logo-heading

สโมสร โบโลญญ่า อาจไม่ใช่ทีมที่อยู่ในความสนใจของแฟนบอลหมู่มากสักเท่าไหร่ บางคนอาจจะมองว่าเป็นทีมกลางตารางธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้ว นี่คือหนึ่งในสโมสรที่เก่าแก่ที่สุดของ อิตาลี

"รอสโซ่บลู" ก่อตั้งสโมสรในปี 1909 หรือ 114 ปีมาแล้ว นี่คือทีมที่ได้โลดแล่นเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 77 ฤดูกาลซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 9 บนหน้าประวัติศาสตร์วงการลูกหนังอิตาลี

ในอดีตก็เคยคว้า สคูเด็ตโต้ ได้ถึง 7 สมัยแต่ครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นก็ต้องย้อนไปปี 1964 โน่นเลย ชีวิตและเส้นทางของ โบโลญญ่า เริ่มๆ เปลี่ยนไปหลังจากนั้นในอีกราวๆ 20 ปีต่อมา ต้องกลายมาหนีตาย ตกชั้นไปลีก เซเรีย บี, เซเรีย ซี ถึงจะไต่กลับขึ้นมาแต่ต้องร่วงกลับไปใหม่จนกลายเป็นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ และก็แทบไม่ได้ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์อีกเลย

ไม่ไกลเกินฝัน ! โบโลญญ่า กับความหวังในการไปลุย UCL

ความสำเร็จครั้งสุดท้ายของ โบโลญญ่า ก็คือได้แชมป์ ยูฟ่า อินเตอร์ โตโต้ คัพ ปี 1998 และครั้งสุดท้ายที่เฉียดการคว้าโทรฟี่ก็คือ อินเตอร์ โตโตั คัพ ในปี 2002 ที่แพ้ ฟูแล่ม ในรอบชิงชนะเลิศ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่น้อยคนนักจะจดจำและพูดถึงทัพ "รอสโซ่บลู" นับตั้งแต่นั้น ด้วยหายนะทางด้านการเงินทำให้ โบโลญญ่า ต้องเจอกับวิกฤตมากมาย มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมถึง 4 ครั้งนับตั้งแต่ช่วงต้นยุค 2000 ร่วงไปเล่นใน เซเรีย บี 2 ครั้ง และไม่เคยจบสูงกว่าอันดับ 7 ใน กัลโช่ เซเรีย อา

ทว่า ณ ปัจจุบันมีหลายๆ สิ่งเกิดขึ้นและเปลี่ยนไปที่ โบโลญญ่า ได้ผู้นำโปเจ็กต์ของสโมสรเป็น โจอี้ ซาปูโต้ นักธุรกิจชาวแคนาดามาบริหาร และได้คัดเลือกบุคลากรดีๆ เข้ามาไม่ว่าจะเป็น โจวานนี่ ซาร์โตลี่ ผู้อำยวยการฝ่ายเทคนิคจาก อตาลันต้า

ตลอดจนโค้ชหนุ่มไฟแรงอย่าง ติอาโก้ ม็อตต้า ซึ่งอดีตก็เคยเป็นนักเตะของ บาร์เซโลน่า, แอตฯ มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มันอาจจะดูเสี่ยงไปหน่อยกับการแต่งตั้ง อดีตดาวเตะทีมชาติอิตาลี เพราะประสบการณ์ก่อนหน้านั้นกับ เจนัว คุมได้ 2 เดือนก็ตกงาน ส่วนกับ สเปเซีย อยู่ได้แค่ปีเดียวก็ต้องหางานใหม่เช่นกัน

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่กดดันหรือต้องคาดหวังอะไรมากมายนัก เพราะ โบโลญญ่า ไม่ได้ชื่อว่าเป็นทีมชั้นนำเหมือนยุคก่อนๆ แล้ว นักเตะชุดนี้ก็ไม่มีแข้งสตาร์เลยสักคน ดังนั้นมันก็เหมือนการเริ่มต้นใหม่หมดจากศูนย์

ม็อตต้า ปลูกฝังนักเตะเหล่านี้โดยเน้นใช้ความมุ่งมั่นและการทำงานหนักเป็นหลัก ไม่เก่งไม่เป็นไรแต่ต้องขยันและเล่นตามแผนเพื่อทีม ด้วยความที่อดีตเขาเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมเกมดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับแดนกลางที่ต้องแน่นและเกมรับต้องรัดกุมเป็นพิเศษ และได้นำมาผสมผสานกับฟุตบอลยุคใหม่ที่เน้นใช้พละกำลังวิ่งไล่เพรสกดดันคู่แข่ง

การมาของ ติอาโก้ ม็อตต้า สร้างอิมแพ็คและเพิ่มความมั่นใจให้กับนักเตะหลายๆ คนไล่ตั้งแต่ ริคคาร์โด้ ออร์โซลินี่ ก็น่าจะมีฤดูกาลที่ดีที่สุดนับตั้งแต่อยู่กับ โบโลญญ่า มา 7 ปี เพราะตอนนี้นำไปดาวซัลโวของทีมที่ 10 ประตู และ กดไปอีก 3 แอสซิสต์

ไอ้หนู โจชัว เซิร์กซี ที่แจ้งเกิดไม่ได้กับ บาเยิร์น มิวนิค ปีที่แล้วยิงไปแค่ 2 ประตูจาก 21 นัด แต่ตอนนี้เขาคือดาวซัลโวร่วมของทีมที่ 10 ประตู และกดไปอีก 4 แอสซิสต์

ลูอิส เฟอร์กูสัน ก็มีผลงานที่ดีกว่าแต่ก่อนในฐานะตัวสร้างสรรค์โอกาสซึ่งยิงได้ถึง 6 ประตูพร้อมทำ 4 แอสซิสต์ เช่นเดียวกับนักเตะใหม่ๆ พวก สเตฟาน พอสช์, นิโกล่า โมโร่, โจวานนี่ แฟบเบี้ยน, อเล็กซิส แซลเลอเมเกอร์ส และ เรโม ฟรอยเลอร์ ต่างก็มีส่วนสำคัญกับทีม แม้บางคนจะเป็นตัวจริงบ้างสำรองบ้างก็ตาม

ดังนั้นนอกจากตัว ม็อตต้า แล้วคนที่ควรได้รับความดีความชอบก็คือคนที่อยู่เบื้องหลังในการจัดสรรหาบุคลากรเหล่านี้ ส่วนสภาวะเศรษฐกิจกับนโยบายการใช้เงินให้เป็น ไม่ฟุ่มเฟือยและรอบคอบ มีการเปิดเผยตัวเลขเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2024 ว่า ตอนนี้มูลค่าทางการตลาดของ โบโลญญ่า นั้นอยู่ที่ 159.8 ล้านยูโร

ฤดูกาลแรกของ ม็อตต้า เขาพา โบโลญญ่า จบอันดับ 9 ส่วนปีนี้มาดียิ่งกว่าแบบเหนือความคาดหมาย เพราะพวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส พร้อมกับรั้งอันดับ 4 แข่ง 30 นัด มี 57 คะแนน ตามอันดับ 3 อยู่ 2 คะแนน และทิ้งอันดับ 5 อยู่ 5 คะแนน

ช่วง 10 นัดหลังสุด โบโลญญ่า แพ้แค่นัดเดียวนั่นคือการแพ้ อินเตอร์ มิลาน 0-1 นอกนั้นมีการคว้าชัยถึง 8 นัด และ 8 จาก 10 นัดที่ว่านี้พวกเขายิงได้อย่างต่ำ 2 ประตู

ส่วนสถิติการดวลกับทีมใหญ่ๆ ในปีนี้ก็จัดว่าไม่เลวเลย พวกเขาไม่แพ้ ยูเวนตุส, นาโปลี, บุกไปเสมอ อินเตอร์ มิลาน ได้ที่ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ชนะ ลาซิโอ้ ชนะ โรม่า ชนะ อตาลันต้า บุกไปเสมอ เอซี มิลาน ที่ ซาน ซิโร่ หลังจากที่แพ้คาบ้านในช่วงต้นซีซั่น

ถ้ายังรักษามาตรฐานของตัวเองแบบนี้ต่อไปได้ก็มีโอกาสสร้างสถิติจบอันดับสูงสุดใน กัลโช่ เซเรีย อา ในรอบๆ หลายสิบปีได้เลย และอาจได้โอกาสไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยก็เป็นได้

แน่นอนว่าการได้โอกาสไปโลดแล่นในฟุตบอลยุโรปคือสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ ย้อนกลับไปในอดีตหากไม่นับ อินเตอร์ โตโต้ คัพ พวกเขาเคยเล่น ยูโรเปี้ยน คัพ รอบคัดเลือก เมื่อปี 1964 แต่ก็ต้องพลาดพลั้งให้กับ อันเดอร์เลชท์ ส่วน ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ก็ได้เล่นอยู่ 2 ครั้ง แต่ก็ตกรอบแรกทั้งหมด

ส่วน ยูฟ่า คัพ หรือ ยูโรปา ลีก ในปัจจุบันได้เล่นอยู่ 4 ฤดูกาล และปีที่ไปไกลที่สุดก็คือ 1999 ที่เจอกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะตกรอบไปด้วยกฏอเวย์โกล์หลังสกอร์รวมเสมอกัน 1-1

ไม่ว่าฤดูกาลนี้จะจบอย่างไร ? จะได้ตั๋วไปลุย "ยูซีแอล" หรือไม่ ? แต่แน่นอนว่านี่คือ โบโลญญ่า ชุดที่ดีที่สุดในรอบหลายสิบปี และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ชวนให้รู้สึกเซอร์ไพรส์เลยหากผู้ชายที่ชื่อ ติอาโก้ ม็อตต้า จะกลายเป็นหนึ่งในกุนซือเนื้อหอมอีกคน

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline