จุดจบของ เทน ฮาก ? รวมสถิติสุดพังหลัง ผีแดง โดน พาเลซ ถล่มเละ

สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับวันที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดก็ถือเป็นวันแห่งหายนะจากการบุกไปโดน คริสตัล พาเลซ จัดหนักไล่ถล่มไปแบบเละเทะถึง 4-0

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากผลงานในเกมดังกล่าวซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันหมด คนที่โดนหนักที่สุดก็ไม่ใช่ที่ไหนนั่นก็คือกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก ที่ตอนนี้ในสายตาของทุกๆ คนต่างก็มองว่า "นี่คือจุดจบของเขากับ ปีศาจแดง อย่างแท้จริง"

มีตัวเลขสถิติต่างๆ มากมายเกิดขึ้นหลังจบเกมๆ นี้ซึ่งล้วนแล้วต่างก็เป็นสถิติที่เลวร้ายและไม่น่าจดจำทั้งนั้น จะมีอะไรบ้างไปดูกัน ?

ใครจะไปเชื่อว่าเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงแค่ 7 ครั้ง และตรงกรอบแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ผิดกับ คริสตัล พาเลซ ที่มาตรฐานของทีมและชื่อชั้นเป็นรองกว่ากลับมีโอกาสมากถึง 18 ครั้ง และตรงกรอบถึง 10 ครั้ง และเปลี่ยนเป็น 4 ประตู

4 ประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียในเกมนี้นับเป็นประตูที่ 81 จากการลงเล่นทุกรายการในซีซั่นนี้ นับเป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดเท่ากับซีซั่น 1976-77 ที่โดนไป 81 ประตูเท่ากัน และมันมีโอกาสโดนเพิ่มอีกจนกลายเป็นสถิติใหม่ เพราะพวกเขายังเหลือโปรแกรมอีก 4 นัด เจอกับ อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ไบร์ทตัน และนัดชิงฯ เอฟเอ คัพ กับ แมนฯ ซิตี้

ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยประตูได้เสียต่ำที่สุดคือ -1 เมื่อฤดูกาล 1989-90 ซึ่งปีนั้นจบที่ 13 ส่วนตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่อันดับ 8 และมีลูกได้เสีย -3

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้เท่ากับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด พบกับความปราชัยมากที่สุดต่อ 1 ฤดูกาลใน พรีเมียร์ลีก ที่ 13 นัด และตัวเลขนั้นมีโอกาสบวกเพิ่มไปอีกใน 3 นัดสุดท้ายที่เจอกับ อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิ่ล และ ไบร์ทตัน

แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยบุกไปแพ้ทีมจาก ลอนดอน ถึง 5 ครั้งต่อ 1 ฤดูกาลใน พรีเมียร์ลีก มาก่อน แต่ตอนนี้มันได้เกิดขึ้นแล้ว (แพ้ สเปอร์ส 0-2, แพ้ อาร์เซน่อล 1-3, แพ้ เวสต์แฮม 0-2, แพ้ เชลซี 3-4 และแพ้ คริสตัล พาเลซ 0-4)

นี่เป็นอีกครั้งที่ยอดกองกลางอย่าง กาเซมิโร่ ต้องถอยไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็นท่ามกลางปัญหาผู้เล่นแผงหลังที่หายกันเกือบเกลี้ยง แต่สถิติที่ไม่น่าจดจำก็คือ เขากลายเป็นผู้เล่นในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่โดนคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านมากที่สุดต่อ 1 เกมที่ 8 ครั้ง

ธันวาคม 1972 นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ คริสตัล พาเลซ เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึง 5-0 นั่นคือชัยชนะด้วยสกอร์ที่ถล่มทลายที่สุดยามเจอกับ "ปีศาจแดง" แต่ถึงกระนั้นในฤดูกาลนี้ คริสตัล พาเลซ เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้งไปและกลับเป็นครั้งแรกบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร

 

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2016-17 จะมีอยู่แค่ 2 ทีมเท่านั้นที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้งไปและกลับในเกมลีกโดยที่ไม่เสียประตูเลย นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล ซีซั่น 2021-22 (เหย้า 0-5, เยือน 0-4) และ คริสตัล พาเลซ ในฤดูกาลนี้ (เหย้า 0-1, เยือน 0-4)

นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนคู่แข่งใน พรีเมียร์ลีก และแพ้ด้วยผลต่าง 4 ประตู และมันมีถึง 3 เกมที่เกิดขึ้นในยุคของ เอริค เทน ฮาก โดย แพ้ ลิเวอร์พูล 0-7 ซีซั่น 2022-23, แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-4 ซีซั่น 2022-23 และ แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-4 ซีซั่น 2023-24

ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอยู่อันดับ 8 แข่ง 35 นัด มี 54 คะแนนเท่ากับอันดับ 7 เชลซี แต่ลูกได้เสียเป็นรองกว่าถึง 14 ประตู ไม่แน่ว่าในอีก 3 เกมที่เหลือที่จะเจอกับ อาร์เซน่อล, นิวคาสเซิ่ล และ ไบร์ทตัน พวกเขาจะเก็บได้ 9 แต้มหรือไม่

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อมาเป็น พรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยจบอันดับต่ำกว่าที่ 7 (ปีของ เดวิด มอยส์ 2013-14)

อย่างที่เราทราบกันว่ามันมีหลายสถิติที่ไม่น่าจดจำที่เกิดขึ้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ และอาจจะเกิดขึ้นเพิ่มอีกใน 4 นัดสุดท้าย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ถึงเวลาที่เขาควรไปจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แล้ว"

แต่เฮียแกก็ยังดื้อ ยืนยัน และมั่นใจว่า "เขาคือคนที่ใช่สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด" เดี๋ยวต้องมาดูกันว่าทางบอร์ดบริหารจะเอายังไงกับอนาคตของเขา ?

HaMu Dos Santos