรได้มากกว่า เค้าก็มีมุมมองเช่นกัน และไม่ได้หมายความว่าคนที่เชียร์ฮาลันด์ จะต้องเป็น FC พี่โด้เสมอไป

สำคัญที่สุด เมสซี่เองก็คงปวดหัวไม่น้อย ขนาดถอยตัวเองออกมาจากลีกยุโรปแล้ว เพื่อไม่ให้เครียดเกินไป แต่ก็ยังกลายเป็นดราม่าจากรางวัลนี้เสียอีก

ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วอยากจะหาคนตำหนิมากสุด อย่าไปตำหนิเมสซี่เลย ไปตำหนิฟีฟ่าเถอะ ถ้าไม่คิดกติกาให้ชวนดราม่า เรื่องมันคงไม่ใหญ่โตขนาดนี้

- Petr Boat - 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline